งานวิจัยชี้ ‘เสียงดนตรี’ ช่วยเพิ่มยอดขายได้
.
.
เคยสงสัยกันไหม ว่าทำไมเวลาที่เราเข้าห้างสรรพสินค้า ร้านค้าทั่วไป หรือ เข้าไปดูไลฟ์ขายของมักจะชอบมีเสียงเพลงเปิดอยู่เกือบทุกที่ เป็นเพราะเจ้าของร้านหรือพนักงานชอบฟังเพลงเลยเปิดเพลงหรือเปล่า? แต่ความจริงแล้วในเสียงเพลงที่เปิดอยู่กลับมีรายละเอียดที่ลึกไปกว่านั้นมาก
.
งานวิจัยหลายฉบับได้บ่งบอกว่า “เสียงดนตรี” มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคและยอดขายสินค้าด้วยเช่นกัน
.
Kotler เป็นศาสตราจารย์เกี่ยวกับด้านการตลาดได้บอกไว้ว่า “ในบางสถานที่บรรยากาศมีอิทธิพลมากต่อการตัดสินใจซื้อ หรือในบางครั้งบรรยากาศของสถานที่นั้นกลับกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักด้วยซ้ำ” อย่างเช่น คาเฟ่ที่เปิดกันอยู่ในปัจจุบัน ก็มีการโปรโมตโดยใช้บรรยากาศของสถานที่เป็นตัวดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปมากกว่าการขายเครื่องดื่มที่มีอยู่ในร้าน
.
ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเชื่อมโยงกับสิ่งเร้าและประสาทสัมผัสการรับรู้ของมนุษย์อย่าง “เสียง” เพราะสามารถกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่แตกต่างกันได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
.
#ระดับเสียงมีผลต่อการใช้เวลาซื้อของในร้านค้า
.
Cain-Smith & Curnow (1966) มีการศึกษาถึงผลกระทบของระดับเสียงเพลงต่อผู้บริโภคในห้างสรรพสินค้าพบว่า เพลงที่ดังเกินไปจะส่งผลให้ผู้ซื้อเกิดความรำคาญหรืออึดอัด ทำให้ใช้เวลาอยู่ในร้านน้อยลง แต่เมื่อเสียงเพลงเบาลงผู้ซื้อมักจะใช้เวลาอยู่ในร้านนานมากขึ้น แต่กลับพบว่าเสียงดนตรีไม่ได้มีผลต่อปริมาณเงินที่ลูกค้าใช้จ่ายมากนัก
.
#จังหวะเพลงสามารถกระตุ้นการตอบสนองของมนุษย์
.
จังหวะเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการตอบสนองของมนุษย์ เพราะว่ามนุษย์มีการประมวลผลจังหวะของดนตรีมาตลอด อย่างเช่น เราสามารถปรบมือเป็นจังหวะได้ สามารถจับจังหวะเสียงดนตรีได้
.
ในช่วงทศรรษที่ 1980 Ronald E. Milliman ศาสตราจารย์ด้านการตลาด ได้ทำการสำรวจร้านค้าที่นำจังหวะของเสียงดนตรีมาใช้กับการขาย พบว่า
.
ร้านที่เปิดเพลงเร็ว (uptempo) ทำให้ผู้คนเดินผ่านร้านค้าได้เร็วขึ้นและซื้อของน้อยลง
.
ร้านที่เปิดเพลงช้า (downtempo) ทำให้ผู้คนเดินผ่านร้านค้าได้น้อยลงและพวกเขาก็ซื้อของมากขึ้น เพราะเพลงช้าลงทำให้ผู้ซื้อใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น และใช้เวลาในร้านนานขึ้น ทำให้ยอดขายสูงขึ้น 38%
.
แต่อีกกรณีหนึ่ง เคยสงสัยไหมว่า ทำไมร้านที่ไลฟ์สดขายของอยู่ถึงชอบมีกระดิ่งเคาะ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า กระดิ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เหมือนกับการเล่นกีฬาหรือทำข้อสอบที่เร่งให้คนทำให้ไวขึ้นก่อนที่จะหมดเวลา หรือคนอื่นอาจแย่งซื้อก่อนจนของหมดได้
.
#ประเภทของเพลงต้องเหมาะกับสินค้าที่ขาย
.
ระดับเสียงและจังหวะของดนตรีอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกร้านเพราะต้องคำนึงถึงประเภทของเพลงที่เหมาะกับสินค้าในร้านด้วย มีการทดลองเปิดเพลงคลาสสิกเทียบกับเพลงป็อปในร้านไวน์ ปรากฏว่า เมื่อดนตรีคลาสสิกกำลังเล่นอยู่ ส่งผลให้ผู้ซื้อเลือกซื้อไวน์ราคาแพงมากกว่าตอนที่เปิดเพลงป็อปอยู่ เพราะเพลงคลาสสิกจะเพิ่มประสบการณ์การซื้อของลูกค้าได้รู้สึกเหมือนซื้อไวน์ระดับไฮเอนด์อยู่
.
ร้านค้าสามารถนำเทคนิคการเลือกเสียงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นระดับเสียง จังหวะ หรือ ประเภทของดนตรีเข้าไปประกอบกับการขายของผ่านหน้าร้านหรือผ่านการไลฟ์ เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับร้านค้า ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าและทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับร้านค้ามากขึ้น อาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร้านค้าของเรามียอดขายเพิ่มมากขึ้น
.
อ้างอิง:
#MissionToTheMoonPodcast
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
