18 พ.ค. 2021 เวลา 10:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#รีวิวฟันด์วันละกอง #กองทุนสินค้าเกษตร #KAGRI #KTAGRI
K-AGRI vs KT-AGRI
.
สวัสดีครับ กลับมาพบกับบทความรีวิวกองทุนตอนที่ 7กันต่อได้เลยครับ
.
ขอบคุณสำหรับการกดไลค์กดแชร์บทความของเพจนะครับ ผมสัญญาว่าจะนำกองทุนมาเล่า หาบทความดีมาแนะนำกันต่อไปครับ
.
มาถึงบทความวันนี้กัน เป็นกองทุนที่ไม่ค่อยเห็นคนรีวิวกัน เพื่อนๆอาจจะไม่ได้สนใจกองทุนนี้มากเท่ากองทุนหุ้นUS จีนหรือเวียดนาม แต่ผมอยากศึกษาแล้วมาเล่าให้ฟัง ถือว่าเป็นบทความต่อยอดจากบทความก่อนหน้านี้ครับ เรื่องกองทุน Commodities (SCBCOMP vs PRINCIPALGCF vs UOBSC)
.
ทำไมผมถึงหยิบมาเล่าเหรอ..........#ก็มันขึ้นน่ะสิ 55555 แต่ไม่ได้บอกว่า มันจะขึ้นต่อนะ แต่มันขึ้นเพราะอะไรในช่วงที่ผ่านมา ไปดูกันครับ
.
1. กองทุน 2 ตัวนี้ที่เราเอามาคุยกัน เป็นกองทุนที่ชื่อย่อคล้ายๆ กัน คือ Agricultural คือ น่าจะเกี่ยวข้องกับการเกษตรแน่ล่ะ แต่พอเข้าไปดูไส้ในแล้วคนละเรื่องเลยนะ อย่าสับสนกัน
ตัวแรก คือ K-AGRI ของ KASSET ครับ ตัวนี้เป็นกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือกนะ และเป็น Feeder Fund ไปลงในกองแม่ที่ชื่อว่า "Invesco DB Agriculture Fund" ซึ่งเป็น ETF ที่มีมีนโยบายการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับ DBIQ Diversified Agriculture Index Excess Return /Index จะเรียกว่า Passive Fund ก็ได้ แต่ไอ้ดัชนีนี้มัน เป็น ดัชนีที่สะท้อน อัตราผลตอบแทนจากกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าเกษตร >>> กล่าวคือ ถ้าเราอยากดูว่าตลาดที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรของโลกเป็นอย่างไรก็ดูดัชนีนี้ได้นะ
Invesco DB Agriculture Fund เป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) [เหมือนกับกอง Commo ก่อนหน้านี้เลย] โดยไส้ในของมัน ก็มีตั้ง Futures ของ Soybean Corn Sugar LiveCattle Coffee Cocoa (ที่เหลือเอาไปลง US Treasury)
.
2. กองทุน KT-AGRI บริหารโดย KTAM (บลจ.นี้มี Sector Fund น่าสนใจเยอะมาก) กองนี้เป็นกองทุนรวมตราสารทุน และเป็น Feeder Fund ไปลงในกองแม่ที่ชื่อว่า BGF World Agriculture Fund (BGF Nutrition Fund Class A2 Hedged SGD) ของ BlackRock นั่นเอง กองนี้มันน่าสนใจตรงนี้ เค้าไปซื้อหุ้นของบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวกับการเกษตร ซึ่งประกอบธุรกิจด้านการเกษตร สารเคมีทางการเกษตร อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหาร ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพ วิทยาศาสตร์การเพาะปลูก ที่ดินทำการเกษตรและการป่าไม้ (Copyมาเลย) คือ ลงหลายธุรกิจมาก และจะลงในนโยบายเหล่านี้อย่างน้อย 70%
มาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงเห็นความต่างแล้วว่า ทั้ง 2 กองนี้ต่างกันที่ K-AGRI ลงใน Future ขณะที่ KT-AGRI ลงในหุ้น
.
3. ราคา NAV ของทั้ง 2 กองปรับตัวขึ้นมา สร้างผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง K-AGRI ได้ 26.6% KT-AGRI ได้ 54.6% >>> เฮ้ย!!!!! กองนี้มันนอกสายตาผมมากเลยนะ ด้วยความที่ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับ Commodities มาก่อนแล้ว เราเคยคุยกันว่า หลังเกิดวิกฤต Covid19 ตอนนี้ก็ผ่านไป 1 ปีแล้ว สินทรัพย์หลายอย่างราคาขึ้น โดยเฉพาะน้ำมัน แต่สินค้าเกษตรก็ขึ้นเช่นเดียวกันนะ ดังนั้นด้วย Demand หลังคนฉีดวัคซีนจะเป็นตัวกระตุ้นให้มีความต้องการอาหาร สินค้า รวมถึงโลหะมีค่าต่างๆที่ใช้ในโรงงาน บวกกับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนในตลาดต่างคาดการณ์ว่าจะเกิดเงินเฟ้อที่พุ่งตัวในอนาคต
.
เพียงแต่เราก็ไปโฟกัสว่า กองทุนอะไรที่จะป้องกันความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อได้ เช่น ทอง น้ำมัน Commo ก็ดี ซึ่งกองทุนเหล่านี้น่าจะใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้นได้ดีเลยนะ แต่ระยะยาวผมก็ไม่แน่ใจ ว่าดีจริงไหม (อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน)
.
4. ผมลองไป Track ข้อมูลราคาจาก Bloomberg และได้จาก KGI WMR (หลักทรัพย์ที่เขียนบทความกองทุนน่าสนใจอีกเจ้า) พบว่า ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (Year to Date :YTD) ของ Commodity Index มันขึ้นเกือบทุกตัวยกเว้น ทอง ข้อมูลถึงวันที่ 14 พ.ค.ระบุว่า ผลตอบแทน YTD ของน้ำมั WTI (แหล่งน้ำมัน) ขึ้นมา 35% ข้าวโพด(Corn) 50% o_O เยอะมาก ข้าวสาลี (Wheat) 15% น้ำตาล 18% รวมถึงกลุ่มโลหะในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นทองแดง หรือ อะลูมิเนียม ก็ปรับขึ้น 20 กว่า %
.
5. Trend การปรับขึ้นของสินค้าเกษตรนี้ จะไปต่อไหม ผมเองก็เดายาก เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็มีข้อมูลมาฝากให้ระวังกันหน่อย
ข้อมูลที่ 1 คือราคาข้าวโพดใน US ปรับขึ้นมาจาก 300 กว่า USD/BU เป็ย 700 USD/BU ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ก่อนหน้านี้ราคาข้าวโพดแกว่งในช่วง 300-450 USD/BU ตั้งแต่ปี 2015 บอกเลยว่า เพิ่มมาวิ่ง อาจจะเป็น Cycle ใหญ่ของมันก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจบหรือยังเท่านั้นเอง
ข้อมูลที่ 2 คือ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวโพดที่จะหมดอายุในอนาคตมีราคาที่ต่ำลง สะท้อนปริมาณอุปทานในตลาดที่สูงขึ้นภายใน 3 ปีข้างหน้า จึงเป็นอีกความเสี่ยงที่ต้องระวัง
**BU=Bushel บุชเชล เป็นหน่วยวัดปริมาตร 1bu=36.5ลิตร**
.
6. และหากเราดูข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index: PPI) อันนี้คือวัดเงินเฟ้อในฝั่งผู้ผลิตสินค้าไง (ถ้าฝั่งผู้บริโภคดู CPI หรือ PCE) ผมได้ข้อมูลมาจากทางTISCO ESU (ซึ่งดึงข้อมูลมาจาก U.S.Beruau of Statistic อีกที) พบว่าเงินเฟ้อในช่วง 100 กว่าปีที่ผ่านมา พุ่งแรง 3 ช่วง คือ
(1) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (1950)
(2) The Great Inflation (1970) [Investopedia บอกว่า บางคนมองว่ามาจากน้ำมัน เก็งกำไรค่าเงิน แต่จริงๆมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายการเงิน ซึ่งใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง พอ!!!!!!!!! เดี๋ยวยาว]
(3) Commodity Cuper Cycle (2000-2010) [ราคาขึ้นหลายอย่างเลย น้ำมัน อาหาร โลหะมีค่า ทอง เหตุการณ์นี้อาจทำให้หลายคนเชื่อว่า ถือทองยาวๆน่าจะขึ้น]
พิมพ์มาจนออกทะเล แล้วผมจะบอกอะไร >>> ดูในกราฟครับ เงินเฟ้อรอบนี้อาจเป็นแค่ภาพเล็กๆ ซึ่งไม่รุนแรงเท่าในอดีตก็ได้ เพราะงั้น Cycle ของการขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจจะไม่นานถึง 10 ปี............ซึ่งตรงนี้ผมว่าเราทุกคน คงต้องสังเกตตลาดและทำการบ้านเพิ่มกันนะ เพราะถ้าผมผิด ก็แปลว่า กอง Commodities ทุกกองจะขึ้นอย่างรุนแรงเลย
.
7. ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เราต้องกลับมามองว่า ระหว่าง 2 กองนี้ ถ้าผมสนใจลงทุน ผมจะเลือกกองไหน ถ้าผมอยากเก็งกำไร ผมเลือก K-AGRI มันตรงตัวที่สุดแล้ว แต่ถ้าเป็นกอง KT-AGRI............ผมจะคิดแบบ Warren Buffet
ท่านไหนที่เคยตาม Warran Buffet จะทราบว่า เขาไม่ลงทุนในคริปโต เขาไม่ลงทุนในทอง เพราะทอง ไม่ใช่บริษัท ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ไม่มีผลประกอบการให้วิเคราะห์ มีเพียงราคา ที่วิ่งตาม Demand และSupply หรือความโกลาหลของตลาดทุน แต่ปี 2020 ที่ผ่านมา นักลงทุนรายใหญ่ของโลกท่านนี้ได้ซื้อ BARRICK GOLD ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเหมืองทอง........ใช่ครับ เค้าไม่ได้ซื้อทอง แต่ซื้อบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับทอง (แต่ปัจจุบันก็ขายทำกำไรออกมาแล้วนะ)
.
8. ด้วยหลักการคิดนี้ เราก็สามารถจัดพอร์ตกองทุนรวมเราโดยมี KT-AGRI ได้เช่นกัน ไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไรเงินเฟ้อ แต่มองว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องการเกษตรจะเป็น Cycle ที่ได้รับประโยชน์ในช่วงนี้ครับ เพราะเมื่อเราเปิดไส้ในดู หุ้น 40% อยู่ใน US แต่มี Deere & Company ผู้ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้ทำการเกษตร FMC Corporation ที่ทำเกี่ยวกับยาฆ่าแมลง หรือ KERRY GROUP..........(ไม่ใช่ Kerry Express 555) ขายส่วนประกอบในการทำอาหาร (Food Ingredient)
.
9. ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกกองไหน หรือไม่เลือกเลย มันเป็นเพียงไอเดียจากผมเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว ผมก็ไม่เคยมองกองทุนเหล่านี้เลย พอมาดูมันก็น่าสนใจนะ แต่ถ้าจะเลือกเพื่อป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน หรือเก็งกำไร จริงๆ กองทุนทอง หรือ กองทุน Commodities ที่เคยเขียนก่อนหน้านี้ก็ดูได้นะ
.
10. สุดท้ายนี้ อยากเตือนอะไรซักนิดว่า 2 กองนี้ผลตอบแทน 5-10 ปี ไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนะ อย่าง K-Agri นี่ลงมายาวเลย นักลงทุนมือใหม่หลายๆคนเห็น ลบๆยาวๆทุกปีแบบนี้ก็ไม่กล้าเข้าแล้วล่ะ ขณะที่ KT-AGRI มี Maximum Drawdown (5Y) 38% (.........นึกถึงกอง ARK เลยจ้า) ความผันผวนของ Sector Fund ก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่มองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือก Sector Fund หรือ Thematic Fund นั่นแปลว่า เงินคุณกำลังมั่นใจในกลุ่มธุรกิจนั้น ถ้าขึ้นมันก็เป็นกำไรที่ดีเลยล่ะ แบบหุ้นเทคปีก่อน แต่ถ้าลงก็จะไปกันหมด ดังนั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงลง Sector Fund การเลือกกองทุนที่เป็นประเทศ หรือภูมิภาคก็จะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี เพราะมีหลากหลายอุตสาหกรรมในกองทุนนั้นไง
.
ข้อ 10 เหมือนจะดึงสติกลับมาให้มองทั้งความเสี่ยง และความเข้าใจในการลงทุนนะ ผมไม่ได้เชียร์กองไหนทั้งสิ้น แค่มาเล่ากองทุนสนุกๆให้ฟังครับ
.
ถ้าท่านยังไม่อ่านบทความ Commodities เรียนเชิญครับ
.
ถ้าผมเขียนเนื้อหาส่วนไหนผิด หรือไม่ตรงใจใครบอกกันได้นะครับ ผมยินดีรับฟังนะ ผมแค่เป็นนักลงทุนตัวเล็กๆ คนนึง
.
หากท่านชอบงานเขียนของผม ฝากกด Like กด Share และฝากกด Like/Follow Page : Fun Manager ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำบทความต่อไป
.
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ #FunManager
.
จิรภัทร โบสุวรรณ, CFP®
.
.
ตอนนี้เปิด Blockdit แล้ว ฝากติดตามด้วยครับ
1
===========================
คำเตือน : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ และไม่ได้ชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลจาก Fund Fact Sheet ก่อนการลงทุนนะครับ
โฆษณา