12 พ.ค. 2021 เวลา 01:31 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
‘Class of Lies’ เมื่อสัญชาตญาณบอกว่าฆาตกรอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ทนายอย่างเขาจึงต้องปลอมเป็นครูเพื่อใช้กฎหมายจัดการ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่คือ post แรกของเรา (ฮูววว~🥳) ซึ่งจะเป็นการรีวิวซีรีส์ในสไตล์ของ MiMind ซีรีส์แต่ละเรื่องที่นำมาเล่ามีทั้งเก่าและใหม่ ทั้งพึ่งดูและดูไปนานแล้ว เช่น เรื่องนี้ Class of Lies เป็นซีรีส์ที่ดูตั้งแต่กลางปีที่แล้ว 2020 (แต่ซีรีส์ฉายในปี 2019) ณ ตอนนั้นคือชอบเรื่องนี้มากๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เชิญอ่านได้เลยค่ะ 😃
- เรื่องย่อแบบรวดเร็ว -
พระเอกเป็นทนายความที่ทำคดีการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักเรียนหญิงเป็นเหยื่อ และผู้ต้องสงสัยคือนักเรียนชายที่สนิทกัน แน่นอนว่าเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมเล่าว่าเกิดอะไร (ตรงนี้จะมีรายละเอียดพอสมควร) ด้วยความกดดันทำให้นักเรียนชายคนนั้นกระโดดตึกอาการโคม่า พระเอกถูกยึดใบอนุญาต แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นทนายของพระเอก ทำให้เขารู้สึกว่าคดีนี้มันมีอะไรมากกว่านั้น (ซึ่งตรงนี้ก็มีรายละเอียดอีกพอสมควร) พระเอกจึงปลอมตัวเป็น ‘ครู’ เข้าไปในโรงเรียนเพื่อสืบว่าใครเป็นคนฆาตกร
ความสนุกจะอยู่ที่ตัวบทล้วนๆ เลย คือบทจะไม่บอกว่าใครเป็นฆาตกร เราจะได้สืบไปพร้อมกันกับพระเอก และนักเรียนแต่ละคนในโรงเรียนจะมีความเทาๆ เราจะไม่ไว้ใจใครเลยสักคน นั่นก็หมายความว่าฆาตกรสามารถเป็นใครก็ได้
- ตัวละครหลัก -
อีกความน่าสนใจ คือ คาแรคเตอร์ของตัวละครหลัก พระเอกเป็นทนายความที่เก่งมากๆ แต่มีความทะนงตัวพอสมควร วิธีการที่ใช้ในการว่าความเป็นวิธีใดก็ได้ ผลคือต้องชนะแค่นั้นพอ ส่วนนางเอกเป็นครูที่ดี มีความเป็นห่วงเป็นใยนักเรียนมาก มากๆ มากๆ จริงๆ 😅 นักเรียนเปรียบเสมือนลูกคนหนึ่งเลย
ด้วยความต่างขั้วนี้ มันก็เลยเป็นเรื่องของการหาตรงกลาง ความไม่มากไปไม่น้อยไปไม่ว่าจะรักตัวเองหรือรักคนอื่น พอเรื่องเดินไปเรื่อยๆ เราจะรู้สึกได้เองว่าทั้งคู่คือเปลี่ยน แล้วยิ่งต้องมาสืบคดีด้วยกัน บทจะทำให้เราเห็นมุมมองระหว่างความเป็น ‘นักกฎหมาย’ กับ ความเป็น ‘ครู’ ชัดมาก พระเอกจะเป็นประเภทที่ผิดก็คือผิด แต่นางเอกจะมองสาเหตุสำคัญแม้ทำผิด โดยในเรื่องมันจะมีซีนที่นักเรียนทะเลาะกัน แล้วพระเอกกับนางเอกต้องพูดเกลี้ยกล่อม บทพูดตรงนี้คือดีมาก เห็นความแตกต่างชัดเจนเลย
เรื่องหนึ่งที่ต้องบอกไว้ก่อน คือ อย่าคาดหวังความความโรแมนติก ไม่มี ไม่มีเลย (ความโรแมนติก = 0) จังหวะโดนตัวแล้วช็อต สบตาแล้วสป๊าค ไม่มีจ่ะ!!
- เสน่ห์ของเรื่อง -
สิ่งที่ต้องยกให้เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้เลย คือ โรงเรียน มันจะมีความโอเวอร์พอสมควร (ส่วนตัวคิดว่าคนเขียนบทตั้งใจ) บทจะยกประเด็นที่แบบ…โดยธรรมชาติของเราแล้ว เราจะมองว่าสิ่งนี้ผิดมาเล่า แล้วเล่าแบบหนักๆ ชัดๆ เหมือนตั้งใจทำให้คนดูรู้สึกว่าก็สมเหตุสมผลแล้วที่ ‘ฆาตกร’ จะอยู่ในโรงเรียนนี้
อีกหนึ่งไฮไลต์ของเรื่อง คือ ซีนที่พระเอกสอนในห้องเรียน จะมีการยกข้อกฎหมายขึ้นมาพูด ซึ่งเป็นการเอาความผิดของนักเรียนที่ตัวเองสืบเจอมาสมมติสถานการณ์ นาย A นาง B อะไรประมาณนี้ (ส่วนตัวชอบซีนพวกนี้มากๆ)
- ภาพรวม -
ประเด็นหลักของเรื่อง คือ การหาว่าใครเป็นฆาตกร ตรงนี้คนเขียนบทเก่งมาก คือบทจะไม่เล่าตรงๆ ว่าเป็นคนนี้นะ คือไม่ชี้ตัวอะ แต่จะใช้วิธีการเล่าแบบ ‘ตัดซอยส์’ นักเรียน (ที่เป็นตัวหลัก 4 คน) จะโดนสงสัยไปทีละคนๆ ซึ่งการเล่าแบบนี้เราจะไม่ได้ความรู้สึกแบบ "เห้ย! พีค" ไม่ใช่เลย แต่เราจะได้ความน่าติดตาม น่าค้นหาแทน ซึ่งมันจะทำให้คนดูติด (ยอมรับว่าช่วงที่ดูก็คือแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน😁)
ทั้งหมดที่เล่ามาก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เล็กๆ เท่านั้น ซีรีส์มีประเด็นเยอะมาก ทุกประเด็นมีความน่าสนใจหมดเลย แต่ แต่…ยังมีประเด็นที่ยังไม่ถูกพูดถึงอยู่ถึงแม้ซีรีส์จะจบแล้ว บางอย่างมันก็เลยยังค้างคา แล้วซีรีส์จบเหมือนจะมีภาคต่อ จนตอนนี้ 2021 แล้ว ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเลย😢
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ โปสเตอร์ คือมันมีความน่าค้นหา สามารถตีความได้ เดี๋ยวมาเล่าใน post ต่อไป แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าสปอยยับ (แทบจะทั้งหมด) แนะนำให้ไปดูซีรีส์ก่อนเนอะ ค่อยมาอ่านยังไม่สาย😁 กดติดตามไว้ได้เลยค่ะ🙏
📍วิเคราะห์โปสเตอร์ลงแล้วนะคะ : https://www.blockdit.com/posts/609b6d19396e8d0480c35147
หากมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมหรืออยากให้กำลังใจ comment ไว้ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังว่าจะชอบและไปตามดูกันน้าาา~👍✌️
ซีรีส์ดูได้ที่ Viu (premium)
มีทั้งหมด 16 ตอน ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง
- Reference -
🖼 Cover made via Canva
โฆษณา