Bright (2017) ; 3/5
1. หนังเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องเก๋ๆ ประมาณว่า จะเป็นไงถ้า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนิยาย เช่น เอวฟ์ ออร์ค ภูติ มังกร นักเวทย์ ต่างๆพวกนี้มีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในสังคมแบบปัจจุบัน ประกอบอาชีพต่างๆ
หนังเล่าเรื่องผ่านตำรวจนายหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์ และมีคู่หูเป็นตำรวจอีกนายหนึ่งที่เป็นเผ่าพันธุ์ออร์ค โดยหนังจะตีแผ่ให้เห็นสังคมที่มีการแบ่งแยกชนชั้นตามเผ่าพันธุ์ เรื่องราวมาพลิกผันเมื่อตำรวจทั้ง 2 นายต้องไปพัวพันกับ นักเวทย์และ ไม้กายสิทธิ์ ซึ่งส่งผลให้ ทั้ง 3 ต้องตกเป็นเป้าแล้วโดนตามล่า สุดท้ายผลจะเป็นยังไงต้องติดตามดูในหนังได้เลย
จาก Netflix
2. ฉาก action นี้ก็ใช้ได้นะครับ สนุกดี มีทั้งยิง มีทั้งประชิดตัว มีทั้งใช้เวทย์มนต์ ครบแหละ
3. ที่ติดใจ น่าจะอยู่ที่ไม้กายสิทธิ์ มันไม่ค่อยมีที่มาที่ไปมันมีพลังอะไรก็ไม่รู้มันใช้ยังไงก็ไม่ค่อยชัดเจน
แต่ทุกคนก็อยากได้มัน คือมันแปลก มันไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ก็เอาเหอะเอาเป็นว่าทุกคนต้องการมันก็แล้วกันแม้จะเอาไปใช้ทำอะไรไม่ได้ก็ตามถ้าคุณไม่ใช่เป็น Bright
4. ความจริงหนังเรื่องนี้มันก็ค่อนข้างจะเอาสังคมของอเมริกามาแซวอยู่เหมือนกัน เช่นเราสามารถรู้สึกได้เลยว่า พวกออร์ค นี้มันคนผิวสีชัดๆ เป็นชนชั้น 2 หรือชั้น 3 ในสังคม ดูเหมือนเป็นพวกแก๊งตัวใหญ่แรงเยอะแต่แสดงออกมาเหมือนสมองไม่ค่อยมี
ในขณะที่พวกเอวฟ์ พวกนี้เป็นตัวแทนของคนผิวขาว พวกกลุ่มชนชั้นสูงทำอะไรก็ดูเหมือนถูกไปหมดมีอภิสิทธิ์มากมาย เป็นหัวหน้าเป็นผู้นำ
5. หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าพล็อตเรื่องดี แต่บทหนังไม่ค่อยดี คือมันมีจุดให้น่าสนใจเยอะ แต่มันทำบทให้ ดูแล้วไม่ค่อยน่าสนใจ คนอื่นยังไงไม่รู้นะแต่ผมว่าบทน่าจะดีกว่านี้เสียดายพอดีๆ
6. สำหรับพี่ วิลสมิธ ผมว่าแกก็เล่นได้ตามมาตรฐานแกนะ ดูดึงดูด ชวนให้ติดตาม จริงๆผมคิดว่าแกเหมาะกับการเล่นเป็นตำรวจ ที่คอยเถียงกับคู่หู คงติดภาพแกจากแบดบอย เอาเป็นว่า ผมชอบก็แล้วกัน
7. ผมให้คะแนน หนังเรื่องนี้อยู่ที่ 3/5 ทั้งๆที่พล็อตมันน่าสนใจมาก ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาด้านบน ทุกท่านที่ดูแล้วรู้สึกว่ายังไงบ้างครับ รู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
