10 พ.ค. 2021 เวลา 13:32 • นิยาย เรื่องสั้น
รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ
ตอนที่ 11 ยัยตัวแสบ!เธอทำอะไรกับหน้าฉันเนี่ย!!
กรี๊ด......! เธออยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ เมื่อมองเห็นมือของตนเองถูกมือของหนุ่มหน้าหวานจับไว้แนบกับอกด้านซ้ายของเขา ปริมาทำหน้าเหวอ อึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบดึงมือของตัวเองคืนมาอย่างด่วนจี๋ พลางถอยตัวออกไปยืนห่าง ๆ
‘ไอ้บ้าเอ๊ย! บ้า ๆ ๆ บ้าที่สุดเลย!’ เธอเจ็บใจตัวเองนัก ผ้าเช็ดหน้าก็ยังไม่ได้คืน แถมยังโดนหมอนั่นจับมือเธออีก เกิดมาไม่เคยยอมให้หนุ่มหน้าไหนมาจับมือถือแขนเลย ทำไมต้องเป็นแบบนี้!
‘โอ๊ย!’ เธอรับตัวเองไม่ได้! พลางสั่นหัวไปมา
“ไม่อยากตื่นก็ไม่ต้องตื่น! ฝากไว้ก่อน! ฉันต้องเอาคืนกับนายแน่!” เธอยกมือชี้หน้าเขาอย่างโกรธเคือง ก่อนจะถอนหายใจ สะบัดหน้าเดินหนี หมดกัน! ยามเช้าอันสงบสุขของเธอ ว่าแล้วรีบเดินไปทำความสะอาดมะเขือเทศที่กระจายอยู่บนพื้นหน้าบ้าน แล้วเอามะเขือเทศไปปลูกให้ใจเย็นลงก่อน ค่อยคิดหาวิธีแก้แค้นเขาอีกที
สักพักใหญ่ปริมาเดินกลับมาดูคนเมาว่าตื่นหรือยัง เห็นยังนอนหลับเป็นตายอยู่เลย พลางจับชายเสื้อของเขาเขย่าแรง ๆ
“ตื่น ๆ กลับไปนอนที่บ้านนายได้แล้ว!”
ปฏิการยังนอนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มบนโซฟาอย่างนึกอะไรออก หมอนี่ไม่อยากสวยและไม่ชอบให้ใครชมว่าสวยนี่นา ได้การล่ะ! นึกออกแล้ว! ว่าจะแก้เผ็ดเขาอย่างไร จำได้ว่า แม่ของเธอมีลิปสติกอยู่หนึ่งอัน เธอยังเก็บสิ่งของของแม่ไว้ทุกชิ้น แม้ว่าแม่จะจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาใช้ของเหล่านั้นอีกแล้ว
“คราวนี้นายสวยแน่!” เจ้าของบ้านไร่ทะเลฝันมองอุปกรณ์เสริมสวยที่หามาได้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปาก แค่คิดก็สนุกแล้ว ปริมาเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างโซฟายาว หยิบลิปสีชมพูอ่อนออกมาจากกระเป๋าใบเล็กใส่เครื่องสำอางค์ หมุนให้แท่งลิปเลื่อนขึ้นมาซึ่งยังเหลืออยู่มากกว่าครึ่ง เพราะแม่ของเธอไม่ค่อยแต่งหน้าบ่อยนัก เฉพาะเวลาต้องออกงานกับพ่อเท่านั้น
หญิงสาวมองใบหน้าหวานละมุนของคนหลับตรงหน้า คนอะไรดูดีไม่มีที่ติเลย แม้จะหลับอยู่ก็ตาม เวลานี้เขาเหมือนเด็กน้อยกำลังหลับสนิท โครงหน้าทุกส่วนสมบูรณ์แบบเหมือนเทพช่างสร้างสรรค์มาโดยแท้ สันจมูกโด่ง ปากได้รูปสวย แม้แต่ผิวพรรณก็ยังขาวกระจ่างใส อดยกแขนตัวเองเทียบกับเขา แทบสู้ไม่ได้เลย ถ้าเขาเป็นผู้หญิงเธอคงต้องยอมแพ้แล้วล่ะ ว่าสวยสู้ไม่ได้ แม้จะมั่นใจตัวเองว่า เธอเองก็หน้าตาน่ารักอยู่นะ
เจ้าของบ้านทำจมูกย่นใส่ อย่างเขาคงจะได้แต่หล่อไปวัน ๆ ทำอะไรคงไม่ได้เรื่องหรอก! ว่าแล้วก็บรรเลงเลย เอาลิปทาริมฝีปากของเพื่อนพี่ชายเบา ๆ ลิปสีชมพูอ่อนยิ่งทำให้ใบหน้านั้นหวานละมุนมากขึ้นอีก
“เง้ย....หวานชะมัด!...สวยแล้ว...” ช่างแต่งหน้าจำเป็นอมยิ้ม แหม...ฝีมือของเธอก็ไม่เบาเหมือนกันนะ! อยู่ ๆ คนหลับก็ขยับริมฝีปากเหมือนรำคาญที่มีอะไรมายุกยิกที่ริมฝีปากของเขา ทำให้เธอตกใจรีบถอยตัวออกห่าง เมื่อเห็นเขานอนสงบนิ่งแล้ว จึงเริ่มปฏิบัติการต่อ หญิงสาวบรรจงแต้มลิปที่ริมฝีปากล่างของเขาเพิ่มอีก แต่ทว่าใบหน้าที่นอนหงายอยู่ดันตะแคงหันมาหาเธอ ทำให้แท่งลิปในมือไถลออกนอกเส้นทางด้วยความตกใจ จากริมฝีปากลากไปโดนแก้มของเขาเป็นทางยาวเกือบถึงใบหู
“อุ้ย! นายขยับเองนะ” ปริมาเอียงคอมองอย่างพิจารณาใบหน้าของคนเมาไปมา แค่นี้มันยังน้อยไป ยังไม่สาแก่ใจ นี่มันยิ่งทำให้เขาหล่อแบบหวานแหววเกินไปแล้ว! ให้ตายสิ! ไม่ได้! ต้องไม่ดูดีขนาดนี้ มันธรรมดาเกินไป ว่าแล้วรีบไปหาปากกาเมจิมาละเลงศิลปะลงบนใบหน้าหนุ่มผมยาวอย่างหมั่นไส้ ใส่ทั้งแว่นตา ใส่ทั้งหนวดแมว หนวดจริง รูปหัวใจ รูปดอกไม้ รูปดาวมันต้องแบบนี้! เธอวาดไปก็หัวเราะคิกคักไปตลอดจนเสร็จ สะใจใจจริง ๆ หญิงสาวหัวเราะ พลางยกมือปิดปากตัวเองไว้ เมื่อนึกถึงภาพเขาตื่นมาเห็นใบหน้าของตัวเอง ต้องอึ้งทึ่งตะลึงแน่นอน
ร่างที่นอนบนโซฟายาวขยับตัว มีเสียงครางอ้อแอ้อยู่ในลำคอ เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้น ภาพตรงหน้าที่มองเห็นคือ ใบหน้าอมยิ้มของยัยตัวแสบ เขากระพริบตาถี่ ๆ ปรับภาพที่มองเห็นให้ชัดเจนขึ้น อดแปลกใจไม่ได้ที่น้องสาวของเพื่อนกำลังยิ้มให้เขา ปกติเธอมักทำแต่หน้าบึ้งตึงใส่ มันคือเรื่องจริง หรือว่ากำลังฝันไป นี่เขาคงจะเมาหนักจนฝันถึงเธอหรือไร? ฏิการพยายามลำดับเหตุการณ์ในสมองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?
“ตื่นแล้วเหรอ” ปริมาขยับเก้าอี้ถอยออกมาอีกเมื่อมองเห็นคนขี้เมาฟื้นเสียที
หนุ่มผมยาวค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย ยังคงนั่งก้มหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ ก่อนจะยกสองมือขึ้นมาเท้ากับหน้าขาจับศีรษะของตัวเองพลางขยับไปมา รู้สึกมึนหัวอย่างมาก เหมือนหัวจะหนักอึ้งจนยกแทบไม่ขึ้น ยกมือข้อมือเคาะขมับของตัวเองเบา ๆ หลายที แล้วสะบัดศีรษะไปมาด้วยความมึนจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“ทำไมนายถึงไปเมามาขนาดนี้” เธออดถามเชิงบ่นคนตรงหน้าไม่ได้
คนเพิ่งตื่นเอื้อมมือมาจับแขนของคนถาม เขากำลังฝันไปรึเปล่านี่! แต่ทว่าต้องรีบดึงมือกลับมาเมื่อเจออีกฝ่ายหยิกแขนของเขาอย่างแรง ถึงแน่ใจว่า มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน
“อู๊ยส์.....” เขาส่งเสียงซีดรอดไรฟันออกมาด้วยความเจ็บ
เจ้าของบ้านไร่ทะเลฝันถลึงตาใส่ ก่อนจะปล่อยมือจากการหยิกแขนของเขาอย่างแรง เมื่ออีกฝ่ายดึงมือกลับไป แล้วรีบขยับตัวถอยให้ห่างจากเขาเพิ่มขึ้นอีก อยู่ในระยะที่เขาไม่อาจเอื้อมมือถึงเธอได้
“โทษที ฉันกำลังงงว่า กำลังฝันอยู่รึเปล่า?” หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียบแหบพร่าและดูอ่อนแรงไม่น้อย ยกมืออีกข้างลูบแขนตัวเองไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ ใบหน้านั้นย่นยู่ยี่
‘คนใจร้ายหยิกมาได้!’ คนเจ็บก้มลงมองแขนตัวเองที่มีร่องรอยจากการหยิก
‘เนื้อจะหลุดหรือเปล่าเนี่ย...?’
“ทานน้ำก่อน” เธอส่งแก้วน้ำให้ แล้วเทยาสมุนไพรรางจืดแคปซูลใส่ฝายื่นไปตรงหน้าของหนุ่งขี้เมา
“แก้เมาค้าง” พยาบาลจำเป็นพยายามเก๊กสีหน้าขรึมเข้าไว้ มองใบหน้าของเขาเวลานี้แล้วอดขำไม่ได้ พยายามซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้าเรียบเฉย
ชายหนุ่มมองหน้าเธอสลับกับยาแคปซูลอย่างงุนงง สงสัยว่า มันคืออะไร? ทำไม! ต้องกินยาอีกแล้ว! เขารู้สึกว่า สมองยังตื้อ มึนหัว และหนักอึ้งไปหมด
“ไม่กินก็ตามใจ” เธอดึงมือที่ยื่นยาให้เขากลับมา เทยากลับใส่ขวดเหมือนเดิม
“กิน...กินก็ได้...” เขาพูดเสียงอ่อยเมื่อเห็นเธอจะไม่สนใจเขาแล้ว
หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มที่ยังดูเซื่องซึมสลึมสลืองัวเงียอยู่
“ฉันไม่ได้บังคับนายนะ” น้ำเสียงนั้นเฉียบขาดอยู่ในที
ปฏิการพยักหน้ารับด้วยหน้างอ ๆ เล็กน้อยที่ต้องกินยาอีกแล้ว ก่อนจะแบมือยื่นออกมาตรงหน้าเธอเหมือนเด็กขี้อ้อน
พยาบาลจำเป็นจึงเทยาสมุนไพรรางจืดออกจากขวดใส่ฝา ยื่นไปเทใส่ฝ่ามือของเขา นั่งมองคนเมาค้างเทยาใส่ปากแล้วดื่มน้ำตาม เหมือนเขาจะสำลัก ทำท่าจะอ้วกเม็ดยาออกมา แต่ก็พยายามรีบดื่มน้ำตามลงไปอีกจนหมดแก้ว
สายตาของหนุ่มผมยาวมองแก้วน้ำในมือด้วยความสงสัย พลางยกมือขยี้ตาถี่ ๆ แล้วสะบัดหัวไปมา เขาตาฝาดไปหรือเปล่า? มองเห็นมีบางอย่างติดอยู่บนปากแก้วน้ำคืออะไร? ทำไมปากแก้วถึงมีสีชมพูได้ เขาเอียงแก้วไปมา ก่อนจะก้มลงแตะริมฝีปากที่ปากแก้วอีกด้านแล้วมองดู มีสีชมพูติดอยู่ที่ขอบแก้วน้ำเช่นกัน แล้วยกหลังมือเช็ดริมฝีปาก มองเห็นสีชมพูติดอยู่บนหลังฝ่ามือของเขาเป็นทางยาว มันเหมือนสลิปสติกหรืออะไรกันแน่?
เกิดอะไรขึ้น! กับปากของเขา! ทำไมมีลิปสติกสีชมพูได้!
หนุ่มผมยาวเงยหน้าจากฝ่ามือของตนเอง มองหน้าพยาบาลจำเป็น เธอ! ทำอะไรกับเขาเนี่ย! มองไปที่นิ้วมือของของหญิงสาวมีรอยเปื้อนหมึกเคมีสีน้ำเงิน บนโต๊ะตรงหน้ามีปากกาเคมีสีเดียวกันวางอยู่ และมองเห็นแท่งสลิปสติกวางอยู่ใกล้กัน
‘โอ๊ย! ม่าย.........นะ.......!!’ เขายกสองมือจับหน้าของตัวเอง แล้วรีบหยิบมือออกมาเปิดกล้องหน้าส่องดูใบหน้าของตนเองโดยด่วน!
เมื่อมองเห็นใบหน้าของตัวเองแล้วต้องตกใจสุดขีด
‘……………………………….!!!!’
ไม่.....! โอ๊ย! รับหน้าตัวเองไม่ได้....!!
ปฏิการมองหน้าน้องสาวเพื่อนด้วยดวงตาเขียวปั้ด! โกรธเธออย่างมาก
“ยัยปา...ริ...มา....! เธอทำอะไรกับหน้าของฉันเนี่ย!” เขาแค่นเสียง พลางชี้หน้าเธออย่างไม่พอใจ อยากจะตะเบ็งเสียงต่อว่าเธอแต่เหมือนไม่มีแรง
“ก็ใช้ใครใช้ให้นายไปเมามาล่ะ! เมาแล้วทำไมไม่กลับบ้าน! มาที่นี่ทำไมไม่ทราบ!” อีกฝ่ายตอบลอยหน้าลอยตาแบบไม่รับผิดชอบใด ๆ มันเป็นความผิดของเขาไม่ใช่ของเธอซักหน่อย ใบหน้าของเธอแม้จะพยายามเก็กสีหน้าให้ขรึมไว้ แต่ไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มไว้ได้
“ปริม!” ปรามเดินเข้ามาในห้องรับแขก ได้ยินเสียงน้องสาวโวยวายเสียงดัง หันไปมองหน้าเพื่อนรัก เขาอึ้งไปชั่วขณะ! ก่อนจะค่อย ๆ ระเบิดหัวเราะเสียงออกมาด้วยความขำ ก่อนหันไปมองน้องสาวตัวแสบ
“ไอ้ปราม! หยุดเลย! หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้!” ปฏิการพยายามส่งเสียงอันแหบพร่าห้ามเพื่อน เมื่อมองเห็นปรามเอาแต่หัวเราะเขา ให้มันได้ยังงี้สิ! ขำกันทั้งพี่ทั้งน้อง
เขาจะทำอย่างไรกับหน้าของตัวเองดีเนี่ย! อยากจะบ้าตาย! แล้วนึกขึ้นได้ ตายล่ะ! งานเข้าแล้ว! วันนี้รับงานร้องเพลงด้วย แล้วจะทำยังไงละทีนี้!
“ฉันรับงานต้องไปร้องเพลงตอนเย็นนะ! จัดการหน้าของฉันให้กลับมาเหมือนเดิมเลย” เขาหันไปโวยวายกับคนมือบอน แม้ร่างกายจะยังไม่ค่อยมีแรงเอากับเรื่องเธอ
“นายมีงานเหรอ? นึกว่าว่างงาน เห็นลอยไปลอยมา มีงานแล้วไปเมาทำไม? สมควรแล้ว!” อีกฝ่ายปฏิเสธความรับผิดชอบเสียงแข็ง
‘หะ!! ยัยตัวแสบ! นี่เธอจะไม่รับผิดชอบใช่มั้ย? พูดแบบนี้!’
“ฉันจะไปเมาอะไร มันก็เรื่องของฉัน! แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาละเลงหน้าฉันจนเละแบบนี้ เธอเป็นใคร! ใช้สิทธิ์อะไรมาทำหน้าฉันจนพัง ตอบมาซิ!” ปฏิการไม่ยอมโวยอีกฝ่ายคืนด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลียไม่เต็มเสียง บางช่วงเสียงขาดหายไปในลำคอ แต่จะต้องเอาเรื่องเธอให้รับผิดชอบให้ได้
“ปริม จัดการหน้าของเขาให้กลับมาเหมือนเดิม” ปรามหันไปบอกน้องสาวเสียงเข้ม
“พี่ปราม....! แต่ฉันมีเรียนตอนบ่ายนะ” ปริมาหาข้ออ้างมาบ่ายเบี่ยง
“ก็รีบเลย ไม่งั้นไม่ต้องไปเรียน รู้จักทำ ก็ต้องรู้จักรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ เข้าใจรึเปล่า?” ปรามดุน้องสาว
ปริมาทำหน้างอ แล้วจะทำยังไงละทีนี้ จะใช้อะไรลบล่ะเนี่ย เธอไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอางค์เลย ไม่เคยใช้ ไม่เคยแต่งด้วยซ้ำไป
“ฉันไม่รู้จะใช้อะไรลบนี่” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย พลางยกมือเกาหัวแกรก
หนุ่มผมยาวเบิกตาโตเมื่อได้ฟังคำตอบของน้องสาวเพื่อน!
โอ๊ย!! เขาอยากจะบ้าตาย อยากจะร้องไห้....!! ไม่.....!! พลางยกสองมือจับใบหน้าตัวเองเงยหน้าร้องแหกปากดังลั่น...!!
โฆษณา