12 พ.ค. 2021 เวลา 09:53 • ไลฟ์สไตล์
จดไว้กันลืม EP.3: มุมมองในการแพลนงานที่เปลี่ยนไป
เรา... มักจะมีความรู้สึกไม่ดีเสมอเลยเวลาที่ทำงานไม่ได้ตามที่แพลนไว้
[อาจเป็นเพราะส่วนตัวมีชะนักติดหลังอยู่ เรื่องที่คิดว่าตัวเองช่างใช้เวลาได้ไม่คุ้มเลย และยังก้าวผ่านความคิดนี้ไปไม่ได้อย่างสมบูรณ์ กำลังหาวิธีแก้อยู่น้า]
เรามักจะกลับมาคิดทบทวนเสมอเลยว่าปัญหามันอยู่ตรงไหนกันนะ? มันเกิดจากการที่เรามีสิ่งที่ต้องทำ หรืออยากทำหลายอย่างมากเกินไปจนไม่มีเวลาเพียงพอ หรือว่างานทุกอย่างมันดูเร่งด่วนจนหมด จนเราไม่สามารถรับมือกับการแบ่งเวลาเพื่อทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จได้
เราพยายามปรับปรุง เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานหรือแพลนงานในแต่ละวันมาโดยตลอด เพื่อให้ตัวเองได้รู้สึกว่าวันนี้ผ่านไปอย่าง Productive หรือผ่านไปอย่างมีประสิทธิภาพในแบบที่เราอยากให้เป็น...
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับตัวเอง และกับสิ่งที่พยายามทำอยู่
Photo by Eli Sommer from Pexels
ถ้าเป็นแต่ก่อนสักสองปีก่อนหน้านี้ เราคงไปเพียรพยายามหาคลิปใน Youtube หรืไม่ก็บทความในกูเกิ่ลว่าด้วยเรื่องการทำยังไงให้หนึ่งวันของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ
และคงจะตะบี้ตะบันค้นหาคำตอบต่อไป เมื่อได้รับแนวทางมาอย่างนึง ก็คงทดลอง ไม่สำเร็จก็หาใหม่ต่อไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด และก็คง... ไม่รู้ว่าจะได้คำตอบจริงๆมั้ย
แต่เนื่องจากปีที่แล้วเป็นปีที่ค่อนข้างหนักมากสำหรับเรา... ในแง่กายภาพมันหนักมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ในแง่สภาพจิตใจ โอ้โห... พังทลาย และตัดสินใจปรึกษากับนักจิตวิทยา
หนึ่งสิ่งที่เราจำได้จนขึ้นใจมาจนถึงตอนนี้ ก็คือเค้ามักจะถามเราว่า "ภาพ" ของสิ่งที่เราอยากให้เป็นมันคืออะไร
เช่น ถ้าเราบอกว่าเราอยากทำงานที่ดี เค้าจะถามว่า แล้ว"ภาพ"ของงานที่ดีมันเป็นยังไง... เออว่ะ มันเหมือนเราได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่เรามองข้ามไป
ไม่ใช่แค่คิดแต่จะว่าสำเร็จ หรือทำให้เสร็จ แต่มันต้องมองให้ออกว่า แล้วสำเร็จแค่ไหนคือเรียกว่าสำเร็จ สำเร็จแค่ไหนถึงจะดี
เราเคยแม้กระทั่งตัดสิ่งที่อยากทำออกจากชีวิตให้หมด นั่นหมายถึงการออกกำลังกาย การเขียนไดอารี่ เขียนบทความที่แพลนไว้ว่าอยากทำ การติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้าง เพื่อให้มีเวลาทำงานที่อยากทำให้ได้มากที่สุด นับเป็นจำนวนชั่วโมงก็อาจจะมีเวลา'ทำงาน' ที่ตอนนั้นหมายถึงการเตรียมตัวสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์... ให้ได้มากที่สุด
Photo by Andrew Neel from Pexels
และได้เรียนรู้ว่า - - ถ้าจะไม่หยาบคายจนเกินไป... ไอ่เชี่ย ไม่ work ว่ะ พังครืนทั้งงานทั้งร่างกายทั้งจิตใจ ตอนนั้นแหละ... ถึงได้ตัดสินใจนัดเจอนักจิต และได้รับไอเดียดีๆในการปรับมุมมองการทำงาน
ว่ามันไม่ใช่แค่แปะในแพลนเนอร์สวยๆไว้ว่าทำให้เสร็จ แต่ต้องบอกตัวเองให้ได้ว่า เสร็จแค่ไหนคือเสร็จ ถึงขั้นตอนไหนคือเสร็จ แค่ไหนคือดีแล้ว มีประสิทธิภาพแล้ว ใช้เวลาวันนั้นได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ภาพที่ต้องการมันเป็นยังไง?
เพราะว่าพอเราเห็นภาพ เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการทำงานได้ง่ายมากขึ้น เห็นชัดเจนมากขึ้นว่าควรแบ่งงานยังไง นั่นคงเป็นสิ่งที่เรานึกขึ้นได้แล้วก็เลยเอามาเขียนล่ะมั้ง
แน่นอนว่าตัวเราเองตอนนี้ก็กำลังฝึกฝนอยู่ แต่คิดว่าก็อยากมาแชร์ประสบการณ์เหมือนกัน หวังว่าจะมีประโยชน์กับใครก็ตามที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ
ไปจิบกาแฟดีกว่า เริ่มง่วงแล้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา