14 พ.ค. 2021 เวลา 23:12 • นิยาย เรื่องสั้น
#ทำไมทศกัณฐ์ถึงโดนเมียตบกบาล
*rerunค่ะ
แม้ว่าทศกัณฐ์จะเป็นพญายักษ์ผู้ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม สูงศักดิ์ และมีอำนาจมากที่สุดในบรรดายักษ์ทั้งหลาย แต่ในบทประพันธ์เรื่องรามเกียรติ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ของเรา ก็มีการกล่าวถึงบทของทศกัณฐ์ในฐานะ “ตัวร้าย” ที่มีสีสันให้คนอ่านอย่างเราอดจะอมยิ้ม หรือแม้แต่ขบขันไปด้วยไม่ได้ ครั้งหนึ่งระหว่างสงคราม ทศกัณฐ์ได้ใช้หอกวิเศษเล่มหนึ่งชื่อ “หอกกบิลพัท” พุ่งไปโดนพระลักษมณ์ได้รับบาดเจ็บ พระรามจึงมีบัญชาให้หนุมานไปหาสารตั้งต้นและวัสดุอุปกรณ์สำหรับปรุงยาแก้หอกกบิลพัทมาให้ครบ ทุกอย่างดูจะไม่เป็นปัญหา เว้นแต่ “หินบดยา” เท่านั้นที่ทศกัณฐ์เอาไปหนุนไว้แทนหมอน นั่นจึงเป็นเหตุให้หนุมานต้องบุกเข้ากรุงลงกากลางดึก สะกดทุกคนให้หลับ และลักลอบเข้าไปถึงห้องนอนของทศกัณฐ์ เอาหินบดยามาได้ แต่ก่อนจะกลับออกไปก็ให้นึกโมโห กะว่าจะฆ่าทศกัณฐ์เสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป แต่ก็เกรงจะเกินคำบัญชาของพระราม จึงได้แกล้งทศกัณฐ์ โดยการเอาผมของทศกัณฐ์ผูกติดไว้กับผมของนางมณโฑ และสาปเอาไว้ว่า “... อันผมซึ่งเราผูกนี้ ใครมีเวทมนต์อย่าแก้ได้ ถึงเอาอาวุธอันเกรียงไกร ของท้าวสหัสนัยน์ลงมา เชือดฟันเท่าใดอย่าให้ขาด ด้วยอำนาจคำสาปของเราว่า แล้วจึงจารึกสารา ลงไว้ที่หน้าอสุรี ว่าถ้าใคร่จะแก้ผม ก้มให้มณโฑมเหสี ตบหัวมึงลงสามที ผมนี้จึงหลุดออกไป ...” สรุปว่า พญายักษ์ของเราต้องก้มหัวให้เมียตบหัวสามที จึงจะแก้มัดผมนี้ออกได้ ตอนทศกัณฐ์ตื่นมา เรื่องราวก็วุ่นวายพอสมควร “... ได้ยินสำเนียงเสียงหวีดหวาด อื้ออึงกัมปนาทหนักหนา พอสร่างพระเวทอันศักดา ตกใจผวาตื่นขึ้นทันที ผงกเศียรลุกจากพระบรรทม ผมผูกติดเกศมเหสี ก็ดึงดันด้วยกำลังอินทรีย์ อสุรีอุตลุดวุ่นวาย ...” แต่จะใช้แรงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออกหรอก เพราะหนุมานสาปเอาไว้อย่างนั้น ในบทพระราชนิพนธ์ท่านว่าเอาไว้วุ่นวายพอดู ถึงขนาดที่ว่า “... แต่ถุ้งเถียงกันอุตลุด ผัวชักเมียฉุดก็ไม่ไหว ...” สุดท้ายไม่รู้จะทำยังไง ต้องไปเชิญ “พระฤๅษีโคบุตร” พระอาจารย์ของทศกัณฐ์มาช่วยหาวิธีแก้มัดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ร่ายคาถาเท่าใด ๆ ก็แก้ไม่ได้ สุดท้ายพระฤๅษีก็เห็นจารึกอักษรบนหน้าผากทศกัณฐ์ ก็ต้องบอกให้ทำไปตามนั้น คือทศกัณฐ์ต้องยอมก้มหัวให้เมียตบสามที เพราะพระฤาษีเองก็ยอมรับว่า “... กูนี้สิ้นมนต์จนปัญญา ...” นางมณโฑเองก็ช็อก เพราะการที่สามีก้มหัวให้ตน และตนเองยังต้องตบหัวสามีอีกนั้นเป็นเรื่องรับไม่ได้ นางมณโฑทั้งอาย ทั้งยังรู้สึกเหมือนใครมาควักหัวใจให้ถึงตาย (แต่ใจลึกๆ คงอยากลองตบสักเป้กละ)จึงบอกว่า “... อันสตรีจะต้องเศียรผัว แม้นมาตรฆ่าตัวเสียดีกว่า ...” ทศกัณฐ์ก็ชักจะโมโหเมียขึ้นมา ว่าถ้าเมียไม่ยอมตบหัวตัวเองจะให้หัวติดกันแบบนี้ไปทั้งชาติหรือยังไง(โว้ยย) “... ได้ฟังนางร่ำรำพัน กัลยาไม่ทำตามวาที พญามารฮึดอัดฟัดตัว ลากหัวมณโฑมเหสี จะให้ติดกันอยู่ดั่งนี้ เห็นดีแล้วหรือประการใด ...” มณโฑก็เลยต้องยอมตบหัวสามีจริง ๆ (นางแอบสะใจลึกๆ เอิ๊กๆ) “... สุดคิดที่จะขัดบัญชาการ เยาวมาลย์บนนิ้วเหนือเกศา กราบทูลขอโทษพระภัสดา ผ่านฟ้าจงโปรดปรานี อย่าให้เป็นกรรมแก่ข้าบาท อันประมาทต่อเบื้องบทศรี ว่าแล้วตบเศีบรพระสามี สามีก็หลุดออกจากกัน ...” จริง ๆ ทศกัณฐ์ก็อายมาก “... เมื่อนั้น ท้าวราพณาสูรรังสรรค์ อดสูแก่องค์พระนักธรรม์ กุมภัณฑ์นิ่งขึงตะลึงไป แต่ฮึดฮัดอัดอั้นวิญญาณ์ จะออกปากเจรจาก็หาไม่ เจ็บจิตดั่งชีวิตจะบรรลัย ให้สะท้อนถอนใจอสุรี ...” เห็นมั้ยค่ะ พญายักษ์ผู้สูงศักดิ์ ยังโดนเมียตบซะหัวทิ่มได้ ... ดังนั้นถึงแม้ว่าทศกัณฐ์จะเป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่ก็มีมุมขำ ๆ อาย ๆ มีมุมน่ารัก ให้เราเห็นได้เหมือนกัน ในบทพระราชนิพนธ์ละครรำเรื่องรามเกียรติ์ .วันหน้ามาต่อให่อีกค่ะ เครดิตที่มาจาก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ค่ะ ภาพ : หนุมานผูกผมทศกัณฐ์กับนางมณโฑเข้าด้วยกัน จิตรกรรมฝาผนัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
โฆษณา