แต่แท้จริงแล้วเหตุการณ์นี้มันอาจ “ไม่มีอะไรในกอไผ่” โดยในฐานะของคนที่มีประสบการณ์เห็นและสัมผัสกับ Order ทั้ง Short และ Long หลักหมื่นสัญญาของต่างชาติมาก่อน จึงอยากมาเล่าให้ทุกท่านได้รับรู้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
ประเทศไทยเคยเจอกับเหตุการณ์ที่ต่างชาติ Short หนักในวันเดียว 2 ครั้ง
จริง ๆ เราก็รู้สึกแหม่ง ๆ กับการเห็นตัวเลข Short หนักในวันเดียวของต่างชาติมาโดยตลอด เพราะจากอดีตที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเคยเจอกับเหตุการณ์ Short มากกว่า 50,000 สัญญาถึง 2 ครั้ง คือ วันที่ 29/8/2017 กับ 29/11/2019 (ขา Long ไม่เคยปรากฏ) โดยในแต่ละครั้งก็ตกตะลึงกันแบบนี้แหละ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปตลาดหุ้นก็ไม่ได้ Panic แถมปรับตัวขึ้นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราหนักแน่นกับการ “ไม่เชื่อ” ก็เพราะว่า เรามีข้อมูลและพอรู้ที่มาของการ Short หนักเหล่านี้
Order Short ขนาดใหญ่มักจะเกิดจาก “ใบสั่ง” ของกองทุนหุ้น
สถาบันหรือกองทุนทั้งในและต่างประเทศ เมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น พวกเขาจะใช้ TFEX ในการป้องกันความเสี่ยงโดยการเปิด Short ไว้เท่ากับมูลค่าของหุ้นที่ถือครองไว้ (หรือกี่ %ก็ว่ากันตามสถานการณ์) และโดยส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้ Model ทางคณิตศาสตร์ในการคำนวนค่า Risk Parameter เพื่อใช้วัดว่า จะถึงจุดที่ต้องลดพอร์ตหรือ Hedge เมื่อไหร่
หากถ้าวันใดวันหนึ่งความเสี่ยงเข้าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็จะเปิด Short TFEX โดยไม่ลังเล และมีเป้าหมายสูงสุดคือ “ต้องได้ของครบตามที่กำหนด”
ดังนั้น ทุกท่านลองนึกตามนะครับ ถ้าแค่กองทุน size ระดับ 2,000 ล้านบาท เกิดสถานการณ์แบบนี้ก็สามารถสร้างยอด Short TFEX ในระดับ 10,000 สัญญาให้ตกใจกันได้แล้ว (ดัชนี SET50 ที่ 900 จุด x จุดละ 200 บาท x 10,000 สัญญา = 18,000 ล้านบาท)
เมื่อเวลาเราเห็นยอด Short TFEX ของพวกสถาบันหรือต่างชาติเยอะอย่างมีนัยสำคัญ และอยากเชคดูว่าเขาใช้เพื่อ Hedging หรือไม่ ให้ทำการตรวจสอบยอด OI ว่าเพิ่มขึ้นใกล้เคียงหรือเท่ากับยอดที่ออกมาหรือไม่
โดยในครั้งนี้มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเกินไปนะครับ ที่ยอด OI เพิ่มขึ้นฉับพลัน 70,000 สัญญา เท่ากับยอด Short ครั้งประวัติศาสตร์นี้พอดี จึงสามารถฟันธงได้ว่ายอดนี้ เป็นยอดของการ Open Short ใหม่ทั้งหมด และมาจากคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งนั่นอาจหมายถึง กองทุนที่มี Size ระดับหมื่นล้าน ที่ถึงจุด Tick ในการป้องกันความเสี่ยงพอดี
เพิ่มเติม... สำหรับการ Long กลับทันทีในช่วง 2 วันที่ผ่านมา (6-7 พ.ค.) เรามั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกับที่ Short ในวันก่อน โดยสังเกตได้จาก OI ที่ลดลงกลับไปใกล้เคียงระดับเดิม แสดงให้เห็นถึงการ Close ปิดสถานะทั้งหมดเสมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น … โดยเราเองก็ไม่ทราบถึงสาเหตเช่นกัน เพราะหากถ้าวิเคราะห์ว่ามันเป็นการ Error ของสัญญาณในตอนต้น จึงต้องซื้อหุ้น/Long กลับ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินสมควร ดังนั้น เราขอ Blank ให้กับประเด็นนี้ครับ
แล้วทำไมเราถึงบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลนัก
อย่างที่บอกไปครับ ว่ายอด “โจ่งแจ้ง” พวกนี้ หากพิจารณารายละเอียดแล้ว มันมีวัตถุประสงค์ในการทำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกลัวว่าจะลง จากการคำนวณทาง Model คณิตศาสตร์โดยอาศัยหลักความน่าจะเป็น (ซึ่งก็รู้ ๆ อยู่ว่า ส่วนใหญ่ก็มาจากข้อมูลราคาย้อนหลัง ที่พอปรับตัวลดลงก็ส่ง Signal ขายออกมา เป็นต้น) ไม่ใช่การเจตนาเพื่อทุบให้ตลาดหุ้นร่วงลง …