ปัญหาสำคัญที่แอดเจอในการทำงานคือ “การทำงานเป็นทีม”
แปลกนะครับ ทุกคนรู้ว่าการทำงานเป็นทีมนั้นดีแน่ๆ case study องค์กรที่ประสบความสำเร็จมักพบว่าแม้แต่บริษัทที่มี CEO หรือเจ้าของเด่นๆ ก็ยังต้องมีองค์ประกอบการทำงานเป็นทีมที่ดี แต่พอเอามาใช้ในบริษัทเรา แหม!!! มีปัญหาเหลือเกิน ต่างคนต่างทำ บางบริษัทขยายตัวเป็น Silo จนผลประกอบการไม่ปังเท่าที่ควร
เวลามีพนักงานในบริษัทฯมาขอคำปรึกษา เรื่องการทำงานเป็นทีม แอดมักจะเริ่มต้นถามว่าแล้วคุณทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ตอบว่าพยายามแล้ว แต่มันไม่เกิด!!!
เลยนึกย้อนไปถึงประโยคหนึ่งที่แอดได้ยินมาหลายสิบปีแล้ว บอกว่า นักฟุตบอลไทยกับญี่ปุ่น เวลาอยู่เดี่ยวๆนี่ความสามารถเฉพาะตัวเก่งพอกัน แต่เวลาเล่นเป็นทีมแล้วคนละเรื่อง อืมมม์...เมื่อดูผลงานก็เห็นจะจริงนะ บอลทีมไทย (ทีมชาติและสโมสร) ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนท์ใหญ่เท่าที่ควร ยิ่งเมื่อพิจารณามากกว่าตัวทีมฟุตบอล คือดูไปถึงการบริหารจัดการ การสนับสนุนส่งเสริม จะเห็นความสับสนในหลายระดับ ซึ่งสะท้อนความสามารถในการทำงานเป็นทีมนั่นเอง
บทความวันนี้ไม่ย้อนสาเหตุว่าทำไม แต่แอดจะประมวลจากประสบการณ์ว่า
ในฐานะคนทำงาน เราสามารถสร้างการทำงานเป็นทีมในองค์กรได้อย่างไร
📝 ความเป็นทีมเริ่มที่ “คุณ” 📝
ไม่สำคัญว่าคุณอยู่ในระดับไหน เนื้องานทำอะไร แต่วันนี้ถ้าหากคุณอยากสร้างความเป็นทีม คุณต้องลงมือทำงานของคุณให้ดีที่สุดก่อน แต่ช้านิดนึงครับ...อย่าเพิ่งบอกว่าฉันทำดีแล้ว ลองพิจารณางานของตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ 2 คำถามครับ👇🏾👇🏾
📌 คำถามแรกที่อยากให้ถามคือ เราทำงานของเรา ‘เสร็จ’ หรือ “สำเร็จ” ดูเหมือนง่ายนะครับ แต่ลองนึกว่าถ้างานของเราคือจัดการสรุปทำเอกสารของหน่วยงาน เพื่อให้หน่วยงานบัญชีเอาเอกสารของเราไปทำเบิกค่าใช้จ่าย แต่เรามักจะทำของเราเสร็จวันศุกร์เย็น ซึ่งกว่าบัญชีจะได้ทำต่อก็ต้องข้ามไปเช้าวันจันทร์ เอาง่ายๆแค่นี้ เราเสียเวลาไปสองวันละ หรือถ้าเขาต้องทำภายในวันศุกร์ หมายความว่าทางบัญชีต้องเสร็จดึกวันศุกร์ แทนที่จะได้ไปเที่ยวไหนบ้าง ส่วนบริษัทก็ต้องเสีย OT ให้บัญชี
ความเห็นแก่คนอื่นจากการทำงานที่ดีที่สุดของเรานี่แหละครับ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นทีม และการเริ่มต้นจากตัวเราก็เพื่อเอาชนะใจเพื่อนร่วมงานคนอื่น
📌 คำถามที่ต้องถามตัวเองอีกคำหนึ่งคือ เรามีความริษยาหรือน้อยเนื้อต่ำใจในงานของเราหรือตำแหน่งของเราหรือไม่ เป็นเรื่องปกติครับที่คนเราจะมี Ego ยึดมั่นถือมั่นในตนเอง โดยพื้นฐานมนุษย์ออฟฟิศมักคิดว่าตนเองดีกว่า ทำงานหนักกว่า
มีคุณค่ากว่าคนอื่น ฉะนั้นจึงมีข้อสงสัยเชิงลบบ่อยๆว่าไอ้คนนั้นมันดีกว่าเราตรงไหนมันถึงได้เงินเดือนมากกว่าเรา ถ้าคุณตอบปัญหาข้างต้นว่าใช่ คุณควรตั้งคำถามต่อไปว่า แล้วเราจะแสดงความสามารถของเราให้คนอื่นเห็นได้อย่างไรเพื่อลงมือทำตามนั้น แต่ถ้าคุณตอบว่าใช่ แล้วใช้มันเป็นเหตุผลบอกคนอื่นว่าที่เราไม่ก้าวหน้าเพราะคนอื่นประจบสอพลอ เพราะเจ้านายเป็นรุ่นพี่โรงเรียนคนนั้นคนนี้ แอดอยากบอกว่าคุณกำลังกลายเป็นเหยื่อ Ego ของตนเอง อย่าลืมว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จไม่ต้องการคนที่มีข้ออ้าง แต่ต้องการคนลงมือสร้างลงมือทำให้เป็นผลลัพธ์
ภาพจาก Google
📝 สร้างบรรยากาศของการแสดงความคิดเห็น 📝
สิ่งที่วิจัยภายในบริษัทกูเกิลค้นพบเกี่ยวกับทีมคือ ทีมที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่การรวมตัวของคนที่เก่งที่สุด ไม่ใช่การรวมตัวของคนทำงานหลากหลายสาขาวิชา และไม่ใช่การรวมตัวของคนที่สนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อน แต่กูเกิลพบว่า ทีมที่ประสบความสำเร็จเกิดจากสมาชิกในทีม ช่วยกันสร้างบรรยากาศให้ผิดได้ เตือนกันได้ โดยใช้ข้อมูลโต้แย้ง ไม่ใช้อารมณ์ ด้วยวิธีนี้แต่ละคนในทีมจะค่อยๆ ‘เข้าใจ’ ศักยภาพและขีดความสามมารถของแต่ละคน (หรือข้ามไปถึงแต่ละฝ่าย)
📌 แอดใช้คำว่า ‘เข้าใจ’ เพราะ ‘ความเข้าใจ’ จะทำให้ไม่มีอารมณ์ติดค้าง
เมื่อ “คุณ” สามารถสร้างบรรยากาศของการแสดงความคิดเห็น ทำให้แต่ละคนในทีมมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความเป็นทีมจะค่อยๆเกิดขึ้น ช่วยเหลือ เติมเต็ม ผลักดันกันและกัน ครั้งหนึ่งแอดเคยไปดูงานที่เยอรมัน มีการประชุมหนึ่งในกระทรวงศึกษาที่มีแขกอย่างพวกเราเข้าร่วม เขายังเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด
ลูกน้องเสียงดังกว่าเจ้านายด้วยซ้ำ แต่พอเลิกประชุมปั๊บชวนกันไปดื่มเบียร์เฉยเลย ตำราสมัยใหม่หลายเล่มเรียกคนเหล่านี้ว่า มี Outward Mindset (วันหลังค่อยมาขยายความ)
ภาพจาก Google
📝 เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์บนเป้าหมายเดียวกัน📝
โดยพื้นฐานการไปสู่เป้าหมาย การแก้ไขปัญหาต้องไม่ผลักภาระไปที่คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน รับผิดชอบร่วมกัน ชื่นชมความสำเร็จและพ่ายแพ้ด้วยกัน แต่แน่นอนว่าในการทำงานก็เหมือนเราแข่งกีฬา บางครั้งเราแพ้อยู่ บางคนเริ่มท้อแท้ บางคนหมดใจคิดว่าแพ้แน่ๆ “คุณ”เมื่อเห็นดังนั้น ควรจะเป็นผู้ถลกแขนเสื้อขึ้น สร้างความฮึกเหิมให้ทีม เวลาไม่หมดอย่าหมดหวัง ย้อนกลับมาที่การทำงาน แอดเรียกร้องให้คุณสร้างภาวะผู้นำ ด้วยการทำให้ทุกคนเห็นเป้าหมายเดียวกัน ร่วมกันสร้างแผนงานที่สอดคล้อง วางระบบที่เอื้อให้ทุกคนรับผิดชอบและขับเคลื่อนอย่างเกื้อกูล
📌 “คุณ” จึงต้องก้าวไปอีกขั้น อย่าลืมนะครับว่าจากนี้ไป ความสำเร็จขององค์กรเป็นเรื่องของการที่คนเก่งหลายคนหลายด้านทำงานร่วมกัน คนในองค์กรต้องร่วมกันสามารถขับเคลื่อนสู่ผลลัพธ์ให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ใต้โครงสร้างแบบใด(คืออย่าอ้าง) องค์กรจึงอยากได้ตัวจริงที่เป็นมือประสานสิบทิศ สร้างการมีส่วนร่วมของทีมให้เดินไปจนถึงเป้าหมาย สามารถเป็นศูนย์รวมจิตใจภายใต้ความท้าทายใหม่ๆได้ตลอดเวลา
รูปจากข้อ 3
ภาพจาก Google
✅ การรักษางานของตัวเองให้ได้ในวันนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันหมายถึงปัญหาเศรษฐกิจในครัวเรือน ซึ่งมักจะบานปลายไปสู่ปัญหาอื่น หนึ่งในกุญแจที่ไขไปสู่ความสำเร็จในองค์กรได้คือความสามารถในการนำ เพื่อสร้างความเป็นทีม สามารถดึงศักยภาพของคนทำงานในทีมออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ
✅ ถึงตรงนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ “คุณ” แล้วล่ะครับ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
