งานที่แท้จริงของ Milkshake McDonald’s 🥤
.
หลายปีมาแล้ว McDonald’s ในอเมริกาพยายามจะเพิ่มยอดขาย Milkshake ของตัวเอง จึงได้เชิญลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาสัมภาษณ์ ว่าพวกเขาอยากให้ทางร้านพัฒนาสินค้าในจุดไหนบ้าง เช่น อยากให้เพิ่มรสชาติใหม่ เพิ่มขนาด หรือเพิ่มความหวานหรือไม่ แต่หลังจากที่นำคำแนะนำที่ได้ไปปรังปรุง ปรากฏว่ายอดขาย Milkshake ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย 🚫
.
พวกเขาจึงได้จ้างศาสตราจารย์ Christensen และทีมงานมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งหลังจากได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าอยู่หลายวัน Christensen ก็พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ Milkshake ได้ถูกขายไปในช่วงเช้า ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อมักจะมาคนเดียว ซื้อ Milkshake แก้วเดียว พอซื้อเสร็จก็มุ่งไปที่รถแล้วขับออกไป 🚗
.
วันรุ่งขึ้น Christensen และทีมงานจึงมาดักรอแต่เช้าตรู่เพื่อถามลูกค้าที่มาซื้อ Milkshake ในทำนองว่า “คุณกำลังจ้าง Milkshake นี้ไปทำงานอะไรกัน?” 🤔
.
สิ่งที่ Christensen พบก็คือแทบทุกคนที่มาซื้อ Milkshake ในตอนเช้า เป็นคนที่ต้องขับรถไปทำงานไกล ขับไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกเบื่อ และยังต้องหาอะไรรองท้องสักนิด เพื่อไม่ให้รู้สึกโหยตอนประมาณ 10 โมง ซึ่งเจ้า Milkshake นี้ก็ทำหน้าที่ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
.
ศาสตราจารย์ Christensen จึงถามต่อว่า “แล้วคุณเคยจ้างอย่างอื่นมาทำงานเดียวกันหรือไม่ ในวันที่คุณไม่ได้มาที่ McDonald’s”❓
.
คำตอบที่ได้จากลูกค้าก็คือพวกเขาเคยลองซื้อกล้วยแต่มันก็หมดเร็วเกินไป บางคนเคยซื้อโดนัท แต่มือก็เหนียวเหนอะหนะเปื้อนพวงมาลัยไปหมด บางคนเคยซื้อเบเกิล แต่รสชาติมันก็แสนจืดชืด พอจะบีบครีมชีสก็ต้องเอาเข่าบังคับรถ แล้วใช้สองมือพยายามบีบ ช่างวุ่นวายเสียเหลือเกิน
.
แต่เจ้า Milkshake นี่มันช่างตอบโจทย์ ถือดื่มได้ด้วยมือเดียว แถมความเหนียวหนึบของมันทำให้ต้องใช้เวลาดูดนานกว่าจะหมด ทำให้การเดินทางที่ยาวไกลไม่น่าเบื่อ แถมยังใส่ช่องวางแก้วได้อีกด้วย พอถึงออฟฟิศก็รู้สึกอิ่มท้องพอดี
.
เมื่อรู้เช่นนี้ ทาง McDonald’s จึงปรับให้โซนขาย Milkshake จากท้ายร้านมาอยู่หน้าร้านเพื่อช่วยประหยัดเวลาลูกค้าที่จะไปทำงานมากขึ้น ทำระบบชำระเงินให้ซื้อ Milkshake ได้สะดวก และมีการปรับให้ตัว Milkshake มีความเหนียวหนึบมากขึ้นกว่าเดิม (เพื่อจะได้อยู่เป็นเพื่อนคนขับระหว่างเดินทางนานขึ้น) ✨
.
McDonald’s ไม่ได้ปรับสินค้าตามลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย แต่ปรับตาม “ความต้องการ” ของลูกค้า และผลลัพธ์ที่ได้หลังจากนั้นก็คือยอดขาย Milkshake ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
.
สิ่งที่ Christensen พบจากงานวิจัยนี้ก็คือคู่แข่งของ McDonald’s นั้นไม่ใช่แค่ KFC หรือ Burger King ที่ขาย Milkshake เหมือนกันในตอนเช้า แต่ยังรวมไปถึง กล้วย โดนัท เบเกิล และสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าอยู่ท้อง และไม่รู้สึกเบื่อไปกับการเดินทางไปออฟฟิศที่แสนยาวไกล
.
นอกจากนี้ Milkshake ของ McDonald’s ในตอนกลางวัน ก็มี Job หรือหน้าที่ที่ต่างออกไปเช่นกัน นั่นก็คือเป็นเครื่องดื่มที่พ่อแม่มักจะมาซื้อให้เด็กๆ ทานเพื่อให้หยุดร้องไห้ หรือโวยวาย ทำให้ตัวเองมีเวลาได้พักหายใจ และรู้สึกว่าได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดี ในการทำให้ลูกมีความสุขมากขึ้น 🎈