10 พ.ค. 2021 เวลา 11:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ไขปริศนา !? ยอดการซื้อ-ขาย TFEX กับทิศทางตลาดหุ้นไทย
วันพุธที่ 5 พ.ค. : “เห้ย !! ต่างชาติ Short สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พรุ่งนี้ Circuit Breaker แน่ ๆ”
วันพฤหัสที่ 6 พ.ค. : “อ้าว … ต่างชาติสับขาหลอกกลับมา Long มากกว่าที่ Short ซื้อหุ้นกลับเร็ว !”
นาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนที่สร้างความงุนงงให้กับนักลงทุน ได้เท่ากับ “ยอดการซื้อขาย TFEX” โดยใครจะไปคิดว่าเราจะได้เห็นสถิติใหม่ถึง 2 วันติดต่อกัน หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติได้ทำการ Short ในระดับ 7 หมื่นสัญญา แล้วพลิกกลับมา Long ทันทีด้วยปริมาณที่เท่ากัน
ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากสุดตั้งแต่ตลาด TFEX เปิดทำการ จึงพาลให้ใครหลายคนต่างตื่นตระหนกและคิดว่ากำลังเกิดเรื่องใหญ่กับตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน…
แต่แท้จริงแล้วเหตุการณ์นี้มันอาจ “ไม่มีอะไรในกอไผ่” โดยในฐานะของคนที่มีประสบการณ์เห็นและสัมผัสกับ Order ทั้ง Short และ Long หลักหมื่นสัญญาของต่างชาติมาก่อน จึงอยากมาเล่าให้ทุกท่านได้รับรู้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
ประเทศไทยเคยเจอกับเหตุการณ์ที่ต่างชาติ Short หนักในวันเดียว 2 ครั้ง
จริง ๆ เราก็รู้สึกแหม่ง ๆ กับการเห็นตัวเลข Short หนักในวันเดียวของต่างชาติมาโดยตลอด เพราะจากอดีตที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเคยเจอกับเหตุการณ์ Short มากกว่า 50,000 สัญญาถึง 2 ครั้ง คือ วันที่ 29/8/2017 กับ 29/11/2019 (ขา Long ไม่เคยปรากฏ) โดยในแต่ละครั้งก็ตกตะลึงกันแบบนี้แหละ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปตลาดหุ้นก็ไม่ได้ Panic แถมปรับตัวขึ้นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราหนักแน่นกับการ “ไม่เชื่อ” ก็เพราะว่า เรามีข้อมูลและพอรู้ที่มาของการ Short หนักเหล่านี้
Order Short ขนาดใหญ่มักจะเกิดจาก “ใบสั่ง” ของกองทุนหุ้น
สถาบันหรือกองทุนทั้งในและต่างประเทศ เมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น พวกเขาจะใช้ TFEX ในการป้องกันความเสี่ยงโดยการเปิด Short ไว้เท่ากับมูลค่าของหุ้นที่ถือครองไว้ (หรือกี่ %ก็ว่ากันตามสถานการณ์) และโดยส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้ Model ทางคณิตศาสตร์ในการคำนวนค่า Risk Parameter เพื่อใช้วัดว่า จะถึงจุดที่ต้องลดพอร์ตหรือ Hedge เมื่อไหร่
หากถ้าวันใดวันหนึ่งความเสี่ยงเข้าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็จะเปิด Short TFEX โดยไม่ลังเล และมีเป้าหมายสูงสุดคือ “ต้องได้ของครบตามที่กำหนด”
ดังนั้น ทุกท่านลองนึกตามนะครับ ถ้าแค่กองทุน size ระดับ 2,000 ล้านบาท เกิดสถานการณ์แบบนี้ก็สามารถสร้างยอด Short TFEX ในระดับ 10,000 สัญญาให้ตกใจกันได้แล้ว (ดัชนี SET50 ที่ 900 จุด x จุดละ 200 บาท x 10,000 สัญญา = 18,000 ล้านบาท)
1
รูปแสดงสถานะคงค้างของ SET50 Futures ในช่วงต้นเดือน พ.ค. 64
ซึ่งในครั้งนี้เราก็คิดว่ามันมีแนวโน้มเป็นไปตามสมมติฐานที่เราอธิบาย
เมื่อเวลาเราเห็นยอด Short TFEX ของพวกสถาบันหรือต่างชาติเยอะอย่างมีนัยสำคัญ และอยากเชคดูว่าเขาใช้เพื่อ Hedging หรือไม่ ให้ทำการตรวจสอบยอด OI ว่าเพิ่มขึ้นใกล้เคียงหรือเท่ากับยอดที่ออกมาหรือไม่
โดยในครั้งนี้มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเกินไปนะครับ ที่ยอด OI เพิ่มขึ้นฉับพลัน 70,000 สัญญา เท่ากับยอด Short ครั้งประวัติศาสตร์นี้พอดี จึงสามารถฟันธงได้ว่ายอดนี้ เป็นยอดของการ Open Short ใหม่ทั้งหมด และมาจากคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งนั่นอาจหมายถึง กองทุนที่มี Size ระดับหมื่นล้าน ที่ถึงจุด Tick ในการป้องกันความเสี่ยงพอดี
เพิ่มเติม... สำหรับการ Long กลับทันทีในช่วง 2 วันที่ผ่านมา (6-7 พ.ค.) เรามั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกับที่ Short ในวันก่อน โดยสังเกตได้จาก OI ที่ลดลงกลับไปใกล้เคียงระดับเดิม แสดงให้เห็นถึงการ Close ปิดสถานะทั้งหมดเสมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น … โดยเราเองก็ไม่ทราบถึงสาเหตเช่นกัน เพราะหากถ้าวิเคราะห์ว่ามันเป็นการ Error ของสัญญาณในตอนต้น จึงต้องซื้อหุ้น/Long กลับ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินสมควร ดังนั้น เราขอ Blank ให้กับประเด็นนี้ครับ
แล้วทำไมเราถึงบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลนัก
อย่างที่บอกไปครับ ว่ายอด “โจ่งแจ้ง” พวกนี้ หากพิจารณารายละเอียดแล้ว มันมีวัตถุประสงค์ในการทำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกลัวว่าจะลง จากการคำนวณทาง Model คณิตศาสตร์โดยอาศัยหลักความน่าจะเป็น (ซึ่งก็รู้ ๆ อยู่ว่า ส่วนใหญ่ก็มาจากข้อมูลราคาย้อนหลัง ที่พอปรับตัวลดลงก็ส่ง Signal ขายออกมา เป็นต้น) ไม่ใช่การเจตนาเพื่อทุบให้ตลาดหุ้นร่วงลง …
แล้วพวกท่านอยากรู้ไหม ? ว่ายอด TFEX แบบไหน ที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษและให้น้ำหนักมากที่สุด ถ้าอยากรู้เราจะพาทุกท่านไปดู “การทำราคาครั้งที่อุกอาจที่สุดของต่างชาติโดยใช้ตลาด TFEX เป็นเครื่องมือ”
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของทิศทางราคา SET50 Futures ในปี 2017
ต้องบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สอนเราเกี่ยวกับ “Money Game” ในตลาดหุ้นแห่งนี้ โดยก่อนหน้าเราเคยมีความเชื่ออยู่เล็กน้อย ว่าคงไม่มีใครที่สามารถทำราคาดัชนี (SET) ได้
แต่เหตุการณ์นี้กลับช่วยทำให้ความแคลงใจของเราหายไปหมดสิ้น ! โดยย้อนกลับในช่วงปี 2017 ที่หลายคนยกให้เป็นปี “ปราบเซียน” เพราะมีเหตุการณ์อีก 1ประวัติศาสตร์ นั้นคือ Sideway ยาวนานถึงกว่า 8 เดือน (ดังรูปด้านบน)
2
โดยดัชนีแกว่งตัวเพียงแค่ 20-30 จุดเท่านั้น ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างถอดใจ จนถึงกับมีคำสบถออกมาในสังคมว่า “หรือตลาดหุ้นจะไม่มีเทรนอีกต่อไป ?” โดยแม้กระทั่งพวกเราเองก็ท้อจนเกือบยุติหุ่นยนต์เทรดที่ทำกำไรแบบ Trend Follow
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อยู่ ๆ ในช่วงปลายเดือน 8 ตลาดหุ้นไทยกลับกระชากตัวขึ้นอย่างรุนแรงกวา 50 จุดในเวลาเพียง 2 วัน
แบบที่รายย่อยเกิน 90% ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ! และที่สำคัญ “มันไม่มี Factor ดี ๆ อะไรมารองรับทั้งนั้น” จนทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า มันเป็นไปได้อย่างไร ?
จึงเลือกที่จะหาคำตอบจนไปเจอเบาะแสสำคัญ และมันชัดเจนจนแทบหาข้อแก้ตัวให้ไม่ได้จริง ๆ ดังนี้
รูปแสดงยอดการซื้อขายสุทธิในตลาด TFEX ของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ในช่วงเดือน ส.ค. 2017
ทุกท่านลองดูตัวเลขยอดการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงก่อนวันที่กระชากขึ้นดูนะครับ (กรอบสีแดง) โดยจะสังเกตว่า ตลาดหุ้นแทบไม่เคลื่อนไหวใด ๆ แต่มีคนกลุ่มนี้เขากลับตัดสินใจ Long TFEX ไว้วันละ 1-2 หมื่นสัญญาติด ๆ กัน ? (และแอบขายหุ้นอย่างเนียนๆ)
หลายคนคงมองว่าเราจับผิดเกินไปหรือเปล่า เพราะบางทีต่างชาติเขาอาจจะเก่งพอที่จะรู้ว่าในอนาคตมีข่าวดีรออยู่ เลยแค่ Long เก็งกำไร แต่เราบอกแล้วนะครับ ว่าเราจำเหตุการณ์นี้ได้ขึ้นใจ เพราะความโหดร้ายของรอบนี้ คือ “เขาทำตอนตลาดหุ้นทั่วทั้งโลกต่างติดลบจากข่าวร้าย”
เราจำได้ดีว่าในวันนั้น (29 ส.ค. 17) สถานการณ์สงครามเกาหลีเหนือกำลังร้อนระอุ จึงทำให้ไม่มีโบรกเกอร์ไหนกล้าฟันธงเลยว่าหุ้นจะขึ้นได้ ดีสุดแค่พูดแบบเกรงใจว่าจะ Sideway
ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นแหละครับ … ตลาดหุ้นไทยเปิดในระดับทรง ๆ ตัว ก่อนจะมีแรงซื้อมหาศาลลากหุ้นใน SET50 ชนิดที่ถ้าลังเลแม้แต่ติดเดียวก็ไม่สามารถเคาะตามได้ทัน (แน่นอนว่ารายย่อยทั่วไปลังเลอย่างไม่ต้องสงสัย) จึงทำให้ผลประโยชน์ทั้งหมดตกไปอยู่กับนักลงทุนต่างชาติที่ Long สะสมไว้ …
1
ฟังดูแล้วเป็นเกมส์การเงินธรรมดา ๆ แต่พวกเขาวางแผนมาแยบยลกว่านั้น เพราะมันมีอีก Factor สำคัญที่ทำให้พวกเขามั่นใจว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จในการทำราคาจากตลาด TFEX ครั้งนี้อย่างแน่นอน
รูปแสดงระดับเงินวางประกันขั้นต้นของช่วงเดือน ก.ย.60
3,420 บาท คือ เงินที่ใช้เล่น SET50 Futures ณ เวลานั้น
พวกท่านอาจไม่เชื่อ แต่ในเวลานั้นตลาด TFEX ได้ประกาศ IM ของ SET50 Futures เหลือเพียง 3,420 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา (ส.ค.60 IM อยู่ที่ 3,800 บาท)
ซึ่งนั้นหมายความว่า สำหรับใครใช้เงินในการเล่น TFEX เท่ากับ IM พอดี เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงผิดทางไปแค่ 5.7 จุด พวกเขาจะต้องเข้าสู่กระบวน Call Margin และหากผิดทางไป 13.3 จุด พวกเขาจะโดน Force Close ซึ่งนี้เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ง่าย ๆ ที่ใครก็คำนวณได้
แน่นอนว่าพวกรายใหญ่ต่างก็รู้ดี และใช้ “ช่องโหว่ของกฎ Margin” โดยใช้เงินไม่กี่พันล้าน “สะกิด” ให้ตลาดขึ้นไปอีกเพียงแค่ 10 กว่าจุดในช่วงเช้า (ย้อนไปกลับไปรูป Flow ด้านบนกรอบเขียว)
และรอให้ Domino ของการถูกบังคับปิดจากการ Force Sell ของรายย่อยที่ Short ไว้ทำงาน ส่งผลให้ในช่วงบ่ายดัชนีหุ้นไทยกระชากตัวขึ้นไปปิดเพิ่มเป็นกว่า 30 จุด และนอนนับเงินปิดทำกำไรจากเหตุการณ์นี้อย่างง่ายดาย
สรุปแล้วเหตุการณ์นี้จึงสอนอะไรพวกเราหลาย ๆ อย่าง
ทั้งเรื่องตลาดย่อมมีเทรนเสมอไม่ว่าจะ Sideway นานแค่ไหนก็ตาม, ตลาดหุ้น(TFEX)ไทยมีเจ้าที่สามารถทำราคาได้, และ “ยอดการซื้อขาย TFEX เป็นอีก 1 ตัวแปรที่ใช้ชี้นำทิศทางได้”
แต่มันไม่ใช่ยอดการดูง่าย ๆ แบบที่เห็นกัน เพราะถ้าใช้แบบนั้นแล้วได้ผล ป่านนี้ก็คงรวยกันทั้งประเทศไปแล้ว โดยสรุปแล้ว ยอดที่ทุกคนต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ มี 2 กรณี คือ
1.ยอดที่ตลาดกำลัง Sideway ไม่เลือกทาง และ Margin กำลังถูกปรับลดลง แล้วจู่ ๆ คนพวกนี้เขามีการ Short หรือ Long สะสมมาติด ๆ กันอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป โดยการทำแบบนี้มีแนวโน้มที่พวกเขาจะเริ่มทำราคา โดยใช้ประโยชน์จากกฎ Call Margin/Force Close มาเป็นตัวผลักดันทิศทาง
1
2.ยอดที่ตลาดกำลังมีเหตุการณ์ Macro สำคัญในต่างประเทศ โดยคนกลุ่มนี้เขาค่อนข้างจะจมูกดีและคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ (พวกต่างชาติมักจะเก่งเกี่ยวกับ Factor ภายนอก) เพราะเครื่องมือ TFEX เป็นเครื่องมือในการที่ทำให้พวกเขายืดหยุ่นและทำให้คนแตกตื่นน้อยกว่าทางเลือกในการขายหุ้น รวมถึงใช้เงินที่น้อยกว่าในการลงทุน
 
และนี้คือเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้ยอด TFEX ในการวิเคราะห์จากประสบการณ์ของเรา และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนท่านอื่น ๆ โดยหากใครอยากพูดคุยทิศทางตลาดหุ้น/TFEX เข้ามาแชร์กันได้ในห้อง Open Chat ตามเครดิตด้านล่าง รวมถึงเป็นกำลังใจให้เราด้วยการกดติดตามและแชร์บทความต่อ
5
สุดท้ายนี้ทุกท่านสังเกตไหมว่าเครื่องมือเหล่านี้มีแนวโน้มที่ทำให้ตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกท่านทำความเข้าใจกับมันเพิ่มขึ้น โดยเราก็จะเป็น 1 ในกระบอกเสียงที่ช่วยนำมาบอกเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ต่อ ๆ ไป
ขอบคุณครับ
💬 สามารถพูดคุย สอบถาม หรือร่วมแชร์ข้อมูลกับเราได้ ในห้อง Line Open Chat “TFEX For Future”
👇🏻 คลิก link เข้ากลุ่มได้
1
📣 "โปรลับ" ‼️ สำหรับสมาชิกคนพิเศษ
📍 เราให้ได้มากกว่า แค่คำว่า...”ค่าคอมถูก”
ง่ายๆ แค่คลิก👇🏻link แล้วกรอกข้อมูล📄
✳️ฝากติดตาม TFEX For Future ช่องทางอื่นด้วยนะครับ
โฆษณา