14 พ.ค. 2021 เวลา 00:07 • การตลาด
เปิดสอนหลักสูตรการเรียนรู้สินค้าแบรนด์เนมในประเทศจีน เพื่อป้องกันไม่ให้ซื้อสินค้าปลอม
1
Credit: The Japan Times
หลายคนคงจะพอทราบว่าประเทศจีนเป็นประเทศผู้ซื้อสินค้าแบรนด์เนม (Extraordinaries Luxuries) รายใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดนักท่องเที่ยวจีนก็คือลูกค้ารายใหญ่ของสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย “ยุคใหม่ฯ” เคยเห็นจะจะตามาแล้วที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ทั้งร้านเป็นคนชาติอื่นรวมกับพนักงานด้วยไม่น่าเกิน ¼ ของคนที่เข้าไปในร้าน ที่สำคัญคนที่ซื้อจริงมั่นใจว่า 90% หรืออาจจะ 100% เป็นคนจีน “ยุคใหม่ฯ” เลยเป็นคน 10% ที่เหลือ
1
Credit:  Marketing to China
ประเทศจีนคือตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังทั้งหลาย ด้วยความนิยมในสินค้าแบรนด์เนมของคนจีน หลายครั้งก็ต้องสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมากกับของเลียนแบบเกรด A+ ยากมากที่คนทั่วไปหรือแม้แต่แฟนตัวยงของสินค้าหรูที่จะแยกออกได้ ระหว่างของแท้กับของเลียนแบบ
ดังนั้นการตรวจสอบสินค้าต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีสายตาประดุจเหยี่ยวมาตรวจสอบ โดยเฉพาะกระเป๋าถือ Chanel ที่นิยมกันทำปลอมหรือเลียนแบบมากที่สุด เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่คนจีนต้องการเรียนรู้มาก
Credit: The Japan Times
ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบของหรูทั้งหลาย ต่างได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีในการตรวจสอบเข็มขัด กระเป๋าถือและเสื้อผ้า รู้กระทั่ง Serial Numbers ว่าที่มาของแต่ละตัวเลขมาจากไหนมีความหมายว่าอย่างไร สามารถแยกความละเอียดของขอบตะเข็บและเครื่องหมายทางการค้า (Logos) ที่เป็นสินค้าของแท้ได้
ถ้าจะว่าไปสินค้ามือสองเลียนแบบทั้งหลายที่มาหลอกขายคนจีน ก็ล้วนแล้วแต่ผลิตภายในประเทศจีนทั้งนั้น เรียกได้ว่าจีนต้มจีนก็ไม่ผิดนัก ด้วยมูลค่าที่หอมหวลยั่วน้ำลายของนักธุรกิจสินค้าของเทียม ตลาดในประเทศมีมูลค่ามากกว่า 4 ล้านๆหยวน (ข้อมูลจากการวิจัยของ UIBE Luxury China) หรือ 19.44 ล้านๆบาท ประมาณ 6 เท่าของงบประมาณประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2564 (ที่มา โปรดเกล้าฯแล้ว พ.ร.บ.งบประมาณปี'64 วงเงิน 3.28 ล้านล้านบาท (prachachat.net))
1
Credit:  China Admissions
คนจีนอุดหนุนสินค้าของหรูที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 1/3 ของมูลค่ารวมทั้งโลก ตลาดสินค้าของหรูมือสองของจีนจึงเป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้คนที่อยากครอบครองของหรูแต่อยากได้ในราคาย่อมเยาลงมาสักหน่อย จึงตกเป็นเหยื่อของขบวนการผู้ผลิตของเลียนแบบ เนื่องจากเทคนิคอันแพรวพราวของนักเลียนแบบ ที่แทบจะแยกไม่ออกได้เลยว่าของแท้และเทียมต่างกันอย่างไร
1
ด้วยปัญหานี้จึงได้เกิดธุรกิจการเรียนรู้เรื่องนี้ขึ้นมา โดยการเปิดโรงเรียนสอนธุรกิจสินค้าของหรู (Extraordinary Luxuries Business School) เป็นหลักสูตรการสอน 7 วัน เพื่อให้ผู้เรียนได้รู้ถึงวิธีการตรวจจับของปลอม ของสินค้าของหรูมือสอง รวมถึงทักษะอื่นๆที่จำเป็นในการประเมิณราคาสินค้าด้วย
1
Credit: The Japan Times
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าค่าธรรมเนียมในการสอนจึงเป็นราคาที่หรูไปด้วย สนนราคาอยู่ที่ 15,800 หยวน/หลักสูตร หรือประมาณ 76,800 บาท”
1
ผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้วิธีการตรวจสอบหมายเลขพิเศษของกระเป๋า Chanel แต่ละใบ (ID Code) ด้วยแสงอัลตราไวโอเลตแบบพิเศษด้วย เพราะสินค้าของแท้จะปรากฏอักษรพิเศษที่เป็นความลับขึ้นมา 2 ตัว ผู้เข้าอบรมยังได้เรียนรู้รูปแบบตัวอักษรในเครื่องหมายของ Chanel ที่ใช้อักษรสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมากกว่าที่จะใช้รูปแบบอักษรที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้ใช้ตรวจสอบของปลอมได้
1
ผู้สอนให้ความสำคัญกับรอยขีดข่วนด้วย โดยเฉพาะรอยรอบๆหัวเข็มขัด เพราะลูกค้าส่วนมากชอบทำเล็บที่อาจขูดขีดเป็นรอยได้ (ซื้อก็แพงแถมยังดูแลยากด้วย เสน่ห์ของของหรูโดยแท้) นอกจากนี้แล้วเทศกาลก็เป็นเรื่องสำคัญกับการตัดสินใจซื้อของคนจีน โดยเฉพาะสีแดงทีคนจีนถือว่าเป็นสีแห่งโชค จะสามารถขายได้ดีในช่วงวันหยุดของประเทศจีน
1
Credit: The Japan Times
เทคนิคการตรวจสอบของหรูถือว่าเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมาก บางแบรนด์มีการติดตั้งชิปสำหรับตรวจสอบที่มาของสินค้าในชุดนั้นๆโดยเฉพาะ (Tracking Pedigree) Louis Vuitton ก็ประกาศว่าจะทำการเปิดตัวแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “AURA” เพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลของสินค้า นอกจากนี้แบรนด์ Salvatore Ferragamo ของอิตาลียังมีการติดตั้ง Microchips ในรองเท้าของสตรีด้วย ในขณะที่ Burberry ได้มีการทดลองใช้เทคโนโลยี RFiD ในสินค้าของตนเองด้วย (อันนี้ไม่น่าแปลกเพราะสินค้าในประเทศไทยที่ขายในห้างก็ใช้เทคโนโลยีนี้อยู่)
2
Credit:  Bitcoin Exchange Guide
คนทำของปลอมคงจะขายไม่ได้แล้ว ของที่เขาทำต้องเอาไปขายประเทศอื่นแทน หรือเขาอาจจะปรับตัวสร้างแบรนด์ของหรูเป็นของตัวเองก็ได้ ไหนๆสามารถจะทำของปลอมให้ดูหรูได้ ทำไมจะทำของตัวเองให้หรูไม่ได้ พี่จีนเขาไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
เมื่อก่อน “ยุคใหม่ฯ” เคยเข้าใจว่าคนซื้อของหรูมีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้อง....ด้วย แต่พอได้มีโอกาสได้สัมผัสสนทนากับคนเหล่านี้แล้ว ที่เขาซื้อของหรูเพราะว่ามันคือการลงทุน และเป็นการลงทุนที่เติบโตสูงมากเป็นตลาดที่คู่แข่งน้อยแล้วกำไรดีด้วย
ที่มา  Pantip
“มีเงินซื้ออย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ต้องมีวิสัยทัศน์สูงด้วยจึงจะซื้อได้”
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) mujgxHo
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพที่มีการรับรองจากเอกสารทางการแพทย์แล้ว
ติดต่อได้ที่
สนใจตัดต่อคลิปวีดีโอ
สามารถติดต่อได้ที่: Inbox หรือที่ Email sarayuth407@hotmail.com
โฆษณา