"เด็กใหม่ SS2"
ซีรีย์เด็กใหม่เข้า Netflix แล้วนะคะ
เราดูวันเดียว 8 ตอน
เห็นเพื่อนใน facebook หลายคน
บอกดูไม่ไหว...เนื่อเรื่องมันหนักเกิน
เราเองก็รู้สึกหน่วงมากเช่นกัน 🤪
แต่ก็รอดมาได้... เพราะชีวิตจริงหน่วงกว่านั้น
🤣🤣
วันนี้เราจะขอพูดถึงตอนที่ชอบเป็นพิเศษ
คือEp 6 "ตอนห้องสำนึกตน" เป็นแนวดิสโทเปีย
ความรู้สึกตอนดู เหมือนกำลังอ่าน 1984 เลย
โดยเฉพาะฉากห้องสำนึกตน
นี่มัน 1984 Version ซีรี่ย์ 😉
ด้วยการเล่นกับภาพ ที่มีทั้งภาพกว้าง
และภาพที่บีบให้แคบลง เพื่อแสดงถึงอะไรบางอย่าง
และสีขาวดำ ที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด
นอกจากนั้นยังมีสี และสัญลักษณ์
ที่ชวนให้ตีความอีกมากมาย ที่เป็นเสน่ห์ของตอนนี้
และที่ชอบที่สุดคงเป็นภาพที่ออกมาสวยมากด้วย
วันนี้เราจะไม่เขียนเรื่องย่อ
แค่อยากเขียนถึงฉากที่ชอบ
และการตีความสัญลักษณ์ในฉากต่างๆ
ซึ่งเป็นการตีความของเราเอง
ไม่ได้หมายถึงว่าหนังจะหมายความแบบนั้นนะคะ
การมาถึงของแนนโน๊ะ
การมาถึงของแนนโน๊ะ
ที่หน้าประตูโรงเรียน "พันธนะวิทยา"
ด้วยภาพมุมกว้าง
สัญลักษณ์ของตราโรงเรียนที่แปลกตา
ชวนให้คิดว่ามี นัยยะอะไรซ่อนอยู่รึป่าว? 🧐
เมื่อเข้ามาในรั้วโรงเรียน
เมื่อแนนโน๊ะเดินผ่านรั้วโรงเรียนเข้ามา
จากภาพที่กว้างก็แคบลง จากภาพสีกลายเป็นขาวดำ
นั่นอาจจะมีนัยยะสื่อถึงความรู้สึก
การไม่มีชีวิตชีวา การถูกบังคับ ให้อยู่ในกรอบ
ด้วยกฎของโรงเรียนที่มีถึง 427 ข้อ
ให้นักเรียนต้องทำตาม
การกบฎของแนนโน๊ะ
ลิปสีแดง, โบว์สีเขียว, วิกสีม่วง
คือการพยายามลุกขึ้นต่อสู้ด้วยสีสันที่หลากหลาย
การอยากหลุดจากความขาวดำ
เปรียบเหมือนการต่อต้านระบบ และกฎเกณฑ์
การตั้งคำถามต่อสิ่งที่มันผิดปกติ
เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า สามารถเป็นสีอื่นได้
พวกเขามีอิสระที่จะเลือกสีอื่น
มีสิทธิ์ที่จะเลือก และมีสิทธิ์ที่จะอิสระ
ถูกลงโทษ
และแน่นอนเมื่อทำผิดต้องโดนลงโทษ
ด้วย"ห้องสำนึกผิด" ซึ่งคือชื่อของตอนนี้
ด้วยการทำโทษ 3แบบคือ
1. เปิดกฎข้อบังคับ 427 ข้อ อัดใส่หูพร้อมด้วย
คลื่นเสียงน่ารำคาญ
2. ใช้แสงแฟลชสาดใส่ตาให้มองไม่เห็น
3. ดึงลิ้น ทำให้พูดไม่ได้
ซึ่งทั้งสามข้อคือการทำลายระบบ การได้ยิน การมองเห็น และการพูด เหมือนสังคมที่บังคับให้เราปิดตา
บังคับให้ฟัง และ ห้ามพูดอะไรออกมา
ซึ่งคนที่จะได้ออกจากห้องนี้
คือคนที่สำนึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิด และจะไม่ทำอีกนอกจากนั้นยังมีการข่มขู่ด้วยการ
เอาชีวิตในอนาคตทั้งการเรียน และการงาน
ของคนนั้นมาข่มขู่ ว่าจะไม่สามารถเข้าเรียน หรือทำงานที่ไหนได้อีก
ถ้าไม่ยอมรับก็อยู่ในสังคมต่อไปไม่ได้
คุ้นๆอยู่เนอะ🙄🙄
การมีอำนาจ และต้องการมีอำนาจ
ผอ. ชุดสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์
ผอ. ผู้มีอำนาจด้วยกำลัง และการสร้างกฎ
เพื่อให้ผู้อื่นทำตาม แต่ตัวเองนั้นไม่เคยทำตามกฎ
และยังทุจริตด้วยการโกงเงินค่าอาหาร
ค่าคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
แต่พอถือกฎเลยทำให้ใครไม่สามารถตั้งคำถามได้
เพราะการตั้งคำถามคือการทำผิดกฎ
นอกจากนั้นยังทำให้ผู้ตั้งคำถามสำนึกผิดได้ด้วย
เอ่อ..... ที่สุุดของผู้มีอำนาจจริงๆ
และครู A ฝ่ายปกครองที่อยากจะทาลิปสีแดง
ครูฝ่ายปกครองที่อยากจะได้อิสระอยู่เหนือกฎบ้าง แต่ด้วยอำนาจเล็กๆที่ได้รับมาจากผอ.
ทำให้ตัวเองอยู่เหนือกฎได้บ้างเล็กน้อย
เลยเลือกที่จะทำตัวเป็นคนรับคำสั่งอีกที
ให้อยู่รอดไปได้ด้วยความภาคภูมิใจเล็กๆ
ในอำนาจที่ได้รับ
การลุกขึ้นต่อสู้ของผู้ไร้อำนาจ
ตอนจบสุดท้ายเมื่อนักเรียนลุกขึ้นมาต่อสู้
กับผู้มีอำนาจ ที่มีอาวุธ และเป็นผู้ถือกฎ
คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าความจริง และ ข้อมูลข่าวสาร
มือถือเลยกลายเป็นอำนาจการต่อรองหนึ่ง
ที่ผู้ไร้อำนาจใช้ควบคุมชะตาผู้มีอำนาจได้
และสามารถนำความยุติธรรมกลับมาได้ในที่สุด
เดินออกจากโรงเรียน
ภารกิจของแนนโน๊ะจบลง
ด้วยการให้กุญไขล็อกประตูให้ทุกคนออกไป
ภาพกลับมากว้างเหมือนเดิม
แต่ที่แปลกคือ สีสันมันไม่กลับคืนมา
ภาพยังคงเป็นขาวดำอยู่เหมือนเดิม
เราแปลความเองว่า...
ถึงทุกคนจะออกจากกฎเกณฑ์ของโรงเรียนไปแล้วเหมือนจะได้รับอิสระจากกฎเกณณ์
ที่เคยพันธนาการเอาไว้
แต่สังคมข้างนอก มันก็ไม่ได้มีชีวิตชีวาเท่าไรนัก
เขายังอาจจะต้องเจอคนที่มีอำนาจแบบในโรงเรียน
และยังต้องเข้าห้องสำนึกตนอยู่บ่อยครั้ง
ในชีวิตประจำวันโดยที่เขาเองก็แทบไม่รู้ตัว
เหมือนสังคมข้างนอกนั้นซ้อนทับกับสังคม
ในโรงเรียนอีกที
🔥🔥🔥
สุดท้ายที่เราชอบมากที่สุด คือ
ฉากที่แนนโน๊ะจุดไฟเผาสมุดกฎของโรงเรียน
ตอนโดนทำโทษให้ยืนอ่านมันอยู่กลางสนามหญ้า
และประโยคเปิดเรื่องก็ดังขึ้นมา
"ใครสักคนบอกว่า
ทุกสิ่งล้วนมีกฎเกณฑ์ของตนเอง
และกฎทุกกฎมีไว้เพื่ิอส่วนรวม
แต่เพราะผู้สร้างกฎไม่เคยใช้มันอย่างเที่ยงตรง
หลายครั้ง... เราจึงพบว่ากฎ
กลับกลายเป็นน้ำหนักที่กดทับผู้คน
ให้จมอยู่ใต้อำนาจของมัน"
❤️
ปล. ตอนอื่นๆก็สนุกนะ แต่เราชอบ Ep6 ที่สุดหรือใครมีตอนไหนที่ชอบมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
😁
ติดตามชมได้ใน netflix นะคะ
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
