15 พ.ค. 2021 เวลา 03:27 • ปรัชญา
พูดกับทำไม่เหมือนกัน
ประโยคนี้เราคงเคยได้ยินกันอยู่แล้วนะครับ ไม่มีอะไรใหม่
แต่เราทำได้จริงไหมก็อีกเรื่องนึงครับ
เพราะเวลาเราพูด สิ่งนั้นมักจะเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่ตัวเรา ไม่มีผลได้เสียของเรามาเกี่ยวข้อง
มันจึงมักจะง่ายกว่า
แต่เวลาเราทำ มันคือตัวเรา มีเหตุมีผลของเรา จึงมักจะมีคำอธิบายมาก
หลายครั้งจึงทำไม่ได้ หรือทำไม่ตรงกับที่เคยพูด
..ถ้าเห็นคนจอดรถกระพริบตรงขาวแดง เราจะตำหนิเขา
อ้างอิงตามหลักการ บางทีก็พาลว่าไปถึงสังคมประเทศชาติ
แต่พอเราจอดซื้อของ เราขอกระพริบแป๊บเดียว จะเหมือนมีเหตุผลเพียงพอ กลายเป็นไม่ผิด
บางมีคนมาบีบแตรด่าเรา เราโมโหกลับอีกแน่ะ
..ถ้าเราเห็นมอร์ไซด์วิ่งย้อนศรหรือบนทางเท้า กระทั่งเห็นในข่าว เราจะตำหนิเขา
เราจะรักสังคม เป็นคนดี และเห็นใจทุกคนบนทางเท้า
แต่พอเราเข้าเมือง รถมันติด เรานั่งพี่วิน ย้อนศรบนทางเท้า
ในใจก็แอบคิดว่าผิด แต่มันจำเป็นนี่หว่า ทำไงได้
..ถ้าสอนคนอื่น สอนงาน สอนชีวิต เราจะพูดได้ง่าย
บางเรื่องเราไม่เคยทำเสียด้วยซ้ำ พอพูดได้มันรู้สึกเหมือนเราทำได้
แต่พอเราเจอปัญหา อย่างเดียวกับที่สอนเลย ความเป็นตัวเรามันจะครอบงำ กลายเป็นทำไม่ได้อย่างที่เคยพูด
บางทีก็ทั้งรู้ แต่ก็สั่งใจไม่ได้ แก้ปัญหาตัวเองไม่ได้เสียอย่างนั้น
..แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยลองสังเกตตัวเองหน่อยดีไหมครับ?
ถ้าตัวเองทำไมได้ ก็ไม่ควรติคนอื่น
ถ้าเราพูดไปแล้ว ก็ควรฮึดทำให้ได้
..ดีต่อทั้งตัวเราและผู้อื่น
สังคมก็จะน่าอยู่
ไม่ใช่เพราะทุกคนช่วยกันพูด แต่เพราะทุกคนควรช่วยกันทำครับ
โฆษณา