13 พ.ค. 2021 เวลา 03:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ป่าท้ายหมู่บ้าน
เรื่องสั้นแนวสยองขวัญ
แต่งโดย : TK เด็กหลังเขา
ขอขอบคุณภาพจากเว็บ Canva
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดแถบภาคอีสาน วิถีชีวิตแบบบ้านๆของชาวบ้านนั้นจะปลูกผัก เลี้ยงสัตว์และหาของป่าขาย
ในหมู่บ้านนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งค่อนข้างจะดื้อรั้นและซุกซน เล่นพิเรนทร์ไปวันๆ ในกลุ่มมีสมาชิกอยู่ 4 คน คือ เปรียว บุ๋ย นนท์ เล็ก ชาวบ้านต่างขนานนามว่าไอ 4 กุมาร
โดยหัวโจกของกลุ่มชื่อ เปรียว ซึ่งเปรียวเป็นหลานของยายน้อยและตาปั้น ซึ่งตายายทั้งสองทำอาชีพ หาของป่าขายให้กับพวกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในเมือง
มีอยู่วันหนึ่งตาปั้นล้มป่วย จึงทำให้ยายน้อยต้องหยุดหาของป่าหันมาดูแลตาปั้น ซึ่งรายได้จากการหาของป่านั้นก็จะหายไป ยายน้อยจึงขอให้เจ้าเปรียวไปหาของป่าแทนตากับยาย
ยายน้อย : “เปรียวเอ้ย ยายคงต้องหยุดหาของป่าไปก่อนหวะ ต้องดูแลตาเขา เองไปหาของป่าแทนยายได้ไหมลูก”
เปรียว : “อ่าวยาย!! ฉันนัดกับพวกไอบุ๋ยไว้แล้ว ว่าจะไปเที่ยวกันในเมืองสักหน่อย”
ยายน้อย : “เองนี่มันจริงๆเลย ตาเองป่วยยายต้องดูแลตา ถ้าไม่มีของป่าไปขายเขาจะอดตายกันหมดนะ ”
เปรียว : “แต่ฉันไม่เคยไปหาของป่าเลยนะ ฉันไม่กล้าไปหรอก”
ยายน้อย : “เองก็ชวนเพื่อนเองไปด้วยกันสิ ไอเล็กมันเคยช่วยพ่อมันหาของป่าไม่ใช่หรือไง ไปช่วยกันหาไป”
เปรียวนั่งเถียงกับยายสักพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เถียงแพ้ยาย จึงต้องจำใจไปหาของป่าตามที่ยายสั่ง เปรียวได้นัดกับเพื่อนเอาไว้ที่ลานโล่งกลางหมู่บ้าน เมื่อถึงเวลาเปรียวจึงไปตามนัด ซึ่งเปรียวตั้งใจจะหลอกเพื่อนทั้ง 3 คนไปหาของป่าเป็นเพื่อน จึงได้เอ่ยปากบอกกับเพื่อนว่า
เปรียว : “ไปกันเถอะพวกมึง เดี๋ยวกูนำทางเอง พอดีกูไปเจอทางลัดอยู่หลังหมู่บ้าน”
นนท์ : “อะไรของมึงวะ ทางเดิมก็ดีอยู่แล้ว จะยากลำบากไปทำไม”
เปรียว : “เออน่า มึงตามกูมาเถอะ”
ทั้ง 4 คนเถียงกันอยู่สักพัก แต่สู้ความดันทุรังของปรียวไม่ไหว จึงต้องเดินตามทางที่เปรียวแนะนำจนกระทั่งถึงชายป่า
เล็ก : “นี่มันป่านี่หว่า มึงแน่ใจนะว่าที่นี่คือทางลัด”
เปรียว : “ก็ใช่นะสิ”
ทั้ง 4 คนได้เดินเข้าไปในป่าทึบ จนเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ ลึกขึ้นเรื่อยๆ เล็กจึงได้กล่าวขึ้นมาว่า
เล็ก : “นี่มึงจะพาพวกกุมาฆ่าหมกป่ารึไงวะ กุเดินมาจะชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นถนนสักเส้นเลย”
เปรียว : “welcome!! ยินดีต้อนรับพวกมึงเข้าสู่ป่า 555”
บุ๋ย : “เฮ้ย!! มึงเล่นไรของมึงวะ พวกกูไม่ตลกนะเว้ย นี่มึงหลอกพวกกูหรอวะ”
เปรียว : “ใจเย็นๆสิเพื่อน โถ๋ๆๆ คือตากูป่วย ยายกูก็ต้องดูแลตา ยายเลยขอให้กูมาช่วยหาของป่า ไปขาย ไม่งั้นไม่มีเงิน ไอเล็กมึงเคยหาของป่าไม่ใช่หรือไง ไหนๆมาแล้วก็ช่วยกูหน่อยละกัน”
1
เล็ก : “ใช่ กูเคยหาของป่ากับพ่อกู แต่ไม่เคยเข้ามาลึกขนาดนี้ไง”
เมื่อเล็กได้บอกทุกคนว่าไม่เคยเข้ามาลึกขนาดนี้ บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ทุกคนเริ่มเครียด เริ่มรนราน อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ท้องฟ้าที่โปร่งก็เริ่มมืดครึ้ม คล้ายฝนจะตก ทั้ง 4 คนจึงตกลงกันว่าจะหาที่หลบฝนก่อน แล้วค่อยเดินกลับไป จนระทั่งเจอถ้ำแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปหลบในถ้ำกัน และไม่นานนักหลังจากเข้าไปหลบในถ้ำ ฝนก็ตก
ในระหว่างหลบฝนอยู่นั้น บุ๋ยเกิดปวดท้องฉี่ จึงบอกกับเพื่อนๆว่าจะไปหาที่ปลดทุกข์สักหน่อย แต่ทุกคนหลังจากเดินมาทั้งวันก็ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเหมือนกัน จึงตกลงจะเดินลึกเข้าไปในถ้ำ ต่างคนต่างหาซอกหลืบปลดทุกข์กันตามสะดวก ใครทำธุระเสร็จก่อนก็ออกมารอที่หน้าปากถ้ำ เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที เปรียว นนท์ เล็ก และบุ๋ย ต่างเดินออกมาคอยกันตามลำดับ
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ฝนหยุดตก ทั้ง 4 คนจึงเดินออกไปนอกถ้ำ เพื่อจะเดินทางกลับหมู่บ้าน เมื่อทุกคนเดินพ้นถ้ำออกมาแล้ว สิ่งที่อยู่ข้างหน้าของพวกเขานั้น ไม่ใช่ป่าที่พวกเขาคุ้นเคยตอนเดินเข้ามาบรรยากาศมันเปลี่ยนไป เปรียวเกิดความสงสัยจึงได้ถามพวกเล็กไปว่า
เปรียว : “เล็ก มึงว่ามันแปลกๆหรือเปล่า กูว่ามันไม่ค่อยคุ้นเลยวะ”
นนท์ : “ใช่ๆ กูว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่เลย หรือพวกเราจะหลงป่าวะ”
เล็ก : “งั้นพวกเราคงคิดเหมือนกันแล้วหละ”
บุ๋ย : “ไม่เห็นเปลี่ยนไปเลย พวกมึงคิดมากกันไปใหญ่แล้ว ทางก็เหมือนเดิม แค่ตอนเดินมาฟ้ามันครึ้มก็เท่านั้น”
นนท์ : “ก็อาจจะใช่อย่างที่ไอบุ๋ยบอกก็ได้ งั้นเราลองเดินตามทางที่เราเดินมาดูไหม ถึงทางจะไม่เหมือนเดิมก็เถอะ”
ทั้ง 4 คนได้เดินตามทางที่ตัวเองเดินกลับมา ถึงแม้ทางเดินจะไม่เหมือนเดิมก็ตาม แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเบรคตัวโก่งกันทั้งกลุ่ม เพราะทุกคนนั้นได้เดินวกกลับมาอยู่ที่บริเวรหน้าถ้ำเดิมที่ได้หลบฝน
เล็ก : “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะหลง”
นนท์ : “เอาไงกันดีวะ เราจะตายหรือเปล่าวะ”ฮือ...... นนท์ร้องไห้
เปรียว : “นั่นปากใช่ไหมไอนนท์ ไม่ตายหรอกน่า แต่เราต้องทำยังไงดีตอนนี้”
เล็ก : “เปรียวตอนมึงเข้าป่ามาได้จุดธูปบอกเจ้าป่าเจ้าเขาหรือเปล่าวะ”
เปรียว : “เปล่า ข้าไม่ได้ทำ จำเป็นต้องต้องทำด้วยหรอ”
เล็ก : “อ่าวไอนี่ เข้าป่าก็ต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาสิวะ เราเข้ามาในสถานที่เขานะ ไม่งั้นก็เหมือนบุกรุกสิเพื่อน”
บุ๋ย : “มนุษย์นี่จริงๆ ไม่มีมารยาท เข้าบ้านเขา ก็ต้องขออนุญาตเขาสิ พวกมึงนี่มันจริงๆเลย”
เปรียว : “มึงนี่พูดจาประหลาดจริงๆไอนี่”
เล็ก : “เอาละๆ กูพอมีคาถาขอขมา ที่ได้จากพ่อกู เดี๋ยวลองทำลองทำพิธีละกัน ไอบุ๋ย มึงหยิบย่ามกูให้หน่อย”
โอ้ยย!!! บุ๋ยร้องเสียงหลง ทุกคนต่างตกใจกับเสียงร้องของบุ๋ย ทุกคนต่างถามบุ๋ยว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า ทันใดนั้น นนทท์ได้หันไปเห็นมือของบุ๋ย มือของบุ๋ยมีรอยแดง และรอยพุพอง เต็มไปหมด
นนท์ : “มึงดูมือไอบุ๋ยมันสิ เป็นรอยแดงเต็มไปหมดเลย”
เล็ก : “ขอโทษๆ พอดีในย่ามกูมีมีดอยู่ สงสัยคงโดนคมมีดบาดเข้าให้แล้วหละ”
นนท์จึงอาสาพาบุ๋ยไปหาลำธารใกล้ๆ เพื่อทำความสะอาดแผลของบุ๋ย และปล่อยให้เปรียวและเล็กทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขากันตามลำพัง
เปรียวเกิดอาการสงสัยในตัวของบุ๋ย จึงนั่งปรึกษากับเล็กว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมบุ๋ยถึงได้มีอาการผิดแปลกไปจากนิสัยปกติ แต่เล็กยังคงคิดว่าบุ๋ยนั้นปกติ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของบุ๋ยนั้นคล้ายรอยมีด เปรียวจึงถามเล็กว่า
เปรียว : “มึงไปเอามีดมาจากไหนวะ”
เล็ก : “ก็เตรียมไว้เผื่อเข้าเมืองแล้วจำเป็นต้องใช้ เก็บไว้ป้องกันตัวเว้ย”
เมื่อถามข้อข้องใจกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เล็กเริ่มทำการสวดนะโมตัสสะ 3 จบ และคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ยังไม่ทันเริ่มคาถาขอขมา ทองฟ้าเริ่มมืดครึ้มอีกครั้งคล้ายฝนจะตก ลมพายุพัดแรงพอที่จะสามารถพัดต้นไม้ต้นใหญ่ล้มลงได้เลย ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวกลุ่มใหญ่ลั่นไปทั่วผืนป่า
และนนท์เมื่อถึงริมลำธารแล้ว นนท์ก็ได้พบเหตุการณ์เดียวกับเปรียวและเล็ก แต่สิ่งที่นนท์เจอเพิ่มนั้นคือ บุ๋ยเริ่มมีอาการผิดแปลกออกไปมากกว่าเดิม เขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่แหบ แต่เป็นเสียงแหบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขนหัวตั้ง หลังจากสิ้นเสียง จากหน้าตาตี๋ๆ ผมสั้นๆ กลายเป็นยายแก่ๆหน้าตาอัปลักษณ์ นนท์ตกใจมากรีบวิ่งหนีผียายแก่สุดชีวิต ยายแก่คนนั้นวิ่ง ตามนนท์พร้อมกับหัวเราะไปตลอดทาง
นนท์วิ่งหนีจนร่างกายนั้นไม่ไหว หน้าเขานั้นค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ จนผียายแก่นั้นตามทัน นนท์ร้องไห้จนกระทั่งช็อคหมดสติ
ทางฝั่งทำพิธี เล็กได้นำสายสิญจน์ในย่ามของตนพันรอบมีดแล้วปักลงดิน เสียงกรีดนั้นแทนที่จะหยุดกับหนักขึ้นกว่าเดิม ลมพายุพัดโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าผ่าดังลั่นทั่วท้องฟ้า เปรียวทำได้เพียงนั่งให้กำลังใจเล็กเท่านั้น เล็กจึงเริ่มท่องคาถา ท่องไปได้ไม่เท่าไร เล็กก็เริ่มมีอาการมึนงง เลือดกำดาวไหล เปรียวเห็นท่าไม่ดี จึงพลักให้เล็กล้มลง เลิกสวดคาถา เพราะกลัวเล็กจะเป็นอะไรไป
“นะ โม พุท ธา ยะ” เสียงของชายคนหนึ่ง น้ำเสียงดูเข้มขลังและทรงพลังดังลั่นทั่วผืนป่า เปรียวและเล็กตกใจมาก เนื่องจากเสียงนั้นคุ้นเหมือนกับเป็นเสียงของคนใกล้ตัว แต่ด้วยความที่ทั้ง 2 คนนั้นตกใจ จึงทำให้นึกไม่ออก
ชายนิรนามได้สวดคาถาไปเรื่อยๆ จนท้องฟ้าเปิดเริ่มมีแสงของดวงอาทิตย์รอดพ่านร่มไม้ใหญ่ ชายคนนั้นเดินออกมาจากพุ่มไม้ คนนั้นคือตาปั้น ตาของเปรียว
เปรียวและเล็กยิ้มดีใจ เนื่องจากคิดว่าคงรอดพ้นจากพวกเจ้าป่าเจ้าเขาแล้ว ตาของเปรียวจึงบอกว่า
ตาปั้น : “เอง 2 คนอย่าพึ่งดีใจไป มันยังไม่จบ ต้องตามหาเพื่อนเองอีก 2 คนให้เจอ ไอพวกผีป่าพวกนี้มันเห็นเองตั้งแต่เดินเข้าป่ามาแล้ว มันจะเอาพวกเองไปเป็นบริวารของพวกมัน”
เปรียว : “ทำอย่างไรดีครับตา แล้วตารู้ได้ยังไง... ว่าแต่ตาหายแล้วหรอครับ ยายมาด้วยหรือเปล่า”
ตาปั้น : “เองเลิกถามเซ้าซี้ข้าสักที เมื่อเราออกไปจากป่าได้ เดี๋ยวเองจะรู้ทุกอย่างเอง”
ตาปั้น เปรียว และเล็ก จึงได้ออกตามหา นนท์ และบุ๋ย โดยเรียงลำดับการเดินทางของทั้ง 4 คน เริ่มต้นจากถ้ำ
เมื่อตาปั้นถึงถ้ำจึงนั่งกรรมฐานอยู่หน้าปากถ้ำสักพัก จนกระทั่งลืมตาขึ้น ตาปั้นสั่งให้เปรียวและเล็ก จุดเทียน 1 เล่มแล้วถือผ้ายันต์คนละแผ่นเดินเข้าไปในโถงถ้ำด้านซ้าย เปรียวและเล็กกลัวมากแต่ก็จำเป็นต้องทำ เมื่อทั้ง 2 เดินเข้าไปไม่ถึง 3 นาที ก็ได้พบบุ๋ยนอนสลบอยู่บนก้อนหินใหญ่ ทั้ง 2 คนจึงได้ปลุกบุ๋ยและพาบุ๋ยออกมานอกถ้ำ
เมื่อบุ๋ยตื่น ทั้ง 3 คน จึงถามบุ๋ยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้ไปนอนสลบอยู่บนก้อนหินนั้น บุ๋ยจึงตอบว่า
บุ๋ย : “ผมปวดท้องฉี่ครับ เลยเดินเข้าไปหาที่ปลดทุกข์สักหน่อย ระหว่างเดินเข้าไปผมก็เวียนหัว...แล้วก็... จำอะไรไม่ได้แล้วครับ อ้อ!!ผมได้ยินเสียงคนคุยกนครับ เป็นเสียงเล็กๆในถ้ำ”
เล็ก : “อ่าวแล้วไอนนท์มันเดินไปกับใครวะ!!!”
ตาปั้น : “เราต้องระวังให้มาก พวกมันไม่ธรรมดา ดีนะที่พวกมันยังไม่ทำอะไรเอง มันรอจับพวกเองให้ครบทุกคนแล้วค่อยเริ่มเชือดทีละคน พวกมันอยู่ในถ้ำกัน 3 ตัว ดีนะที่ถือผ้ายันต์เข้าไป ไม่งั้นพวกเองไม่เหลือแน่”
หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มออกตามหานนท์ ผ่านไป 1 ชั่วโมง ไม่มีวี่แววว่าจะพบตัว ตาปั้นพึมพำด้วยสำเนียงที่ฟังไม่ออกคลาดว่าน่าจะเป็นคาถาอะไรสักอย่าง
ตาปั้น : “ออกมา... ปล่อยคนของกู!!!” น้ำเสียงสุดเข้มขลัง
เอาหละครับ พี่ๆคิดว่าเรื่องราวต่อจากนี้ของพวกเปรียวและผีป่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จะออกจากป่ากันได้หรือไม่
ถาอยากรู้ เพียงแค่ 15 บาทเท่านั้นครับ
2
พิมพ์คำว่า " สนใจ " เพื่อทำการแจ้งเลขบัญชี เพื่ออ่านเนื้อหาสุดมันส์แบบเต็มๆ
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงตอนนี้ ขอบพระคุณครับ
ติดต่องาน FB : https://www.facebook.com/tk.deklangkhao
FB : TK Dek Lang Khao
หรือทาง Blockdit เพจนี้ได้เลยครับ
หรือแอดไลน์ id : tkdlk03
#TK เด็กหลังเขา
#LifeStyle BY : TK
โฆษณา