15 พ.ค. 2021 เวลา 15:55 • บันเทิง
Couture-To-Wear
“นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน"
คือสิ่งที่แบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier)
พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับวงการนางงาม
ภาพจาก facebook valentier
ยังค่ะ...ยังไม่​ move on​ จากเวทีมิสยูนิเวอร์ส
พึ่งได้เห็นชุด​ราตรีของอแมนด้า​
ในรอบพรีลิม​ (preliminary)​ สวยตาแตกมาก​จ้า​ 😍
ด้วยชุดราตรีแบบ​กูตูร์(Couture)​
และรูปแบบการนำเสนอ​แบบ​ Ready​ to​ wear
โดยชุดในรอบนี้​ ทางแบรนด์​ valentier
อยากนำเสนอ​มุมมองใหม่ๆให้กับวงการนางงาม
โดยเอาเสื้อผ้ากูตูร์มาออกแบบลดทอนลงมา
โดยยังคงงานปักและเทคนิคชั้นสูงแบบโอร์กูตู​ (Haute Couture)​ ไว้​ แต่ผสมผสานให้อยู่ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-To-Wear)
เพื่อให้ดูจับต้องได้มากขึ้น
เลยกลายเป็นการผสมกันของ​
Couture-To-Wear​ ด้วยแนวคิดว่า
“นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน"
เราเองผู้ไม่คร่ำหวอดเรื่องแฟชั่น
ด้วยความอยากรู้​ เลยไปหาข้อมูลมา
ว่าโอร์กูตูร์​ และ​ Ready​ to​ wear​ คืออะไรนะ?
โอร์ กูตูร์ (Haute Couture) เป็นภาษาฝรั่งเศส
แปลว่า ศิลปะการตัดเย็บชั้นสูง
ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ทุกคนจะสามารถเปิดห้องเสื้อแบบ Haute Couture ได้นะคะ
เพราะการเป็น Haute Couture
ต้องมีข้อจำกัดดังต่อไปนี้
1. ต้องเป็นงานทำมือ ไม่มีการใช้เครื่องจักรใดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
2. ต้องเป็นการดีไซน์แบบ Made-to-order สำหรับลูกค้า Private เท่านั้น
3. ต้องมี Workshop หรือ Atelier อยู่ในปารีสเท่านั้น (หากอยู่ที่อื่นจะเรียกว่า Couture ไม่สามารถใช้คำว่า Haute Couture ได้) และใน Atelier ต้องมี Staff แบบทำงานเต็มเวลาอย่างน้อย 15 คน
4. ในหนึ่ง Atelier ต้องมีช่างเทคนิคที่ทำงานแบบเต็มเวลาอย่างน้อย 20 คน
5. ในทุกๆ Season ต้องมีการโชว์ Collection
อย่างน้อย 50 ดีไซน์ ทั้งชุดกลางวันและชุดราตรี
สู่สาธารณชน ในช่วงเดือนมกราคมและกรกฏาคมของทุกปี
Ready-to-wear หรือ RTW คือ เสื้อผ้าพร้อมใส่
หรือ​ เสื้อผ้าสำเร็จรูป นั่นเอง
ฝรั่งเศสเรียก prêt-à-porter
อ่านว่า เพรท-อะ-พอร์ทเตอร์ 
อันนี้ เรียก เสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงและชาย
หาซื้อได้จากชั้นวาง หรือจากที่แขวนตามร้านทั่วไป สำหรับการสวมใส่ ตามสบาย
เป็นนิยาม สำหรับเสื้อผ้าที่ผลิตตามโรงงาน
จำหน่ายแบบสำเร็จรูป ในขนาดมาตรฐาน
มี size บอก​นั่นเอง
“Fireworks Embellished Two-Pieces Gown”
ชุดราตรีสองชิ้น ปักลายพลุ จากแบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier) แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติไทย
โดยคุณ​ “ดนวัต พฤกษ์ชินวร” ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์แบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier) 
ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
ระบุถึงการทำชุดครั้งนี้ว่า
“ได้พูดคุยกับอแมนด้าเกี่ยวกับเรื่องราว
ที่เธออยากจะบอกคนทั้งโลกผ่านชุดราตรีนี้
ในขณะที่เธอยืนอยู่บนเวที Miss Universe
ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งมากแค่ไหน
และสิ่งสำคัญคือเธออยากจะมีเสียงที่ทรงพลัง
เพื่อจะบอกให้ทุกคนบนโลกใบนี้หันมารับฟังเสียงของกันและกันอย่างเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน”
ภาพจากfacebook valentier
เทคนิคและดีเทลงานปัก
มีความผสมผสานลายเส้นของพลุ
ที่มีความโค้งมนแสดงถึงความอ่อนโยน
กับลายกราฟฟิคเส้นตรงที่แสดงถึงความแข็งแรง ทำให้ชุดนี้มีทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็ง
รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
พลุ(Firework) เป็นภาพที่ดีไซน์เนอร์
ต้องการวาดออกมาเพื่อเป็นตัวแทน
ทั้งความงามและพลังของผู้หญิง
ที่ได้พูดและแสดงไห้โลกใบนี้ได้เห็น
ว่าเธอมีสิ่งที่อยากจะบอก และทุกคนต้องหยุด
และหันมาฟังในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด
เหมือนกับเสียงของพลุ ที่เมื่อไหร่มันถูกจุดขึ้น
ทุกคนจะต้องหยุดฟังและหันไปมองว่าพลุนั้น
มีความงดงามมากเพียงใด อีกทั้งสีทองของพลุ
ยังเป็นภาพแทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จ
ของอแมนด้าที่ได้ต่อสู้และฝ่าฟัน
ไปจนสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
ก้าวที่ทุกคนจะหันมามองและรับฟังเธอ
และเป็นก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ
ไปตลอดกาล.......... 😍
ภาพจากfacebook valentier
นอกจากนั้นโครงชุด(Silhouette)
และคัทติ้งต่างๆยังถูกหยิบยืมมาจากภาพของนักรบหญิง(women warrior) ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมง​ และ​ คล่องตัวสูง
และแสดงถึงความพร้อมในการต่อสู้
ของอแมนด้าบนเวทีMiss Universe
รวมถึงดีไซน์เนอร์ได้ตั้งใจออกแบบ
ให้ชุดนี้เป็นสองชิ้น (Two Pieces Gown)
เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับชุดและผู้สวมใส่
ให้ดูทันสมัย เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะก้าว
ไปสู่ความเป็นสากล ต้องเป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงและมีความคล่องตัวสูง
สามารถเผชิญสิ่งต่างๆได้ในทุกสถานการณ์
OMG😲😲
ทั้งการนำเสนอชุดราตรี​ และความหมายของชุด
ก็บอกเลยว่า​.... ปังมากๆ
สายงาม​ เลอค่า​ ทั้งชุดและอแมนด้า
ปลุกพลังหญิงมาก.....
ปังแน่ มงต้องลงแล้วนะ.... 👑👸
#ไม่ต้องรอคราวหน้าเพราะด้าจะเอาcrownนี้
#จะกี่ดราม่าก็เชื่อว่าด้าทำได้
#ส่งอแมนด้าคว้ามงสาม
โฆษณา