18 พ.ค. 2021 เวลา 07:05 • ไลฟ์สไตล์
#ทำไมเราทุกคนควรมีงานอดิเรก?
ขอต้อนรับเข้าสู่ "สมองสองช้อน" นะคะ
นี่เป็นบทความแรกของเรา
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้า เขียนมาติชมกันได้ค่ะ
เพื่อจะได้พัฒนานักเขียนมือใหม่อย่างเรา ....
4
Image by bridgesward from Pixabay
... เคยรู้สึกว่า ว่างไปไหม ...
... เคยรู้สึกว่า ยามว่างของเรามันช่างไร้สาระ ...
... เคยรู้สึกว่า ทำอะไรดีเพื่อฆ่าเวลา ...
… ไม่ต้องฆ่าเวลาอีกต่อไป เพราะเวลาเป็นสิ่งมีค่า …
… ถ้าเรารู้จักคำว่า “งานอดิเรก” …
… เวลาจะมีประโยชน์มากทีเดียว …
เราเคยใช้เวลาว่างไปกับการตะบี้ตะบันดูซีรีย์ หรือ บางช่วงก็ตะบี้ตะบันเล่นเกมส์ พอทำไปเรื่อยๆๆๆ ก็มาถึงจุดๆนึงที่มองดูตัวเอง แล้วคิดว่าช่างไร้สาระซะจริงๆ เหมือนเราพยายามฆ่าเวลาให้หมดไป ดูซีรีย์เยอะขนาดนั้น ดูแล้วได้อะไรขึ้นมา เล่นเกมส์เยอะขนาดนั้น เล่นแล้วได้อะไรขึ้นมา จะไปเป็นนักแคสเกมส์ก็ไม่ใช่ มันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย
Image by Stefan Keller from Pixabay
ไม่ได้ละ! เราจะใช้ชีวิตต่อไปแบบนี้ไม่ได้ละนะ!
เราควรหาอะไรทำสักอย่างในยามว่าง ไม่ใช่แค่นั่งสูดอ๊อกซิเจนแล้วพ่นคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ในตอนนั้นเราไม่ได้คิดหรอกเรื่องงานอดิเรกอะไรนี่ แค่จะหาอะไรทำที่มีประโยชน์บ้างก็เท่านั้น
และการหาอะไรทำของเรา มันก็กลายเป็นงานอดิเรกที่เราชอบทำโดยไม่รู้ตัว
งานอดิเรก หรือ Hobby คืออะไร?
งานอดิเรกคือ งานที่ไม่ใช่งานประจำ เป็นสิ่งที่เราเอนจอยในการทำ ทำแล้วรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกดี และเราสามารถโฟกัสกับสิ่งนั้นๆที่ทำอยู่ หรือแม้กระทั่งทำให้รู้สึกภูมิใจในตนเอง มีความสุข
เหตุผลที่เราควรมีงานอดิเรก ...
1. ผ่อนคลาย และ มีความสุข
เหตุผลแรก และ เหตุผลหลัก ของคนที่อยากหางานอดิเรกทำ ก็คือ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่มีอยู่ เพื่อเติมความสุขให้กับตนเอง ผลลัพธ์ข้อนี้คุณจะได้ไปเต็มๆจากการทำงานอดิเรก และคุณจะได้ไปแทบจะทันทีที่ได้ลงมือทำเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อคุณได้ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มันก็มักจะผ่อนคลายและมีความสุขไปโดยปริยาย
Image by Pexels from Pixabay
2. ใช้เวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์ ไม่เสียเปล่า
นอกจากคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขแล้ว เวลาว่างของคุณจะไม่เสียเปล่าอีกต่อไป เวลาว่างของคุณจะไม่ผ่านไปอย่างไร้ค่า ผลพวงของงานอดิเรกอาจจะมาในรูปแบบของกินซึ่งเราสามารถแบ่งปันความสุขนี้ให้กับครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน หรืออาจจะมาในรูปแบบความฟิตแอนด์เฟิร์มเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของตัวคุณเอง หรืออาจจะมาในรูปแบบของเสียงเพลง ตัวหนังสือ เสื้อผ้า ของใช้ ของตกแต่งสวยงาม เพื่อความสุขของตัวคุณเอง หรือ เพื่อผู้อื่นด้วยก็ได้
 
3. พัฒนาสมอง ป้องกันภาวะสมองเสื่อม
โบนัสของการทำงานอดิเรกนั้นคือ ทำให้สมองของเราถูกกระตุ้นอยู่เรื่อยๆ ทำให้เกิดการพัฒนา ไม่ถดถอย ยิ่งถ้ามีงานอดิเรกหลากหลายสมองของเราก็จะถูกกระตุ้นในหลายๆด้านไปด้วย เมื่อเราทำงานอดิเรกอยู่เป็นประจำ สมองก็ได้ทำงานอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะเป็นวัยเกษียณแล้วก็ตาม ซึ่งการที่เราได้บริหารสมองของเราอยู่เรื่อยๆนั้น ก็เป็นการป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้อีกทางหนึ่ง
2
4. มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่ฟุ้งซ่าน ลด/ป้องกันซึมเศร้า
การที่คนเราว่างจนเกินไป หรือไม่มีอะไรทำเลย มักนำมาสู่ความฟุ้งซ่าน ความรู้สึกด้อยค่าในตนเอง รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ต่อโลกใบนี้ เราไม่มีประโยชน์ต่อใครเลย ไม่จำเป็นต้องมีเรา เขาก็อยู่ได้ และความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ก็เป็นหลุมดำสู่โรคซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ถ้าเรามีงานอดิเรกทำเป็นประจำ ความรู้สึกเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะเราสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้หลายอย่าง เราจะมีสุขภาพจิตที่ดี ห่างไกลจากโรคซึมเศร้า
Image by Pexels from Pixabay
ส่วนถ้าใครที่มีความรู้สึกเหล่านั้น หรือเป็นโรคซึมเศร้า จากที่เราไปอ่านข้อมูลมาจากหลายๆที่ เขาบอกว่างานอดิเรกสามารถลดภาวะซึมเศร้าลงได้ เนื่องจากเราจะรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองมากขึ้น มีความภูมิใจในตัวเองมากขึ้น แถมยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นและเบิกบานมากขึ้นอีกด้วย
ทำไมต้องเป็น “เราทุกคน” ควรมีงานอดิเรก? และควรมีงานอดิเรกทำ ก่อนที่จะแก่ตัวไป ...
ไม่ว่าคุณจะมีงานประจำทำอยู่แล้ว หรือ ไม่มี
ไม่ว่าอาชีพหลักของคุณตอนนี้ คือ เลี้ยงลูก
ทุกคนควรมีงานอดิเรก เพราะวันนึงข้างหน้า คุณก็จะเกษียณจากงานที่ทำอยู่
1
เพราะวันนึงข้างหน้า ลูกคุณก็จะโตขึ้นและไม่ได้ต้องการให้คุณมาดูแลเหมือนตอนนี้
ถึงตอนนั้นคุณก็จะมีอายุมากกว่านี้ และอาจจะหมดไฟ หมดพลัง ในการค้นหางานอดิเรกเพื่อเป็นกิจกรรมยามว่าง เพื่อที่คุณจะได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีคุณค่า และเพื่อที่คุณจะได้รู้สึกว่าตัวคุณยังมีคุณค่าอยู่ในโลกใบนี้ ไม่ได้นั่งหายใจรดไปวันๆจนลาลับไป
Image by congerdesign from Pixabay
ลองคิดดูสิ ว่าถ้าวันนึงคุณว่างแบบ 24/7 คูณจะไม่รู้สึกว่าวันเวลาที่ผ่านไปมันช่างสูญเปล่าเหรอ คุณจะไม่รู้สึกหดหู่และฟุ้งซ่านเหรอ คุณได้แต่นั่งจุมปุ๊กดูทีวีไปวันๆ หรือได้แต่ตั้งความหวังไว้ที่ลูกหลาน ยามที่ลูกหลานยุ่งวุ่นวายกับการงานและครอบครัวเขา คุณก็ต้องมานั่งผิดหวัง หรือไม่ก็บ่นเช้าสายบ่ายเย็น
ความรู้สึกเหล่านี้เอง อาจนำมาสู่ภาวะซึมเศร้าได้ รวมถึงภาวะสมองเสื่อมเนื่องจากสมองไม่ได้ถูกกระตุ้นจากสิ่งใดๆเลยเป็นเวลานาน
คุณคงไม่อยากเป็นคนแก่แบบนั้นใช่ไหม? เพราะฉะนั้นเรา “ทุกคน” ควรหางานอดิเรกทำ ณ ตั้งแต่วันนี้ ในขณะที่เรายังมีแรงกาย แรงใจอยู่ เพื่อสุขภาพจิต และสุขภาพสมอง ที่ดีในวันหน้า
มาดูซิว่า งานอดิเรกมีอะไรบ้าง?
พูดไปเรื่อยก็ไม่หมด เพราะมันหลากหลายเหลือเกิน ขอคัดมาเพียงบางส่วนเพื่อเป็นไอเดียละกัน
"แนวธรรมชาติ" เดินป่า พายคายัค ตกปลา ดำน้ำ ปีนเขา เล่นเรือใบ
1
"แนวออกกำลังกาย" ฟิตเนส และ กีฬาต่างๆ เช่น วิ่ง ชกมวย ฟุตบอล บาสเกตบอล แบตมินตัน เทนนิส ปั่นจักรยาน เซิรฟ์สเก็ต เต้น โยคะ
"แนวครีเอทีฟ" ทำอาหาร ทำขนม ทำสวน ปลูกพืชผัก เล่นดนตรี วาดรูป เพ้นท์รูป ระบายสี ประดิษฐ์ DIY เย็บปักถักร้อย ตกแต่งบ้าน งานซ่อมแซม งานไม้ งานปั้นถ้วยชามเซรามิค เขียนหนังสือ เขียนนิยาย เขียน Blog ถ่ายรูป ตัดต่อวีดีโอ Youtuber
Image by Free-Photos from Pixabay
"แนวอื่นๆ" อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง เล่นเกมส์ปริศนาต่างๆ เล่นหมากรุก ต่อจิ๊กซอว์ ท่องเที่ยว เรียนภาษาอื่นๆ สอนภาษา สอนวาดรูป
คิดไม่ออก เลือกงานอดิเรกยังไงดี?
1. เลือกทำจากสิ่งที่ตนเองชอบ หรือ สนใจ
ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว นั่นก็ง่ายขึ้น ลงมือ ลุยเลย มันอาจเป็นสิ่งที่คุณชอบมาตั้งแต่เด็ก เคยทำในช่วงวัยเด็ก แต่เนื่องด้วยความวุ่นวายหลายๆอย่างในชีวิต ทำให้คุณหยุดสิ่งนั้นไป ลองเอามันกลับมาทำใหม่ กลับมารื้อฟื้นใหม่ หาความรู้เพิ่มเติมก็ได้ คุณอาจจะหลงใหลไปกับมันอีกครั้ง ลองทำมันให้กลายเป็นงานอดิเรกของคุณ
Image by congerdesign from Pixabay
หรือมันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยทำก่อน แต่คุณเคยสนใจมัน เคยมีความคิดว่าน่าลองทำเหมือนกันนะ แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คุณยังไม่เคยได้ลองสักที ตอนนี้แหละ ลองเลย คุณอาจจะหลงรักมัน หรืออาจจะไม่อยากแตะมันอีกเลย แต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรหนิ ถ้าคุณไม่ได้ค้นพบงานอดิเรกที่ชื่นชอบจากสิ่งนี้ อย่างน้อยจะได้ไม่มีอะไรคาใจ ว่า ถ้าวันนั้น ฉันได้ทำ … ฉันอาจจะ … ไม่มีคำว่า “What if” อีกต่อไป
2. ลองทำสิ่งใหม่ๆดู ก็สนุกดีนะ
ถ้าคุณคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบทำอะไร ลองอ่านตรงนี้ดู อยากจะบอกว่า ไม่จำเป็นว่างานอดิเรกจะต้องเป็นสิ่งที่คุณคิดว่าคุณชอบอยู่แล้ว ลองทำอะไรใหม่ๆดู ทำอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน ลองอ่านวิธีทำโน่นนี่นั่น หรือ ดูใน Youtube ก็ได้
Quesadilla + Fresh Salsa
หาข้อมูลและลองไปเรื่อยๆ บางอย่างอาจจะยากเกินไป บางอย่างอาจจะน่าเบื่อ แล้ววันนึงอาจจะมีบางอย่างมาเซอร์ไพรส์คุณ อาจเป็นสิ่งที่คุณเคยคิดว่าไม่ชอบเลย แต่มันกลับกลายเป็นความสามารถบางอย่างของคุณที่เพิ่งค้นพบ
Banoffee Pie
ตัวเราเองก็เป็นเช่นนั้น เมื่อก่อนไม่ได้เป็นคนที่ชอบเข้าครัว ครัวมีเหมือนเอาไว้อุ่นอาหารในไมโครเวฟ และแช่ขนมนมเนยในตู้เย็น เตานี่ใหม่มาก ผ่านการใช้งานไปไม่มากนัก นานปีทีหนถึงจะทำอะไรกินสักที จนมาถึงช่วงยุคโควิด เราก็ดู Youtube เล่นๆ ว่ามีอะไรให้ทำเพลินๆที่บ้านได้บ้าง เมนูอาหารทั้งคาวและหวานก็มาเข้าตา เราก็เลือกเมนูที่เราชอบกิน และที่สำคัญ ขั้นตอนในการทำไม่ยุ่งยากมากนัก เหมาะกับสกิลการทำอาหารของเรา
บัวลอยมันม่วงและฟักทอง
แล้วลูกชายก็กลายมาเป็นหนูทดลองของเราโดยปริยาย ทั้งน้ำรากบัว บัวลอยมันม่วง บัวลอยฟักทอง ทับทิมกรอบ ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น+ไข่ออนเซ็น เนื้อบูลโกกิแบบเกาหลี สปาเก็ตตี้คาร์โบนารา สปาเก็ตตี้ผัดเบคอนกระเทียม สปาเก็ตตี้โบโลเนส American Breakfast คัสตาร์ทพุดดิ้ง Quesadilla+Salsa ผักโขมอบชีส เครมบรูเล บานอฟฟี่พาย โอริโอ้ชีสเค้ก ก็มีทั้งเฟล ทั้งเหนื่อยมาก ไม่ทำอีกแล้ว แต่มันก็มีที่ออกมาแบบอร่อยมาก “อร่อยกว่าที่ร้านอีก” ลูกชายบอก
ผักโขมอบชีส
ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันก็ทำให้เราได้รู้ว่า เราสนุกกับการใช้ชีวิตอยู่ในครัว โดยเฉพาะการทำขนมหวานต่างๆ เรารู้สึกเพลิดเพลินกับทุกขั้นตอน เราตื่นเต้นว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไงเมื่อทำเสร็จ เวลาที่ใช้ไปในครัวช่างผ่านไปเร็วมาก
Spaghetti Balognese
มาถึงทุกวันนี้ ไม่มีสัปดาห์ไหนเลยที่เราไม่ได้เข้าครัว เราจะคิดอยู่เรื่อยๆว่าจะทำเมนูอะไรดี อาจจะเป็นเมนูเดิมๆ หรือบางครั้งก็ไปสรรหาเมนูใหม่ๆมาลองทำ ทุกๆสัปดาห์เราจะผลิตอาหารคาว-หวานออกมาอย่างน้อยสองรายการ มันก็เป็นความสุขที่ได้กินสิ่งที่ตัวเองทำและได้ให้คนที่เรารักกินด้วย
Matcha Custard Pudding
ไม่น่าเชื่อเลยว่า การเข้าครัวก็ได้กลายมาเป็นงานอดิเรกที่เราเอนจอยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง นอกจากการเขียนที่เราค้นพบไปก่อนหน้านี้
เราเชื่อว่า ทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี สิ่งที่ตัวเองชอบทำ และมีมากกว่าหนึ่งอย่างด้วยซ้ำไป ลองหาเวลาค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบกันนะ ผลลัพธ์ที่ได้ นอกจากจะมีงานอดิเรกแล้ว คุณอาจจะค้นพบ “ตัวตน” ของคุณที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้
ควรมีงานอดิเรกมากกว่าหนึ่งอย่าง เพื่อความหลากหลาย ...
1
ทำไมเราถึงควรมีงานอดิเรกมากกว่าหนึ่งอย่าง? ก็เพราะว่า ….
1. เพื่อพัฒนาสมองในหลายๆด้าน
การที่คุณมีงานอดิเรกเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก ก็ควรมีงานอดิเรกที่หลากหลาย เพื่อที่สมองจะได้ถูกกระตุ้นและพัฒนาในหลายๆด้าน เช่น ถ้างานอดิเรกอย่างที่หนึ่งของคุณคือ การเล่นเกมส์ปริศนา Sudoku ซึ่งเป็นเกมส์ที่ช่วยพัฒนาในเรื่องการคิดวิเคราะห์ การใช้ตรรกะ การจดจำ ทั้งยังพัฒนาเรื่องความอดทนและสมาธิ
Image by JeromeWare from Pixabay
แต่การเล่นเกมส์ Sudoku เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของร่างกายเลย และไม่ได้พัฒนาทางด้านจินตนาการ ดังนั้นจึงควรมีงานอดิเรกอย่างอื่นด้วย เช่น การออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและเพื่อมีสุขภาพกายที่ดี การทำอาหารหรือการเล่นดนตรี เพื่อพัฒนาสมองในแง่ของจินตนาการ เป็นต้น
2. เพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ เบื่อหน่าย
การที่คุณมีงานอดิเรกเพียงอย่างเดียว อาจก่อให้เกิดความซ้ำซาก จำเจ และเบื่อหน่าย ใครล่ะจะทำขนมเล่นๆอยู่ได้ทุกวัน ใครล่ะจะนั่งต่อจิ๊กซอว์อยู่เรื่อยๆแผ่นแล้วแผ่นเล่าอย่างไม่รู้จบ เพราะฉะนั้นเราควรมีงานอดิเรกที่หลากหลาย เพื่อสลับสับเปลี่ยน เวียนไปเรื่อยๆ ตามแต่ความเหมาะสม
3.เพื่อเป็นทางเลือก ในยามที่ไม่สามารถทำกิจกรรมอีกอย่างได้
สมมุติว่างานอดิเรกของคุณคือการเล่นฟุตบอล ซึ่งในยามนี้ ยามที่เราต้อง Social Distancing การเล่นฟุตบอลอาจไม่สามารถทำได้ หากคุณมีงานอดิเรกอื่นๆ ก็จะสามารถมาลงในยามว่างของคุณได้แทนที่ฟุตบอล
1
Image by Free-Photos from Pixabay
อีกหนึ่งตัวอย่าง สมมุติว่างานอดิเรกของคุณคือ เดินป่า หรือ ท่องเที่ยว คุณคงไม่สามารถไปเดินป่าหรือท่องเที่ยวได้อยู่ทุกวัน แม้กระทั่งทุกสัปดาห์ก็อาจไม่สามารถทำได้ คุณจึงควรมีงานอดิเรกอย่างอื่นด้วยที่สามารถทำได้เป็นประจำ
ตัวอย่างสุดท้าย สมมุติว่าการชกมวยคืองานอดิเรกของคุณในตอนนี้ แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นๆ ร่างกายของคุณอาจไม่มีแรงได้เหมือนเดิม ถ้าคุณมีงานอดิเรกอย่างอื่นด้วย ที่ร่างกายของคุณสามารถทำได้ คุณก็จะไม่เคว้งคว้างกับช่วงเวลาว่างของคุณ
แล้วเราจะขี้เกียจๆ นอนดูซีรีย์ หรือ เล่นเกมส์ ไม่ได้เลยเหรอ?
เป็นธรรมดาของคนเรา มันก็ต้องมีขี้เกียจกันบ้าง ใครจะไปขยันได้อยู่ตลอดเวลา จริงไหม เราเองก็เป็นคนที่ชอบดูหนังและเล่นเกมส์เหมือนกัน การที่จะอยากนอนดูซีรีย์เพลินๆ หรือเล่นเกมส์ที่ชอบ มันก็ไม่ได้ผิดอะไร
Image by Jan Vašek from Pixabay
เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ทุกครั้งที่ว่าง คุณก็นั่งอยู่หน้าจอทีวี ไม่ใช่ทุกครั้งที่ว่าง คุณก็อยู่กับมือถือหรือแท๊บเล็ตตลอดเวลา เราควรจะหาเวลาให้กับงานอดิเรกด้วย จริงๆแล้วงานอดิเรกใช่ว่าจะกินเวลาทั้งวันเสียเมื่อไหร่ ถึงยังไงคุณก็ยังมีเวลาว่างให้ทำตามใจอยู่ดีนั่นแหละ
คำว่า “งานอดิเรก” หมายถึงสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ ...
Image by Steve Buissinne from Pixabay
ไม่ว่างานอดิเรกของคุณคืออะไร คุณควรทำสิ่งเหล่านั้นให้เป็นประจำ ไม่จำเป็นว่าต้องทำทุกวัน แต่ต้องทำให้เกิดเป็น routine อาจจะสัปดาห์ละสองสามครั้งเป็นอย่างน้อย ครั้งละสองสามชั่วโมง เมื่อคุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะกลายเป็นนิสัย ให้คุณกระตือรือร้นที่จะทำอะไรสักอย่างในยามว่างโดยอัติโนมัติ และความกระตือรือร้นนี้เอง จะเป็นเครื่องมือชั้นดี ให้สมองของคุณได้พัฒนาอยู่ตลอดเวลา แถมยังสร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่คุณอีกด้วย
งานอดิเรกอาจกลายเป็นหนทางสร้างรายได้เสริม ...
มากไปกว่านั้น งานอดิเรกบางอย่างอาจจะกลายเป็น Passion และสร้างรายได้ให้กับคุณ หากคุณใช้เวลากับมันมากพอ หากคุณมุ่งมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ และหากคุณหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมให้ผลงานของคุณดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสิ่งๆนั้นมีค่าในสายตาคุณ สิ่งๆนั้นก็อาจมีค่าในสายตาของคนอื่นๆด้วย
Image by marcelkessler from Pixabay
อย่าเพิ่งดูถูกตัวเอง ว่าฉันทำไม่ได้หรอก อย่าเพิ่งไปตีกรอบความคิด ว่าสิ่งที่ฉันชอบทำ จะมีใครมาให้ความสนใจเหรอ บางทีคนรอบตัวคุณอาจจะบอกว่ามันงั้นๆ แต่อย่าลืมสิ โลกนี้ยังมีคนอื่นๆอีกมากมาย ที่มีความชอบแตกต่าง หลากหลายกันไป สิ่งที่คุณทำอาจจะไปโดนใจพวกเขาเหล่านั้นก็ได้
1
ลองใช้เทคโนโลยีต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์ ทั้งอินเตอร์เน็ท App ต่างๆ และ โซเชียลมีเดีย ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG Youtube และอื่นๆอีกมากมาย
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ก็เพราะเราคิดว่ามันสำคัญจริงๆ งานอดิเรกมักถูกมองข้ามไป มักถูกมองว่าไม่สำคัญ เป็นเรื่องไร้สาระ หรือ แม้กระทั่งมักถูกมองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆ
เราสังเกตเห็นคนแก่หลายๆคนที่ไม่ได้มีอะไรทำมากไปกว่าการนั่งดูทีวี มันส่งผลต่อสภาพจิตใจ สมอง และร่างกาย อย่างเห็นได้ชัด เมื่อเราแนะนำว่าให้หาอะไรทำเป็นงานอดิเรกที่ชอบ เขาตอบมาว่า คิดไม่ออกเลยว่าชอบทำอะไร หรือ ไม่มีอะไรที่ชอบทำ และดูเหมือนว่าเขาก็ปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้น ไม่คิดที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ชอบทำ
Image by Engin Akyurt from Pixabay
จึงเป็นที่มาของความคิดที่ว่า “เราต้องหางานอดิเรกทำ ณ ตั้งแต่วันนี้” เพราะถ้าเราปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปในแบบที่มีแค่งานประจำ และ ทีวี ในวันข้างหน้าที่เราไม่ต้องทำงานแล้ว แต่มันก็เป็นวันเดียวกันที่เราหมดความกระตือรือร้น หมดไฟ หมดพลัง เราก็คงไม่ลุกขึ้นมาเพื่อค้นหาตัวตนอะไรอีกแล้ว สุดท้ายเราก็จะเหลือเพียงแค่ ทีวี
เราอยากใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และรู้สึกมีคุณค่าในโลกใบนี้ งานอดิเรกจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์ และในอนาคต ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้งานอดิเรกมีประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย นอกจากการที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ และ ความสุขสงบส่วนตัว จาก Hobby (งานอดิเรก) จะได้กลายเป็น Purpose of Living (จุดมุ่งหมายของการใช้ชีวิต)
Image by Hier und jetzt endet leider meine Reise auf Pixabay aber from Pixabay
ไม่ว่างานอดิเรกนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัวคุณเอง หรือเพื่อหารายได้ หรือเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรมีติดตัวไว้ ถ้าวันนี้คุณยังไม่มีงานอดิเรก มันก็ไม่สายอะไร อ่านจบแล้ว ก็เริ่มเลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา