15 พ.ค. 2021 เวลา 01:25 • ปรัชญา
เลิกกลัวความล้มเหลว ด้วยกฏ 10,000 ชั่วโมง อะไรๆ ก็สำเร็จได้ ถ้าเราทำมันมากพอ
ในทุกวันนี้ที่ ‘เป็ด’ กลายเป็นลักษณะของบุคคลยอดฮิตที่ใครต่างก็เป็นกัน การมีความสามารถที่หลากหลายนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำงานยุคนี้ที่อะไรๆ ก็สามารถ Collaboration กันได้ เพราะฉะนั้นลักษณะของคนที่เรียกว่า ‘เป็ด’ จึงกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
จนอาจทำให้ใครหลายๆ คนที่มีความมุ่งมั่นจะเป็น Specialist เกิดการตั้งคำถามมากมายว่าแท้จริงแล้วในยุคที่ใครๆ ต่างก็เป็น ‘เป็ด’ กัน แล้วฉันควรที่จะทุ่มเทให้กับแค่บางสิ่งอยู่อีกไหม คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคงไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวคุณเองที่จะตระหนักรู้ได้มากแค่ไหนว่าตัวเองเหมาะกับลักษณะแบบใด
วันนี้แอดเลยมีกฏข้อหนึ่งที่น่าสนใจที่เราต่างคุ้นเคยกันในชื่อ กฏ 10,000 ชั่วโมง ที่ว่ากันว่ามนุษย์เรานั้นหากทำอะไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งนั้นเกิน 10,000 ชั่วโมง เราจะกลายเป็นผู้มีความสามารถด้านนั้นอย่างชำนาญเลย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ Specialist หรือผู้ที่อยากจะเป็น Specialist มารู้จักกับกฏนี้กัน
ผู้คิดค้นกฏ 10,000 ชั่วโมง
กฏนี้ถูกคิดค้นขึ้นจากนักเขียนชื่อดังอย่าง “มัลคอล์ม แกลดเวลล์” ที่ได้สำรวจผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายบนโลกใบนี้ว่าพวกเขาทำอะไรและมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จจนดูเหมือนไม่ใช่คน (เปรียบเทียบนะ) คำตอบที่ได้กลับไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นการทำอะไรซ้ำๆ ทุ่มเทกับมันให้มากพอด้วยความต้องการของตัวเอง จะเรียกว่า ‘พรแสวง’ ก็คงจะเข้าใจได้ง่ายกว่า
มัลคอล์ม นั้นมีความเชื่อว่า เอ่อ...ถ้าแปลเป็นไทยก็คง “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น” เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ซึ่งจะเชื่อไม่เชื่อนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละคนล่ะนะ
เลิกกลัว ‘ความล้มเหลว’ อะไรก็สำเร็จได้ถ้าเราทำมันมากพอ
สิ่งที่เป็นปัญหาสำเร็จคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จสักที แต่พอกลับมามองดูจริงๆ แล้วพวกเขากลับไม่ได้ล้มเหลว แต่พวกเขายังไม่ได้เริ่มแม้แต่ลงมือทำด้วยซ้ำ (แอดก็เป็นฮ่าๆ) และเหตุผลที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือ ‘ความกลัวการล้มเหลว’
แอดจะไม่พูดเหมือนคนอื่นนะว่า ‘อย่ากลัวความล้มเหลว’ เพราะใครต่างก็กลัวความล้มเหลวกันนทั้งนั้นสิ่งนี้คือกลไกทางธรรมชาติของมนุษย์ เพราะฉะนั้นคำถามคือทำยังไง หลายๆ ครั้งแอดลองสังเกตตัวเองแล้วพบว่าหลายๆ สิ่งที่ล้มเหลวหรือยังไม่ได้เริ่มทำเพราะ “เราไม่ได้ทำมันมากพอ” แอดจะยกตัวอย่างง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องตัวเองให้อ่านกัน
ตัวอย่างความล้มเหลวเพราะไม่ได้ทำมันมากพอ (จากแอดเอง)
เมื่อสมัยมัธยมแอดเป็นคนชอบเล่นบาสเกตบอลมากๆ และอยู่ทีมโรงเรียนด้วย แต่ในการแข่งขันกลับเป็นได้เพียงทีมโนเนมที่มักโดนทีมชื่อดังถล่มอยู่ทุกปี แล้วแอดก็เอาแต่โทษโน่นนี่ เช่น โรงเรียนไม่สนับสนุน, โค้ชไม่ดี, เพื่อนร่วมทีมไม่เก่ง ฯลฯ และทำให้การแข่งขันปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมกลายเป็นการแข่งขันที่ผลลัพธ์ก็เป็นแบบเดิม
จนเมื่อเติบโตมาได้ระยะหนึ่ง เราเริ่มมองตัวเองมากขึ้นเข้าใจโลกมาขึ้นก็ทำให้ได้ค้นพบว่า ถึงแม้แอดจะฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่การฝึกซ้อมนั้นก็อยู่ในขอบเขตของเวลาการซ้อม แอดไม่เคยซ้อมนอกเวลา หรือทุ่มเทให้กับบาสเกตบอลในช่วงชีวิตอื่นมากสักเท่าไหร่ แอดก็ยังเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ จีบหญิง ไปเรื่อยด้วย
และสิ่งที่ช่วยตอกย้ำความมั่นใจว่าแอดทุ่มเทกับมันไม่พอจริงๆ ก็คือการได้เห็นการซ้อมของโรงเรียนชื่อดังที่ถล่มแอดในทุกปีเหล่านั้นจากรุ่นน้องที่ได้มีโอกาสไปอยู่ในทีมนั้น พวกเขาทุ่มเทให้กับมันมาก ผู้เล่นแต่ละคนต่างต้องการชัยชนะและความสามารถที่ตัวเองต้องการ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยว่าสิ่งที่แอดทำนั้นทำไมมันถึงล้มเหลว “เพราะเราทำมันไม่มากพอ”
ตัวอย่างผู้ประสบความสำเร็จด้วยกฏ 10,000 ชั่วโมง
ดูตัวอย่างที่ล้มเหลวไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นพลุแตกจากกฏ 10,000 ชั่วโมง หรือก็เพียงแค่ทุ่มเทกับบางสิ่งจนประสบความสำเร็จกันบ้าง ทั้งนี้แอดจะหยิบยกบุคคลที่ใครต่างก็เล่ากันผสมกับบุคคลที่เป็นไอเดอลของแอดมาแนะนำด้วย
บิล เกตส์
บิล เกตส์
เทพเจ้าแห่งวงการ IT และนักลงทุน เจ้าของไมโครซอฟท์ที่โด่งดัง มหาเศรษฐีระดับโลกคุณ ‘มัลคอล์ม’ ได้เล่าถึงชีวิตของ บิล เกตส์ ว่าเขามีความพยายามในการฝึกฝนเรื่องคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่อายุ 15-16 ปี อย่างหนักหน่วง 8 ชั่วโมงต่อวัน จนความรู้ความชำนาญในด้านนี้ของเขานั้นสูงกว่าระดับนักศึกษาปริญญาตรี จนทำให้เขาเลือกที่จะเมินเฉยต่อใบประกาศเรียนจบ ที่เขาได้ก้าวข้ามมันมาแล้วด้วย ‘ความรู้’
เดอะบีตเทิลส์
เดอะบีตเทิลส์
ก่อนที่จะมาเป็นวงดนตรีระดับตำนาน พวกเขาไปเล่นที่คลับระบำเปลื้องผ้าแห่งหนึ่งในฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมันชื่อว่ารามอินทรา! เอ้ยไม่ใช่! ‘อินทรา’ ผ่าม! ที่นั่นพวกพี่แกแสดงดนตรีสัปดาห์ละ 7 วัน และแต่ละคืนมากกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป นี่ยังไม่รวมถึงช่วงเวลาการซ้อมและการทัวร์คอนเสิร์ตต่างๆ นะ ที่ในปี พ.ศ. 2507 เดอะบีทเทิลส์มีการแสดงสดรวมได้ประมาณ 1,000 ครั้ง ขณะที่วงดนตรีปัจจุบันส่วนใหญ่แสดงกันไม่ถึง 1,200 ครั้งด้วยซ้ำ
โคบี้ ไบรอันท์
โคบี้ ไบรอันท์
นักบาสผู้ล่วงลับที่ฝากพลังของความทุ่มเทให้กับผู้คนททั่วโลก โคบี้เป็นหนึ่งในนักบาสที่ทรงอิทธิพลแห่งยุคเทียบเท่ากับ ‘ไมเคิล จอแดน’ เคล็ดลับความสำเร็จของโคบร้ไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์ แต่เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกซ้อมแบบเข้าเส้นเลือด เพื่อนร่วมทีมทุกคนได้เล่าว่าในทุกการซ้อมโคบี้มักจะเป็นคนที่มาก่อนเวลาซ้อม 2-3 ขั่วโมงเสมอ และก็กลับบ้านหลังคนอื่น 2-3 ชั่วโมงเช่นกัน
มีการแข่งขันหนึ่งที่โคบี้ได้ถูกเลือกให้เป็นคนทำคะแนนคนสุดท้ายก่อนเวลาจะหมดและเขาทำพลาด เพื่อนร่วมทีมในขณะนั้นเล่าว่าหลังการแข่งจบเขาไม่ได้กลับไปที่พัก แต่เขากลับมาที่สนามแล้วซ้อมทำคะแนนในจุดที่เขาพลาดอย่างบ้าคลั่ง นี่คือเรื่องราวบางส่วนของเขา ที่อยู่เบื้องหลังความเก่งกาจหาตัวจับยากของเขา
หลุยส์ RAP IS NOW
หลุยส์ RAP IS NOW
เล่าถึงผู้ประสบความสำเร็จในไทยบ้างดีกว่า แอดขอยกตัวอย่างพี่ “หลุยส์ ธชา คงคาเขตร” ผู้ก่อตั้งและขับเคลื่อนวงการเพลงแร็ปไทยให้นิยมได้ถึงทุกวันนี้ และพี่เขายังเป็นผู้กำกับฝีมือดีที่ไม่ได้เรียนการกำกับมาโดยตรงด้วยซ้ำ
พี่หลุยส์เล่าว่าตอนอยู่ที่ทำงานเก่าของเขา (VRZO) ตอนนั้นการทำคอนเทนต์ออนไลน์ยังใหม่มาก และเขาก็ได้มีโอกาสได้กำกับงานวิดีโอโฆษณาต่างๆ รวมๆ กันน่าจะประมาณได้มากว่า 1,000 ตัวในเวลานั้น ถ้าเทียบกับคนรุ่นเดียวกันก็คือมีประสบการณ์ในการทำงานจริงมากๆ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังคงอยู่ในวงการแร็ปที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย
อ่านบทสัมภาษณ์คุณหลุยส์ได้ที่นี่ ความสำคัญในอาชีพผู้กำกับของ “หลุยส์ ธชา คงคาเขตร”
จากที่ได้ยกตัวอย่างมา คาดได้ว่าพวกเขาเหล่านี้ได้ใช้เวลาและชีวิตกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากถึงแม้จะไม่ได้วัดได้เป๊ะๆ ว่าจะถึง 10,000 ชั่วโมงหรือไม่แต่ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าถ้าเราทำอะไรหรือให้เวลากับบางอย่างมากพอ เราก็สามารถเป็นผู้เชื่อยวชาญในเรื่องเหล่านั้นได้
เพราะฉะนั้นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอาจไม่ใช่ว่าเราจะทำบางอย่างได้ครบ 10,000 ชั่วโมงหรือไม่ แต่มันเริ่มต้นจากการถามตัวเองว่าเราเต็มใจที่จะทุ่มเทให้กับอะไร หากเราตอบคำถามนี้ให้ตัวเองได้ชัดเจนแล้ว ก็ลองทุ่มเทกับมัน ทำมัน ทำให้มากกว่าคนอื่นในแต่ละวัน โดยจะใช้ตัวเลข 10,000 ชั่วโมงเป็นตัววัดหรือไม่ก็ตาม
หรือถ้าใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวอยู่หรือไม่ประสบความสำเร็จสักที ลองถามตัวเองว่าเราทุ่มเทกับมันมากพอรึยัง แอดเชื่อว่าถ้าเราทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นอย่างจริงใจ และพยายามทำสิ่งนั้นโดยที่ไม่รู้สึกฝืน เชื่อว่าความสำเร็จจะแสดงออกมาให้เพื่อนๆ เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน
โฆษณา