Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Kid Positive
•
ติดตาม
7 พ.ค. 2021 เวลา 04:00 • ครอบครัว & เด็ก
เมื่อเด็ก ๆ ต้องไปโรงเรียน...ทางโรงเรียนจะมีวิธีการจัดการและป้องกันเรื่องการติดเชื้อ Covid-19 อย่างไร?
วันนี้แอดมาขอแชร์ประสบการณ์เรื่องการไปเรียนหนังสือตามปกติที่โรงเรียนของเด็ก ๆ ค่ะ เพราะตอนนี้ที่ประเทศ Netherlands นั้น ให้เด็ก ๆ ชั้นประถมไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติมาได้สักพักแล้วค่ะ พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะว่าเริ่มกันยังไง
ก่อนเปิดโรงเรียน : ทางโรงเรียนจะส่งอีเมล์ไปผู้ปกครองให้ทำการตรวจสอบดูว่าเด็ก ๆ มีอาการไข้ขึ้น น้ำมูกไหล ไอแห้ง ๆ ปวดหัว ตัวร้อน หรืออาการใด ๆ ที่ส่อเสี่ยงกับการติดเชิ้อโควิดหรือไม่
หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดอยู่กับบ้านแล้วเรียนทาง Online โดยคุณครูจะทำการสั่งงานให้หน้ากระดานในโปรแกรมที่เด็ก ๆ ใช้เรียน
หากไม่มีอาการใด ๆ ก็มาเรียนได้ตามปกติค่ะ
1. สำหรับผู้ปกครอง :
หากมาส่งเด็ก ๆ ให้มาส่งแค่บริเวณหน้าประตูโรงเรียนโดยให้เว้นระยะห่างจากกัน 1.5 เมตรค่ะ
หากใครบ้านอยู่ใกล้แล้วเด็กสามารถเดินมาได้ก็ขอความร่วมมือให้เดินมาโรงเรียน ส่วนเด็กโตใครสามารถขี่จักรยานมาโรงเรียนเองได้ก็ให้ปั่นจักรยานมาโรงเรียนเองค่ะ เพื่อลดการแออัดของคนและจักรยานในช่วงเวลาก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียนค่ะ
คุณครูและผู้อำนวยการจะยืนรอรับและทักทายนักเรียนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนค่ะ และงดให้ผู้ปกครองมาทำการทักทายครูโดยการพูดคุยด้วยนะคะเพื่อจะได้ไม่ไปออกันแถวประตูเข้าออก แต่ผู้ปกครองสามารถทักทายได้โดยการโบกมือทักทายค่ะ)
ส่วนเวลาในการเข้าเรียนและเลิกเรียนจะมีการกำหนดเวลาที่ห่างกันไปประมาณ 20 นาทีค่ะ ชั้นไหนเข้าเรียนก่อนก็เลิกเรียนก่อน
รวมถึงตอนเช้าให้มาถึงก่อนโรงเรียนเข้าประมาณ 10 นาทีค่ะ หากมาก่อนก็ต้องยืนรอหน้าประตูค่ะ ที่นี่เรื่องตรงต่อเวลานี้สำคัญมาก ๆ ค่ะและโดยส่วนใหญ่ทุกคนก็ตรงต่อเวลาค่ะ แบบว่ากะเวลาในการเดินทางได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ (เรื่องตรงต่อเวลานี่...ตอนแรก ๆ แอดต้องใช้เวลาในการปรับตัวเองอยู่สักพักเลยล่ะค่ะ ตอนนี้โปรแล้วจ้า)
2. การเรียนในห้องเรียน :
เด็ก ๆ ทุกคนไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยนะคะ รวมถึงคุณครูและทุกคนที่ทำงานในโรงเรียนด้วยค่ะ เนื่องจากทุกคนก่อนจะมาทำงานได้ดูแลสุขภาพรวมถึงเช็คอาการต่าง ๆ มาอย่างดีว่าไม่มีการติดเชื้อโควิดก่อนเริ่มมาทำงาน รวมถึงเชื่อใจว่าผู้ปกครองทุกคนจะรับผิดชอบและเช็คอาการเด็ก ๆ เป็นอย่างดีตามอีเมล์ที่แจ้งไปก่อนวันที่จะทำการเปิดเรียน
ในห้องเรียนจะมีการเปิดหน้าต่างให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทเกือบทั้งวันค่ะ แอดอยากจะบอกว่าในวันที่เปิดเทอมสัปดาห์แรกของโรงเรียนลูกแอดนั้น อากาศหนาวติดลบค่ะแต่ทางโรงเรียนก็แจ้งให้ผู้ปกครองทราบนะคะ และให้เด็ก ๆ ใส่เสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอมาด้วยค่ะ
แอดลองถามลูกแอดว่าเป็นยังไงบ้าง ลูกตอบว่าไม่ค่อยหนาวเพราะที่ห้องเปิดเครื่องทำความร้อนตลอดเวลาค่ะ แถมเด็ก ๆ ยังออกไปวิ่งเล่นปาหิมะกันในช่วงพักกลางวันด้วยค่ะ สรุปง่าย ๆ เด็ก ๆ ไม่รู้สึกอะไรเพราะสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเรียนที่สนุกและการเล่นกับเพื่อน ๆ นั่นเองค่ะ
3. หากมีเด็กคนใดคนหนึ่งในชั้นเรียนติดเชืัอ Covid-19 ควรทำดังนี้ค่ะ
- ผู้ปกครองแจ้งข่าวให้คุณครูในชั้นนั้นทราบและทางโรงเรียนจะทำการส่งอีเมล์ไปให้ผู้ปกครองในชั้นนั้นทราบและไม่ต้องมาโรงเรียนเพื่อที่ทำการกักตัวเด็กที่บ้าน 7 วัน ก่อนไปทำการตรวจเชืัอค่ะ (ในอีเมล์ที่แจ้งข่าว ทางโรงเรียนจะ...ไม่มีการบอกชื่อเด็กที่เด็กติดเชื้อนะคะ แต่ผู้ปกครองมักจะทราบจากลูก ๆ ของตัวเองค่ะ และเมื่อทราบก็ไม่มีใครว่าอะไรนะคะมีแต่ส่งข้อความไปให้กำลังใจให้เด็กที่ป่วย...ให้หายป่วยไว ๆ กันค่ะ)
- สำหรับเรื่องการเรียนก็จะเป็นการเรียน online ที่บ้านตามวันและเวลาที่เรียนกันปกติค่ะ คุณครูเองก็ต้องกักตัวที่บ้าน 7 วัน เหมือนกัน แต่ก็ทำการสอนเด็ก ๆ ตามปกติ โดยจะมีโปรแกรม online เด็ก ๆ สงสัยอะไรก็พิมพ์ถามกันที่กระดานคำถามของแต่ละคนได้เลยค่ะ เพราะข้อความจะส่งตรงไปที่คุณครูโดยตรงและคุณครูจะอธิบายปัญหาที่เด็ก ๆ ถามค่ะ และในบางวันก็จะมีช่วง VDO call คุยกัน เล่นเกมส์กันกับเพื่อน ๆ ทุกคนในชั้นเรียนด้วยค่ะ
- หลังครบ 7 วัน ทุกคนรวมถึงคุณครูไปตรวจเชื้อแล้ว ผู้ปกครองเด็ก ๆ ทุกคนจะต้องส่งรายชื่อไปแจ้งคุณครูภายในวันที่กำหนดค่ะ เพื่อจะได้ประเมินดูว่ามีเด็กต้องมาเรียนกี่คน มีเรียน online อีกกี่คน เพราะคุณครูจะได้ทำแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมและครบกันทุกคนค่ะ
- หลังจากมาเรียนแล้ว เด็ก ๆ ทุกคนก็ยังคงต้องปฏิบัติตามกฏของสาธารณะสุขต่อไป คือ ไม่เป็นไข้สูง ไม่ไอแห้ง ไม่มีน้ำมูกไหล ปวดหัว เป็นต้นค่ะ (หากใครเป็นภูมิแพ้ มีอาการคัดจมูกอยู่เสมอ อันนี้ผู้ปกครองต้องปรึกษาคุณหมอและแจ้งให้ทางโรงเรียนและคุณครูทราบด้วยนะคะ ไม่งั้นเด็กอาจต้องกลับบ้านเพราะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลค่ะ)
4. เด็ก ๆ ยังคงเล่นด้วยกันอย่างใกล้ชิดได้ค่ะ เนื่องจากทางกระทรวงสาธารณะสุขได้ทำการวิจัยมาจนค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า..เด็ก ๆ จะมีภูมิต้านทานโรคสูงกว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าจะไม่ทุกคนแต่หากว่าไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรแล้ว หากเด็กคนไหนป่วยก็จะหายและฟื้นตัวได้ไวค่ะ
- โดยส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เห็นนะคะ เด็กในห้องลูกแอดป่วย นักเรียนนั่งเรียนกันเป็นกลุ่มไม่ได้แยกโต๊ะเรียนห่างจากกันนะคะ ปรากฏว่าไม่มีใครเด็กเชื้อจากเด็กคนนั้นเลยค่ะ (แต่ถ้านั่งแยกโต๊ะเรียนได้ก็แยกเถอะค่ะ ปลอดภัยเพิ่มขึ้น)
- เด็กคนนั้นป่วยและฟื้นตัวได้เร็วจริง ๆ ค่ะ แอดไม่ได้หมายความว่าหายเร็วกว่าคนอื่นนะคะแต่หมายความว่า เด็กป่วยไปตามระยะเวลาของเชืัอโรคค่ะ ไม่มีโรคอะไรแทรกซ้อน และหลังจากหายป่วยก็สามารถไปเรียน เล่นกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ได้ตามปกติค่ะ
- อีกเคสก็ลูกของแอดค่ะ เพื่อนในชั้นเรียนติดเชื้อ พ่อกับแม่ก็ติดเชื้อ แต่ลูกแอดไม่ติดเชื้อค่ะ ตอนไปตรวจหาเชื้อ..เจ้าหน้าที่แซวว่าลูกแอดเป็นโปรแล้วค่ะ เพราะมาตรวจหลายรอบ มาถึงก็นั่งเก้าอี้เหงยจมูกให้เอาที่ตรวจมาแหยงจมูกเลยค่ะ
อ้อ! ที่นี่จะมีใบประกาศนียบัตรให้เด็ก ๆ ที่มาตรวจด้วยนะคะ แต่ลูกแอดไม่เอาค่ะ ลูกแอดบอกว่าเป็นเรื่องของเด็ก ๆ 555 (โถว...ตัวเองก็เด็กประถมนะลูก)
5. เวลาสอบก็สอบตามปกตินะคะ ใครป่วยก็สอบ online ค่ะ หากมาโรงเรียนก็สอบที่โรงเรียนค่ะ ระบบการเรียนการสอนนี่ทางโรงเรียนต้องสามัคคีชุมนุมหาแนวทางกันเป็นแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม และแผนสำรองอื่น ๆ ให้ดี เพราะเดี๋ยวเรียนที่โรงเรียน เดี๋ยวเรียน online ทำยังไงถึงจะได้ผลดีต่อการเรียนการสอนทั้งของครูและเด็ก ๆ ซึ่งอันนี้จะมีหน่วยงานด้านกระทรวงการศึกษาแนะนำ รวมถึงวิจารณญาณของผู้อำนวยการและคุณครูที่สอนในแต่ละชั้นและในแต่ละโรงเรียนด้วยค่ะ
6. เรื่องเชื้อ Covid-19 นี่ทางคุณครูทุกชั้นจะทำการสอนให้เด็ก ๆ ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อโควิดเช่นมีหน้าตาแบบไหน หากติดเชื้อจะมีการแพร่ระบาดกี่วันและกี่วันจะหาย รวมถึงมีวิธีการป้องกันอย่างไร เช่น ล้างมือเป็นประจำ แยกจาน ช้อน แก้วน้ำ กัน รวมถึงดื่มน้ำ ทานผักผลไม้เยอะ ๆ และออกกำลังกายเล่นกีฬาให้ร่างกายแข็งแรงเป็นต้นค่ะ
- ที่นี่จะไม่สอนให้เด็กกลัวเชื้อโรคนะคะ ที่ประเทศ Netherlands จะเน้นสอนให้เด็ก ๆ กล้าหาญ กล้าแสดงออก มีเหตุมีผล กล้าคิดกล้าตัดสินใจ เพราะฉะนั้นเด็ก ๆ ที่นี่โดยส่วนใหญ่ไม่มีใครกลัวโควิดค่ะ ตอนที่แอดป่วย...ลูกแอดก็อธิบายเป็นฉาก ๆ เลยค่ะ ว่าจะติดเชืัอกี่วันและประมาณวันไหนจะหายซึ่งก็เป็นไปตามนั้นค่ะ (คุณครูสอนมาดีค่ะอันนี้ให้ห้าดาวเลยค่ะคุณครู)
วันนี้เป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ที่แอดมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ เผื่อเพื่อน ๆ จะนำไปใช้ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้างค่ะ
*หมายเหตุ ที่ยุโรปโควิดระบาดมาหนักมากตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ มาปีนี้คนส่วนใหญ่ก็เลยเข้าใจและไม่ค่อยกลัวกันสักเท่าไรค่ะ ทุกคนใช้ชีวิตกันค่อนข้างจะปกติทั่วไปและพยายามป้องกันการติดเชื้อโควิด...โดยการช่วยกันรับผิดชอบดูแลตนเองและครอบครัวให้ดี รวมถึงมีส่วนร่วมในการช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมค่ะ
สำหรับต้วแอดเองก็ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนะคะ เพราะวัคซีนต้องให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงก่อนค่ะ และตัวแอดเองก็ไม่ได้กลัวเจ้า Covid-19 แล้วนะคะ เพราะก้าวข้ามความกลัวมาแล้วค่ะ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น "ตั้งสติกันก่อนนะคะ แล้วปัญญาจะนำพา...ไปสู่หนทางแห่งการแก้ไขค่ะ" วันนี้แอดลาไปก่อนนะคะแล้วเจอกันใหม่ค่ะ
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สร้างความมั่นใจในตนเอง...สไตล์เด็ก Dutch
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย