วีใบตาล
คิดว่าท่านผู้อ่านคงเคยเห็นภาพพระเถระทางภาคเหนือถือพัดใบตาล บางท่านก็อาจจะสงสัยว่าทำไมต้องถือพัดใบตาลด้วย
ผู้เขียนขอนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ วีใบตาล นำเสนอแก่ทุกท่าน. ติดตามมาเลย
วีใบตาล ๑ ในเครื่องบริขารของพระสังฆะเมืองล้านนา เป็นของอเนกประสงค์ เพื่อบังแดด พัดรำเพยลม ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับประชาชน เล่มที่ ๗ ชื่อ จุลวัคค์ พัดใบตาล พัดขนหางนกยูง เป็นหนึ่งในสามพัดที่พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาติให้ภิกษุใช้ได้
การถือพัดใบตาลนี้เป็นธรรมเนียมที่พระสงฆ์ล้านนาใช้สืบต่อกันมาจากลังกาแต่สมัยโบราณเช่นเดียวกับการห่มจีวรแบบรัดอก
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ประทานความเห็นไว้และมีการนำมาตีพิมพ์ไว้ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่มที่ ๓๒ เรื่องที่ ๑ พ.ศ ๒๕๕๓ หน้า ๑-๑๐ ว่า “พระสงฆ์ถือตาลปัตรคงมาจากลังกาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ เพราะพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์เป็นที่เลื่อมใสทั้งใน พม่า ไทย ลาวและกัมพูชา ด้วยเหตุนี้นอกจากพระสงฆ์ล้านนาแล้วในปัจจุบันยังเห็นพระสงฆ์พม่า ศรีลังกา ใช้พัดใบตาลด้วยเช่นกัน”
ธรรมเนียมการถือวีใบตาลของตุ๊เจ้าล้านนาในอดีตพบว่า ในช่วงพรรษาแรกจนถึง ๓๐ พรรษา จะใช้วีใบตาล เมื่อครบ ๓๐ พรรษาขึ้นไปจะเปลี่ยนเป็นวีหางนกยูง เป็นคติดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาในกลุ่มวัฒนธรรมไทลื้อ ไทขึน ไทใหญ่ มอญ ม่าน
การถวายวีใบตาล จะได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฏก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุทกนิกาย อปทาน ภาค ๑ ว่า
“ย่อมไม่รู้สึกหนาว ๑ ร้อน ๑ ความเร่าร้อนไม่มีแก่เรา ๑ ไม่รู้สึกกระวนกระวาย ๑ ไม่รู้สึกความเดือดร้อนจิตของเรา ๑ เราดับไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ และไฟทั้งปวงได้แล้วเพราะผลอันหลั่งออกแห่งกรรมนั้นของเรา”
ขอบคุณแหล่งที่มา หนังสือ สิริชีวประวัติ วัตรปฏิบัติ หลักคำสอนและมงคลบารมี ครูบาเจ้าศรีวิชัย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
