Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
To Step It Up A Gear
•
ติดตาม
24 พ.ค. 2021 เวลา 09:55 • ท่องเที่ยว
EP 4
'กาญจนบุรี' ... บอกแล้วว่าจังหวัดนี้มีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง แล้วนักเก็บปั้มเล่มเขียวอย่างเราจะไม่มาเยือนอีกได้ยังไง
คราวนี้ได้มาพักวิวหลักล้านที่ไม่ไกลบ้าน จนต้องเก็บไว้เป็น The best ของใจเลย :)
เมื่อวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2021 เราได้เดินทางไปเที่ยว 'ศูนย์ประวัติศาสตร์ช่องเขาขาด' เป็นสถานที่แรก เพราะผ่านทางแถวนั้นพอดี ซึ่งที่นี่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
ด้านในบรรยากาศค่อนข้างสะอาด ร่มรื่น ทางเดินไม่ยากลำบากเลย ส่วนมากเป็นทางราบเรียบเกือบสุดสาย
โดยเส้นทางแบ่งออกเป็น 2 สาย
คือ ศูนย์ประวัติศาสตร์ไปยังอนุสรณ์สถานช่องเขาขาด
กับ ศูนย์ประวัติศาสตร์ถึงถนนหินตก
ซึ่งเราไม่ได้เดินเท้าไปถึงจุดหมายที่ 2 เนื่องจากจำกัดเวลาการเดินทาง และต้องแวะเที่ยวอีกหลายแห่ง
เส้นทางราบเรียบตลอดจนถึงบริเวณช่องเขาขาด
ระหว่างทางเจอรูปภาพประดับไว้ เราสัมผัสถึงความหดหู่ เศร้าใจ เมื่อรู้ถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้น มันโหดร้ายเกินกว่ามนุษย์จะแบกรับไหว
กระทั่งเดินมาถึงจุดหมาย ประกอบกับอ่านเล่ม 'คู่มือนักท่องเที่ยว' ที่เราหยิบติดมือมาด้วย กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเชลยศึกของกองทัพญี่ปุ่นและแรงงานชาวเอเชีย ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า โรมูชา ที่ถูกบังคับให้มาทำงานสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างไทยและพม่า
หลายคนต้องจบชีวิตลงด้วยความหิวโหย โรคภัย และการทารุณกรรมอย่างแสนสาหัส...
แค่อ่านจบบรรทัดเราก็นึกสงสารพวกเขาจับใจ
สิ้นสุดความเศร้า ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาสดใสอีกครั้ง
'อุทยานแห่งชาติไทรโยค' มาถึงก็แวะเก็บตราปั้มก่อนเลย แล้วค่อยเริ่มเดินสำรวจว่าที่นี่มีอะไรนอกจากน้ำตกบ้าง
พอเจอป้ายนี้ เราเลยตัดสินใจจะแวะไปดูถ้ำสักหน่อย เพราะระยะทางแค่ 400 เมตร เอง
แต่...สภาพทางเข้าน่ากลัวมาก กลัวงูมากกว่าสิ่งลี้ลับ เลยรีบหันหลังกลับไปสำรวจทางอื่นแทน
เราเลยมาดู พุต้นน้ำ ซึ่งระหว่างทางเจอข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจด้วย
มันคือ เตาหุงข้าวของทหารญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
จากนั้นก็เดินต่อมาอีกหน่อยจนเจอ พุต้นน้ำ
คล้ายๆ แอ่งน้ำขนาดเล็ก น้ำค่อนข้างใสจนมองเห็นตัวปลา
จากนั้นก็ไปสำรวจ สะพานแขวน เชื่อมกั้นกลางแม่น้ำแคว
บรรยากาศรอบข้างสวยมาก โอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว ตอนเรายืนถ่ายรูปมีเรือแพแล่นผ่านมาพอดี
ก่อนจะมาถึง น้ำตกไทรโยคใหญ่ ที่...ไม่ใหญ่แบบที่คิดเท่าไรแฮะ
ตอนแรกนึกว่าน้ำตกจะไหลผ่านแบบที่เคยไปเอราวัณ แต่นี่ไหลลงแม่น้ำแควเลย ก็ค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย...
เรารู้สึกว่าน้ำตกค่อนข้างน้อย เลยเดินสำรวจบริเวณโดยรอบไม่นาน ก่อนจะเริ่มเดินทางกันต่อ
'อุทยานแห่งชาติเขาแหลม' หลังจากนั้นก็มุ่งตรงมาที่นี่ เพื่อแวะเข้า 'ป้อมปี่' จองจุดกางเต็นท์และหาทำเลสวยๆ ไว้ย่างบาร์บีคิวกินกันตอนเย็น
พอกางเต็นท์เสร็จ เราก็ขับรถออกมาแวะเที่ยวสถานที่ใกล้ๆ ในเขตอุทยานกันต่อ
'น้ำตกเกริงกระเวีย' สงสัยจะมาผิดฤดูอีกแล้ว น้ำน้อยมากจริงๆ
น้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น แต่ทางเดินราบเรียบตลอด ค่อนข้างสะดวกสบายมากๆ ไม่มีทางชันอะไรเลย
สักพักก็โผล่มาชั้น 2 อย่างรวดเร็ว
หาป้ายชั้น 3 ไม่เจอ กระโดดมาชั้น 4 เลย...
บันไดเดินสวย สะดวกสบาย ไม่ลำบาก
น้ำน้อยแบบงงๆ เราเลยเดินทางต่อไปดูน้ำตกอีกแห่ง
'น้ำตกกระเต็งเจ็ง' เหมือนแค่มาเช็กอิน ถ่ายรูป แล้วก็กลับ เพราะไม่สามารถเดินเข้าไปสำรวจข้างในได้จริงๆ...
เสื้อกับรองเท้าของเจ้าหน้าที่
หากใครอยากลองเดินป่า ขอแนะนำที่นี่เลย ทางเดินค่อนข้างรกร้างมาก เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่คงอยากรักษาความสมบูรณ์ของป่า แต่เราไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไปจริงๆ กลัวเผลอเหยียบงูที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ใบ้ไม้...
เดินเข้าไปสุดแค่นั้น...แล้วก็เดินออกมา
จากนั้น เราก็กลับมา 'ป้อมปี่' สถานที่ค้างแรมของเรา เนื่องด้วยเวลาเหลือเยอะกว่าจะถึงช่วงเย็น เลยเดินเล่นแถวนั้นกันต่อ พร้อมกับเคลื่อนย้ายสัมภาระไปไว้ที่เต็นท์...
พออาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์ตั้งเตาปิ้งย่าง
เหมือนได้มาปิคนิคนอกสถานที่เลย ช่วยฮีลใจเรามากๆ
โปรดมองข้ามความเละเทะ ;-;
นั่งกินกันไป คุยกันไป เหมือนได้ซึมซับบรรยากาศหลักล้านสุดๆ เพราะพระอาทิตย์ตกดินทางฝั่งนี้พอดี
ค่อยๆ จมหายไป...
สักพักแฟนเราก็เริ่มลองไอเท็มประดับเต็นท์ใหม่ ก็คือ...
แทแดนนน! หลอดไฟกระปุ๊กกระปิ๊ก...
ขณะที่เรากำลังฟินกับบรรยากาศรอบตัวมากๆ จนแทบละสายตาไม่ได้ สายลมพัดโชยอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้สึกร้อนเลย อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ได้ยินเสียงหมู่นกร้องก่อนเข้ารัง พร้อมแสงของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลับหายไป...
อีกอย่างที่ประทับใจ ที่นี่เห็นดาวเยอะมาก และชัดมาก
น่าเสียดายที่กล้อง i11 เก็บภาพมาได้เท่านี้...
เลือนลางเหลือเกิน ;-;
วันที่ 14
เวลาผ่านไปจนถึงรุ่งเช้า อากาศเย็นสบายจนไม่อยากตื่น
เราเริ่มเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ กันต่อ เพราะยังไม่ได้ถ่ายกับป้ายว่ามาเยือนที่นี่แล้ว
วิวตอนเช้าก็สวยไม่แพ้กันเลย
และสีสันของท้องฟ้าไม่เคยทำให้ผิดหวัง...ชมพูพาสเทลหวานเจี๊ยบ
น่ารักสุดๆ งื้อออ
ถึงเวลาต้องเดินทางกลับแล้ว แต่ขอยกให้ ป้อมปี่ เป็นเดอะเบสของใจตลอดไป วิวกางเต็นท์ที่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกชัดๆ แล้วโอบล้อมด้วยแอ่งน้ำขนาดใหญ่ คงหาชมไม่ได้ง่ายๆ
(แม้การแบกขนสัมภาระจะค่อนข้างลำบากเล็กน้อยก็ตาม)
'อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์' คือเป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้ และเดินทางไกลมากกว่าจะมาถึง เหมือนต้องขับรถอ้อมมาอีกฝั่งนึง
พอจอดรถเสร็จก็เดินเท้าตัวปลิวมาตามเส้นทาง โดยไม่ได้พกน้ำขวดใหญ่แก้กระหายมาเลย เพราะประมาทกับระยะทางทั้งหมดที่ต้องเที่ยวชม
ทางเดินไป ถ้ำธารลอดน้อย ยังคงสบายๆ เป็นทางราบเรียบก่อนจะมุดลงเข้าไปดูความสวยงามภายในถ้ำ
หินงอกหินย้อยที่นี่สวยมากๆ ย้ำว่า มากๆ ทุกอย่างค่อนข้างสมบูรณ์ รวมถึงสะพานเดินที่สะดวกสบายต่อนักท่องเที่ยว
แต่บางจุดภายในถ้ำยังคงมีความมืด จำเป็นต้องใช้ไฟฉายช่วยส่องแสงสว่าง เพื่อดูความงดงามของหิน
จากนั้นเรามุ่งหน้าไป ถ้ำธารลอดใหญ่ กันต่อ
แต่...
ด้วยความประมาทที่ไม่ได้พักขวดน้ำมาด้วย บวกกับสภาพอากาศร้อนระอุช่วงบ่าย ทำให้เราเดินต่อไม่ไหว ทั้งที่มาไกลเกือบครึ่งทางแล้ว...
เราเลยถ่ายบรรยากาศรอบๆ มาแค่นิดเดียวเท่านั้น
เป็นทริปที่น่าเสียดายมากๆ ที่ไปถึงไม่สุดทาง เพราะสภาพร่างกายของเราไม่พร้อม เลยอดเห็นความสวยงามของ ถ้ำธารลอดใหญ่ ว่าเป็นยังไง
หากมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้ง เราคงต้องไปเยือนให้ได้!
แม้จะเป็นทริปคืนเดียว แต่เราเก็บตราปั้มอุทยานแห่งชาติได้ตั้ง 3 ที่ และอิ่มเอมใจกับป้อมปี่สุดๆ เลย
ขอบคุณที่อ่านบันทึกการเดินทางของเราจนจบ. ♡
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย