19 พ.ค. 2021 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
มือใหม่หัดเทรด...กับเทคนิคอ่านบทวิเคราะห์หุ้น
Cr: Pixabay.com
หากคุณเป็นหนึ่งในนักลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือใหม่หัดเทรด (ซื้อ-ขาย) อาจเคยเกิดคำถามในใจว่า “บทวิเคราะห์หุ้น” มีตั้งมากมายล้านแปด จะเลือกอ่านแบบไหนก่อนดี?
หรือจะมีเทคนิคการอ่านบทวิเคราะห์อย่างไร ที่จะมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะไม่ต้องนั่งเหงาบนดอยสูงอย่างเดียวดาย...
“บทวิเคราะห์หุ้น” จัดเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเลิศแหล่งหนึ่งที่นักลงทุนควรติดตามนอกเหนือจากการอ่านแบบ 56-1 หรือผลประกอบการของกิจการ
เพราะบทวิเคราะห์มีข้อมูลที่อัพเดท ทันต่อเหตุการณ์ หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามีส่วนของข้อมูลที่เป็นเรื่องราวล่าสุด และส่วนที่เป็นการประเมินมูลค่าหุ้น ซึ่งจัดทำโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพ (สรุปและย่อยมาให้แล้ว)
Cr: Pixabay.com
ที่สำคัญบทวิเคราะห์มีให้เลือกหลายประเภท เช่น บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม หรือบทวิเคราะห์ทางเทคนิค
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน และกำลังเริ่มทำความรู้จักหุ้นอาจจะทดลองเลือกหุ้นที่ชอบในดัชนี SET50 หรือ SET100 (หุ้นใหญ่ 50 ตัวแรก หรือ 100 ตัวแรกของตลาดหลักทรัพย์ฯ) แล้วอ่านเจาะที่ “บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว” เป็นหลัก เพื่อทำความเข้าใจตัวหุ้นในหลากหลายมิติก่อน
ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้วก็คงจะคล้ายๆ กับการลงทุนจีบสาวสักคนที่เราต้องพยายามเข้าใจเรื่องราว และความเป็นตัวของเธอคนนั้นๆ ให้ดีที่สุด ก่อนที่จะทุ่มเททั้งสรรพกำลัง และทุนทรัพย์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นหัวใจของเธอ
ส่วนในหุ้นนั้นผลตอบแทนก็จะกลับมาในรูปของ Capital Gain หรือ Dividend Yield ก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่ว่าเราเลือกจีบหุ้นได้ถูกตัวมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
ลองมาดูส่วนประกอบที่สำคัญในบทวิเคราะห์ พอจะสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
Cr: บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ TTW จาก บล.กสิกรไทย และบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ CKP จาก บล.เอเซีย พลัส
1. สรุปประเด็นสําคัญจะอยู่ในส่วนแรกของบทวิเคราะห์ เปรียบเหมือนเป็น “หนังตัวอย่าง” ที่รวมเอาฉากเด็ดเข็ดฟันของบทวิเคราะห์ทั้งหมดมาสรุปให้
อ่านในกรอบครึ่งหน้าแรกเน้นๆ
2. ผลประกอบการล่าสุด ซึ่งมักจะเป็นบทวิเคราะห์ที่เพิ่งออกหลังจากประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด
3. คาดการณ์อนาคต หลังจากที่นักวิเคราะห์แสดงความเห็นต่อ ผลประกอบการล่าสุด ก็จะฉายภาพอนาคตอันใกล้ เช่น ไตรมาส ถัดไป หรือครึ่งปีถัดไป
พร้อมทั้งให้ภาพ Outlook ตลอดทั้งปีที่เหลือเอาไว้ (หรือบางทีก็ให้เผื่อไว้ 2-3 ปี)
4. ประมาณการความเสี่ยง ความเสี่ยงหลักที่จะทำให้กิจการไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่คาดการณ์คืออะไร นักลงทุนต้องระวัง ความเสี่ยงสำคัญอะไรบ้างที่จะมีผลต่อประมาณการของหุ้นตัวนี้
5. Dividend Payout อธิบายถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผล และแนวโน้มเงินปันผลในงวดถัดไป
6. Dividend Yield และให้สมมติฐานในการประเมินมูลค่าหุ้น พร้อมวิธีประเมินมูลค่าหุ้นในการได้มาซึ่งราคาพื้นฐานที่เหมาะสมนั้นๆ
สิ่งสำคัญในการอ่านบทวิเคราะห์ คือ “ไม่มีอะไรแน่นอน 100%” รวมทั้ง “ราคาเป้าหมายในบทวิเคราะห์” (Target Price) ด้วย
นักลงทุนจึงไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่บทวิเคราะห์ให้ข้อมูลไว้ แต่นักลงทุนสามารถนำบทวิเคราะห์หุ้นตัวนั้นๆ ที่สนใจจากหลายๆ โบรกเกอร์มาอ่าน
Cr: Pixabay.com
ลองทำการตรวจสอบ เปรียบเทียบข้อมูล ความคิด ความถูกต้อง และสมมติฐานในการประเมินมูลค่าหุ้นระหว่างตัวนักลงทุนเองกับบทวิเคราะห์ตัวนั้นๆ ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากครับ
เทคนิคการอ่านบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวที่อยากแนะนำ คือ…
ไม่ควรให้น้ำหนักกับ “ราคาเป้าหมาย” (Target Price) มากเกินไป เพราะว่าการประเมินมูลค่าหุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ซึ่งนักวิเคราะห์จะใส่สมมติฐาน ประมาณการต่างๆ และคิดคำนวณออกมาเป็นช่วงราคาที่เหมาะสม นักลงทุนจึงควรอ่านส่วนนี้เพียงเพื่อให้เข้าใจสมมติฐาน และวิธีการประเมินมูลค่าว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ไม่ควรมองไปที่ผลลัพธ์ราคาเป้าหมายเพียงอย่างเดียว
อีกทั้งควรให้น้ำหนักกับข้อมูลพัฒนาการต่างๆ ของกิจการเป็นหลัก ว่ากิจการทำอะไรไปแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ และจะทำอะไรต่อไป
ข้อมูลเหล่านี้นักวิเคราะห์มักจะสรุปมาจากการเข้าพบพูดคุยกับผู้บริหาร หรือร่วมกิจกรรม Analyst Meeting หรือสอบถามข้อมูลจากนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations: IR) ของบริษัทฯ นั้นๆ ซึ่งนักลงทุนรายย่อยทั่วไปไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้าพบพูดคุยกับผู้บริหาร หรือ IR ใกล้ชิดแบบนักวิเคราะห์
ดังนั้นขอมูลเหล่านี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดในบทวิเคราะห์ที่นักลงทุนไม่ควรพลาด ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีการนำบันทึกภาพการประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ใส่ไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทนั้นๆ เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยหรือผู้ที่สนใจเข้ามาดูย้อนหลังได้
Analyst Meeting: ขอบคุณข้อมูลจาก Youtube "TTW Plc Channel"
เมื่อนักลงทุนเห็นภาพรวม และเทคนิคเบื้องต้นในการอ่านบทวิเคราะห์กันแล้วจะรอช้ากันอยู่ไย...เลือกหุ้นที่สนใจ มุ่งหน้าหาข้อมูลจากบทวิเคราะห์ และแหล่งข้อมูลต่างๆ กันเลยครับ
ส่วนจะเลือกจีบหุ้น หรือจีบสาวคนไหนก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ และการตัดสินใจส่วนบุคคลของท่านเอง
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูล และแชร์ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการชี้ชวนให้ลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็นการเฉพาะ
และแม้ว่าการลงทุนใน “หุ้น” จะมีความเสี่ยงสูง แต่หากเราเตรียมตัวเองให้พร้อม ศึกษาหาความรู้ และวิเคราะห์หุ้นอย่างรอบคอบก่อนเลือกลงทุนใน “หุ้น” ก็จะเป็นเหมือนทางด่วนที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้เราบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วครับ
Ref: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โฆษณา