6 พ.ค. 2021 เวลา 10:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Shutterstock หุ้นสื่อตัวเล็กสุดจี๊ด สร้างผลตอบแทน +130% ในปีที่ผ่านมา
Shutterstock ผู้นำตลาด platform -ขายรูปและวิดีโออันดับ 1 ของโลกด้วย market share 59.85% ทิ้งอันดับ 2 อย่าง istock ที่มีส่วนแบ่งตลาดที่ 20.48%
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทคือ ผู้ผลิตสื่อ แบรนด์ และ ธุรกิจที่ต้องการคอนเท็นต์คุณภาพสูง หรือผู้ที่ต้องการสื่อที่ถูกลิขสิทธิ์
ตัวอย่างลูกค้าที่เราคุ้นชื่อ เช่น Marvel, National Geographic, Google, Microsoft, 20th Century Fox
ปัจจุบัน Shutterstock มีคลังภาพประมาณ 350 ล้าน และ วิดีโอ 20 ล้าน อัพเดตเพิ่มเติมทุกสัปดาห์ โดยให้บริการทั้งรูปแบบการซื้อรายชิ้น และแบบ Subscription (ซื้อไม่อั้นแบบบุฟเฟต์)
ตลาด stock image เติบโต CAGR 8% ควบคู่กับการขยายตัวของโซเชียลมีเดีย, อีคอมเมิร์ซ และ
ความนิยมในการสร้างเว็บแบบ Interactive ทำให้มีความต้องการในส่วนวัสดุสำหรับ UX และ UI มากขึ้น
ช่วงที่ผ่านมา Shutterstock ทำดีลสำคัญ ประกาศซื้อ Turbosquid เพื่อหาลูกค้ากลุ่มใหม่ หวังตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบครบวงจร
ซึ่งจุดเด่นของ Turbosquid คือเป็น platform ชั้นนำในอุตสาหกรรม 3D marketplace มากว่า 20 ปี ลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมสื่อทุกประเภท ไล่ตั้งแต่ภาพยนตร์ โทรทัศน์ เกม ข่าว โฆษณา และสถาปัตยกรรม ตัวอย่างลูกค้าเช่น Apple, Netflix, TED, NFL, WIX และบริษัทชั้นนำใน Fortune 100
ดีลนี้น่าสนใจอย่างไร?
Shutterstock เฝ้าติดตามการเติบโตขึ้นของคอนเทนต์ 3 มิติ AR และ VR มาอย่างต่อเนื่อง พบว่า คอนเท็นต์เหล่านี้มีความสามารถในดึงดูดผู้บริโภคอย่างมาก และจะเข้ามาดิสรัปวงการสื่ออย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดีลนี้ทำให้เกิดการ Synergy กันของ 2 บริษัท และจะเป็น platform แรกที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และ โมเดล 3 มิติ
ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จากวัสดุที่มีในครอบครอง เช่นนำ ไฟล์ 2 มิติไปทำเป็นส่วนประกอบของไฟล์ 3 มิติ หรือนำไฟล์ 3 มิติกลับมาขายในรูปแบบของ ภาพและ วิดีโอก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ Shutterstock ได้ฐานลูกค้าเดิมของ Turbosquid กว่า 2 ล้านคนมาไว้ในครอบครอง ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านครีเอทีฟ ผู้ผลิตสื่อต่าง ๆ ซึ่งมี stickyness สูง
หลังจากนี้ Shutterstock จะกลายเป็นบริษัทผลิตสื่อแบบครบวงจรพร้อมมีข้อได้เปรียบเป็น Content ในมือจำนวนมาก
หากรวมรายได้ทั้ง 2 บริษัทจะกลายเป็น 3D Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยปราศจาก 3D Asset ที่ผลิตเอง และกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Adobe ซึ่งมี Adobe Dimension เป็นเครื่องมือในหมวดเดียวกัน
แต่มีความเสี่ยงต้องระวังเหมือนกัน เนื่องจาก Shutterstock เผชิญความลำบากมาก่อนเมื่ออุตสาหกรรม stock image ไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปมากเท่าที่ควร จากการเข้าถึงและสามารถดาวน์โหลดคอนเท็นต์ภาพได้ฟรีจาก search engine เป็นอุปสรรค์ต่อการเติบโตอย่างมาก จึงต้องมีการลดแลกแจกแถมและทำการตลาดจำนวนมาก กดดันให้ Operating Margin ลดลง และ SG&A เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำราคาหุ้นอยู่ในเทรนด์ sideway down ตั้งแต่ต้นปี 2014 เป็นต้นมา
และช่วงโควิดนี่เองที่บริษัทเพิ่งกลับมาบริหาร Operating Margin และ SG&A ได้ดีขึ้น ทำให้ราคาหุ้นกลับมาพุ่งเป็นจรวดอีกครั้ง
การกลับมาครั้งนี้จะอยู่ได้นานขนาดไหน และดีลควบรวม Turbosquid จะเป็น New S-Curve ใหม่ของ Shutterstock หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไปครับ
โพสต์นี้ไม่ได้มีการแนะนำให้ซื้อ-ขายใด ๆ
Bottomliner
ติดตาม BottomLiner อีกช่องทางได้ที่ Line Openchat กันตามลิ้งนี้ https://line.me/ti/g2/GUZne2IO6dEfbOiwaDbgzw
โฆษณา