ขอต้อนรับเข้าสู่ ไดอารี่บันทึกการท่องเที่ยวของเรา แบบเป็นทางการค่ะ :')
EP : 1
'ปราณบุรี' ... สิ่งแรกที่นึกถึงคงต้องเป็นหาดทรายสีขาว โอบล้อมด้วยน้ำทะเลใส ไร้เกาะเล็กๆ โผล่ตรงกึ่งกลาง มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา
แล้วปราณบุรีในความคิดของคุณ เป็นแบบไหน?
วันที่ 10
เราเดินทางไปเที่ยว ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10-11 เมษายน 2021 สถานที่แรกที่เราไปเยือนไม่ใช่ทะเลซะทีเดียว เพราะเลือกไป 'ถ้ำพระยานคร' ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดก่อนเป็นอันดับแรก
เหตุผลที่เลือกมาที่นี่ก่อน คิดว่าต้องใช้แรงขาเดินเยอะแน่นอน เนื่องจากระยะทางจาก หาดบางปู ไปถึงภายในถ้ำพระยานคร ประมาณ 2 กม. ตามป้ายบอกตรง 'จุดเริ่มต้น' โดยสามารถเลือกนั่งเรือ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ได้ แต่เราคิดว่ายังพอมีกำลังไหวเลยอยากทดสอบความแกร่งของร่างกายซะหน่อย...
เก็บปั๊มเล่มเขียวตามอุทยานแห่งชาติ
ใช่ค่ะ เราเลือกการเดินทาง แบบ 'เดินเท้า' ทั้งทริป
ระหว่างทางเดินค่อนข้างชัน มากน้อยสลับกันไป และเต็มไปด้วยความขรุขระของหินก้อนเล็กตะปุ่มตะป่ำ หรือหากกำลังขาของใครแข็งแรง จะเดินตรงทางราบที่เป็นปูนก็ได้ แต่ต้องระวังอันตรายการผลักตก เพราะขอบกั้นมันเตี้ย ดังนั้นขอแนะนำว่าเดินทางลำบากเพื่อความปลอดภัยดีกว่า...
ท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อยของเส้นทาง และไอร้อนระอุจากแสงแดดอันแผดเผา อย่างน้อยๆ หันไปทางซ้ายยังได้เห็นความงดงามของน้ำทะเลให้พอชื่นใจหายเหนื่อยอยู่บ้าง มันสวยจนเราต้องหยุดเดินเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นระยะ
(จริงๆ เป็นวิธีแก้เหนื่อยหอบจากการเดินเท้าด้วยส่วนหนึ่ง)
พอมาถึง หาดแหลมศาลา ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะยังไม่ถึงจุดทางขึ้นไปถ้ำพระยานครเลย แต่เราก็ไม่ย่อท้อ หันมองวิวทิวทัศน์ด้านข้างเพื่อฮีลกำลังใจตัวเองไปพลางๆ และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำจนลืมความร้อนกับความเหนื่อยเพียงชั่วขณะ
สักพักเราเดินมาถึงจุดเริ่มต้นของ 'ความหิน' ของแท้ ระยะทางอีก 430 เมตร เท่านั้น !
แต่ทางชันมาก ดีที่เส้นทางยังมีเรียบบ้าง ขรุขระบ้าง ให้พอพักหายเหนื่อยตามจุดต่างๆ
เราแทบไม่มีอารมณ์อยากถ่ายรูป เพราะร้อนและเหนื่อยมาก ทว่าสุดท้ายก็ห้ามใจไม่ไหว หยิบโทรศัพท์มาเก็บภาพวิวสวยๆ ข้างทางต่อ
จุดแวะพัก
ยอมรับว่าขาขึ้นถ้ำใช้เวลานานพอสมควร เพราะกระหายน้ำจนต้องคอยดื่มเป็นระยะ พอเห็นป้ายทางเข้าถ้ำก็เผลอยิ้มกว้างด้วยความดีใจ มาถึงแล้วจริงๆ!
ทางเข้าถ้ำค่อนข้างเย็น แค่เดินผ่านก็สัมผัสถึงไอความเย็นแล้ว บอกตรงๆ ว่าความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทาง หายเป็นปลิดทิ้ง
ก่อนจะตกตะลึงกับความงดงามของถ้ำพระยานคร...
ด้านหลัง
ด้านหน้า
ด้านบน
บริเวณรอบข้าง
เมื่อซึมซับบรรยากาศภายในถ้ำพระยานครจนอิ่มเอมแล้ว เราเลยเดินเท้าผ่านสองหาดนั้นเหมือนเดิม ก่อนจะมาแวะเที่ยวถ้ำใกล้ๆ อีกที่ ซึ่งไม่ห่างกันมากเลย นั่นก็คือ...
'ถ้ำแก้ว' ระยะทาง 128 เมตร เหมือนจะหมู แต่งานช้างสุดๆ!
จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาแวะชมอยู่เรื่อยๆ แต่วันที่เราไป...ไม่มีใครมาเลย โชคดีที่มีไกด์เจ้าหน้าที่คอยนำทางให้ เพราะถ้าเดินกันเอง คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไรนัก
เราไม่ได้ถ่ายรูปทางเดินเก็บไว้ เพราะมัวแต่จับเส้นเชือกไต่ตัวขึ้นไปด้านบน รู้แค่ว่ามันเหนื่อยมาก เหมือนเรี่ยวแรงใช้คุ้มตั้งแต่ตอนอยู่ถ้ำพระยานครแล้ว และไม่คิดว่าที่นี่จะทรหดยิ่งกว่า...
ทางลงไปชมถ้ำแก้ว
พอเราขึ้นมาถึงตรงปากทางเข้าถ้ำ นั่นคือบันไดที่ต้องไต่ลงไปด้านล่างเพื่อเที่ยวชมความงามของถ้ำ ซึ่งเส้นทางค่อนข้างลำบาก ต้องระวังศีรษะชนหินงอกหินย้อย พื้นเปียกน้ำค่อนข้างลื่น และมืดมาก จำเป็นต้องใช้ไฟฉายส่องตลอดทาง
หินภายในถ้ำแก้ว
อะไรก็ไม่รู้ แฟนส่องไฟฉายเลยถ่ายไว้ ;--;
ทางเดินอันตรายมากสำหรับความคิดเรา หากพลาดพลั้งมองไม่เห็นแล้วร่วงลงไปก็ไม่รู้จะเป็นยังไง โชคดีที่เจ้าหน้าที่นำทางคอยบอกคอยแนะตลอด
แต่สุดท้ายเราก็เลือกหยุดเดินต่อกลางทาง เพราะไม่ไหวกับความร้อน ปวดเท้า อึดอัด หายใจไม่ทั่วท้องยามอยู่ในถ้ำ
เหวด้านล่าง
มีบางจุดที่หินงอกหินย้อยถูกตัดทิ้งอย่างน่าเสียดาย
เหวด้านล่าง
ก่อนจะจบสิ้นลงกับทริปสำรวจถ้ำแก้ว ที่ไปไม่ถึงสุดทางเดิน...
ตกเย็น เราเดินทางไปแวะชม 'ถ้ำโกษา' กันต่อ เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไร แต่เราไม่ได้เดินขึ้นไปดูจุดชมวิวข้างบน (สภาพขาเดี้ยง ไม่ไหว ;-;)
เขาว่ากันว่า...มองขึ้นไปจะเห็นเขารูปกะโหลก เราไม่แน่ใจว่าใช่มุมที่ถ่ายรูปมาหรือเปล่า
บรรยากาศเย็นสบายมาก มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนหย่อนใจกันเยอะ เด็กๆ ก็สนุกกับการเล่นน้ำที่คลื่นไม่ค่อยแรงด้วย แค่ยืนมองเฉยๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว
เราใช้เวลาเที่ยวที่นี่ไม่นาน ก่อนจะหมดทริปวันแรก :)
วันที่ 11
หลังเดินทางออกจากรีสอร์ท เรามุ่งตรงไปยัง 'วนอุทยานปราณบุรี' กันต่อ วันกลับบ้านเป็นทริปชิลล์ๆ ไม่เหน็ดเหนื่อยแบบวันแรก เพราะสภาพขาเหมาะกับทางราบอย่างเดียว...
พอจอดรถเสร็จ เราเดินไปผิดทาง จนเจอกับวิวริมทะเลซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับป่าชายเลน
อากาศค่อนข้างร้อนมาก ไม่มีใครลงทะเลกันยามนั้น แต่ก็มีบางคนตั้งเต็นท์กันตามพื้นที่จุดต่างๆ
เมื่อสำรวจฝั่งทะเลเสร็จ เราก็เดินข้ามมาฝั่งวนอุทยานกันเลย แม้อากาศจะร้อนตามฤดูกาล แต่ความเขียวขจีทำให้รู้สึกร่มรื่นมากๆ พันธุ์ไม้อุดมสมบูรณ์เยอะจริงๆ
เราเลยแวะถ่ายรูปตลอดทาง ตามหา 'น้องปลาตีน' ด้วย แต่เจอปูตัวน้อยแทน...
ทางเดินสะอาดมากๆ เดินได้เรื่อยๆ ชิลล์ๆ แบบไม่เหนื่อยเลย
เหมือนทะลุเข้ามาในอาณาจักรสีเขียว มองรอบๆ บริเวณให้ความสบายตาสุดๆ
แอบเห็นน้องภูเขาตรงโน่นด้วย...
หลังเดินเก็บรูปจนทั่วแล้ว ก็เดินทางไปเยือนสถานที่เที่ยวสุดท้ายก่อนกลับบ้าน
'วัดห้วยมงคล' เรามาไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล คนค่อนข้างเยอะ อาจเพราะใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เลยมีกิจกรรมรดน้ำพระหลายองค์ด้วย
เป็นอันสิ้นสุดทริประยะสั้น ณ ปราณบุรี :)
*เก็บตก* วิวสวยๆ จากที่พัก
ยามเย็น
ยามเช้า
ขอบคุณที่อ่านบันทึกการเดินทางของเราจนจบ. ♡
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
