19 พ.ค. 2021 เวลา 00:14 • การศึกษา
ซากิร ไนค์ Zakir Naik คือ หนึ่งในปัญญาชนที่โลกจับตามากที่สุดแห่งศตวรรษใหม่
เมื่อศตวรรษที่ผ่านมา มีปัญญาชนอินเดีย 2 คน ที่คนอังกฤษทึ่งในภาษาอังกฤษ
คนแรกชื่อ เยาวหราล เนห์รู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย คนที่ 2 ชื่อ อับดุลลอฮ์ ยูสุฟ อาลี ผู้แปลอัลกุรอานเป็นภาษาอังกฤษ
สมัยนั้น เมื่อ 2 ท่านดังกล่าวขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งท่านเซอร์ และ มาดามแหม่มอังกฤษ ต้องฟังอย่างคนอ้าปากกว้าง และตาค้าง
คนอังกฤษบางคนอาจต้องพกพจนานุกรมไปด้วย เพราะความยอดเยี่ยมในการใช้ภาษาขั้นสูง และความเชี่ยวชาญทางภาษา ที่คนอังกฤษแท้ ๆ ยังนึกศัพท์แสงไม่ถูก และนึกไม่ออก
สมัยนั้น อังกฤษปกครองอินเดีย การใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษอันร่ำรวยและเริดหรู เป็นค่านิยม ที่คนอินเดียต้องการทำให้เหนือกว่าคนอังกฤษ
มีความหมายคล้าย ๆ ว่า คนอังกฤษไม่ได้เก่งกว่าคนอินเดีย อังกฤษหาเหนืออินเดียไม่ คืนอิสรภาพให้อินเดียซะเถิด
เข้าสู่ศตวรรษใหม่ มีคนอินเดียเก่งภาษาอังกฤษมากมาย และ ล้น
แต่มิติโลกแปรเปลี่ยน อิสรภาพก็คืนให้อินเดียแล้ว กระนั้นก็ตามคนอังกฤษยังอยากฟังคนอินเดียพูดอีก
หนึ่งในปัญญาชนอินเดียที่อังกฤษอยากฟังคำพูดมากที่สุด คือ สุภาพบุรุษแห่งเมือง มุมไบ หรือ บอมเบย์ มีชื่อว่า ซากิร ไนค์
ที่ อังกฤษ มีสโมสรหนึ่งชื่อ ออกซ์ฟอร์ด ยูเนี่ยน โซไซตี้ มีอายุ เกือบ 200 ปี เพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2366 หรือ สมัยรัชกาลที่ 2
เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความคิด ถกเถียงในเชิงวิชาการ และ โต้เถียง ที่เรียกว่า ดีเบต
สโมสรนี้ มักจะเชิญคนเด่น คนดัง คนเก่ง รวมถึง เซเลป จากทั่วมุมโลกมาเสนอความรู้ และจะมีช่วงท้าย ให้ผู้ฟังแสดงทัศนะโต้แย้งได้ และดีเบตอย่างอิสระ
ปี ค.ศ. 2011 ซากิร ไนค์ ได้รับเกียรติให้เสนอความรู้ในสโมสรแห่งนี้ ท่านเสนอได้ดีในหลากเรื่องเกี่ยวกับอิสลาม และได้พูดถึงวิทยาศาสตร์ที่กุรอานได้บอกไว้แล้ว
พูดถึงศาสนาเปรียบเทียบ ด้วยความคล่องแคล่ว และ ชำนาญ และคนอังกฤษต่างทึ่งในตัวท่าน โดยเฉพาะการอ้างหลักฐานจากตัวบทกุรอาน เช่น ซูเราะห์โน้น อายะห์นี้
ความจำในการยกหลักฐานของท่าน ถือว่า จีเนียส หรือ เก่งมาก กล่าวยกหลักฐานได้แม่นราวกับท่องอาขยาน รวดเร็วคล้ายลูกปืนที่ออกมาจาก ปืนกลเอ็ม 16
แน่นอนว่า คนฟังอังกฤษชอบอกชอบใจ ตบมือกันสนั่น เกียวกราว เสียงลั่นสโมสร
 
ถ้าทำไทม์ไลน์ของชีวิตท่านให้เป็นกราฟในช่วงนั้น น่าจะเป็นเส้นกราฟที่พีค หรือ สูงสุด ๆ ของชีวิตท่านช่วงหนึ่ง
ว่ากันตามจริง ท่านเป็นที่รู้จักในอินเดีย และ โลกมุสลิม มาก่อนนั้นเกือบ 20 ปีก่อนหน้านั้น
อะศอลเดิม หรือ พื้นฐานเดิม ท่านเป็นนักเรียนแพทย์
ช่วงปี ค.ศ. 1986 ยุคนั้น วีดีโอ คาสเซ็ท ของ นักโต้ศาสนาเปรียบเทียบ อะห์มัด ดีดัต เริ่มเปิดหูเปิดตาชาวโลก
โดยเฉพาะ วีดีโอ คาสเซ็ท 2 ตลับ ที่บันทึกการโต้ปัญหาศาสนาแห่งศตวรรษ ที่อเมริกา ระหว่าง อะห์มัด ดีดัต กับ บาทหลวง จิมมี่ สวาการ์ต
วีดีโอ คาสเซ็ท มาถึง ปากีสถาน และ อินเดีย ตอนปลายปี หรือไตรมาสที่ 4 ของปีนั้น
ที่ เมืองอิสลามาบัด มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ นักศึกษาตื่นเต้นกันมาก วันที่คาสเซ็ทมาถึง นักศึกษาต้องยอมควักค่าขนมเป็นเงินรูปี กุลีกุจรไปหาเช่าโทรทัศน์ และ เครื่องวีดีโอมาเปิดดู
วันนั้น นักศึกษาเกือบทั้งหอพัก ดูคาสเซ็ทกัน ตั้งแต่หลังละหมาดอิซา ไปยันดึกยันดื่น
ที่ มุมไบ อินเดีย ก็คงคล้ายกัน ต้องสร้างความตื่นเต้นให้ ซากิร ไนค์ อย่างแน่นอน
และกลาย เป็นแรงบันดาลใจที่ล้ำค่าดั่งเพชรสีน้ำเงิน ทำให้ท่านศึกษากุรอาน และ วิชาศาสนาเปรียบเทียบอย่างเอาจริง และเอาจัง
จนกระทั่งฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ อะห์มัด ดีดัต และได้รับการยกย่องโดยดีดัตเองว่า เป็น ดีดัตพลัส หรือ เก่งกว่าดีดัตมากขึ้นอีก
กอปรกับท่านเรียนมาทางสายวิทย์ จึงได้ความรู้สิ่งที่กุรอานพูดถึงวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้หลีกขึ้นไปอ่าน จนชำนิชำนาญในศาสตร์
 
ปี ค.ศ. 1991 ท่านเริ่มก่อตั้ง มูลนิธิค้นคว้าศึกษาอิสลาม หรือ ไออาร์เอฟ และ ทำงานศาสนาเรียกร้องไปสู่อิสลาม
ต่อมาก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ชื่อ ช่องพีซทีวี และ พีซทีวีนี้แหละ ที่ใช่เผยแผ่ศาสนา และสถานที่ให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่หาสัจธรรมอิสลาม
ช่วงนั้น กระแสของทีวีช่องนี้ มาแรงแซงโค้งและได้รับความนิยมมาก ทั้งที่ อินเดีย และ ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทยเมืองเรา
ซาเล็ม เจริญญาติ อดีตลูกศิษย์ อาจารย์มุสตอฟา อยู่เป็นสุข ผู้มีอาชีพติดจานดาวเทียมทั่วกรุงเทพ เล่าว่า
เวลาไปติดจานดาวเทียมบ้านมุสลิมบ้านใดที่ชอบเรื่องศาสนา และพอฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องบ้าง จะถูกกำชับให้รับสัญญาณ พีซทีวี และต้องทำให้ได้ด้วย
บางครั้ง ลูกค้าจากปักษ์ใต้จ้างให้ไปภาคใต้เพียงเพื่อไปติดจานดาวเทียมรับสัญญาน พีซทีวี อย่างเดียวเท่านั้น
คนอินเดียและปากีสถาน เป็นประเทศที่นิยมกีฬา คริกเกต
ถ้าเป็นแมทช์ใหญ่ ปากีสถาน แข่งขันกับ อินเดีย ในวันใด ในวันนั้น นักศึกษาลากิจเป็นแถว เป็นขบวน บางคนแกล้งขอลาป่วย
ผู้ชนะใบหน้าเปื้อนยิ้ม มักจะแจกขนมหวาน ส่วนผู้แพ้ขี้โมโห มักง้องแง้ง งอแง จ้องจะเอาโทรทัศน์มาทุบทิ้งอย่างโกรธแค้น เพื่อระบายอารมณ์
กีฬานั้น มีผู้แพ้ ก็ต้องมีผู้ชนะ สรุปแล้ว ไม่แน่นอน ผู้คนทางนั้น จึงเปรียบเปรยอะไรที่ไม่แน่นอนว่า คริกเกต
ชีวิตของ ซากิร คล้ายคริกเกต ไม่มีอะไรแน่นอน
เพราะเข้าปี ค.ศ. 2012 รัฐบาลอินเดียชักไม่โอเคเบตง ไม่สบอารมณ์ กับงานของ ซากิร
สัปรส เป็นผลไม้ไทยที่มีตา จะลูกเล็ก หรือ ลูกใหญ่เท่าโอ่งมังกรราชบุรี ก็มีตา
แม้ว่าสัปรสจะมีตารอบตัว และตาเยอะเท่าไร ก็ไม่รังแกใคร ไม่ทำร้ายใคร เพราะเป็น ตาประดับ
ผิดกับรัฐบาลอินเดีย ที่มีตา แต่ไม่ใช่ตาประดับเปลือกหมือนสัปรส ไม่ใช่ตาที่ประดับเบ้าตา แต่เป็นตาที่อาบด้วยน้ำนมเปรี้ยวบูด เป็นตาที่รังแก และให้ร้ายต่อซากิร
รัฐบาลอินเดียป่วนหนัก ไม่ใช้ไม้นวม แต่ใช้ไม้คมแฝกเสริมใยเหล็ก ตีใส่ซากิรอย่างไม่ยั้งมือ
ประกาศิตปิดโทรทัศน์ทีวีดาวเทียม พีซทีวี และ ระงับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของท่าน
รัฐบาลอินเดีย ที่ปกครองโดยกลุ่มฮินดูหัวรุนแรงที่ชื่อ บีจีพี สร้างข้อหาหนัก บอกว่า ซากิร มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย และ การฟอกเงิน
ไม่นาน ปี ค.ศ. 2016 ซากิรเดินทางออกจากอินเดีย และไม่ยอมกลับ ท่านไม่ยอมรับข้อกล่าวหา และบอก รัฐบาลอินเดีย โกหก ตอแหลทั้งเพ
รัฐบาลอินเดียเปิดฉาก ใช้กลยุทธ์ เพิกถอนพาสปอร์ตท่าน และกดดันให้ อินเตอร์โพล หรือ ตำรวจสากล หาทางจับตัวท่านส่งกลับอินเดีย
ขิงก็รา ข่าก็แรง เปรียบเสือเจอสิงห์ หรือคล้ายฟุตบอลศึกแดงเดือด แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีคนยอมคน เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี
ศักดิ์ศรีฆ่าได้ หยามไม่ได้ ซากิร บอก รัฐบาลอินเดียถอดพาสปอร์ต ไม่ให้เขาเป็นคนอินเดีย ท่านก็ไม่ง้อ เสือก็ต้องเจอสิงห์
ท่านโบกมือ บาย บาย ลาก่อน และประกาศว่า ท่านไม่ใช่คนอินเดียอีกต่อไป
ปี ค.ศ. 2017 รัฐบาลอินเดียหวีดแตก เดือดดาล ร้องเสียงดัง บีบ อินเตอร์โพล หรือ ตำรวจสากลเป็นครั้งที่ 2 ให้จับตัวซากิรมาให้ได้
ครั้งนี้ อินเดีย หวังเต็มที่ ซากิรต้องเป็นสิงห์ลำบาก ไม่มีพาสปอร์ต ก็ไม่ต่างกับสิงห์โตบาดเจ็บ มีบาดแผลบักโกรกจนเลือดสาด คงหมดหนทางหนี และจนตรอก
แต่แล้ว คริกเกต คือ คริกเกต ไม่มีอะไรแน่นอน รัฐบาลอินเดีย ถึงกับช็อค และคาดไม่ถึง
เรื่องมันยิ่งกว่าภาพยนตร์ บอลลีวู้ด ยิ่งกว่าหนังทำเงินที่แสดงโดย ชาร์รุค ค่าน และ ซัลมาน ค่าน
กษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอาซีซ ผู้ปกครอง ซาอุดิอารเบีย เข้ามาแก้ไขปัญหาศึกเสือเจอสิงห์ ตัดสินใจมอบสัญชาติ ซาอุดีอารเบีย ให้ซากิร ทำให้ ซากิรเป็นสิงห์ติดปีก
ซาอุดิอารเบีย ให้เหตุว่า เพื่อปกป้องซากิร จากการถูกจับกุมของตำรวจสากล
แน่นอนว่า โลกมุสลิม ชื่นชมซาอุ ฯ มาก ที่รักซากิรเหมือนลูกหลานในใส้ และยินดีกับการตัดสินใจของกษัตริย์แห่งทะเลทรายอารเบีย
คนอินเดีย เมื่อเล่นกีฬา คริกเกต จะไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ รัฐบาลอินเดียก็เช่นกัน ยังไม่ยอมแพ้ซากิรง่าย ๆ
รัฐบาลอินเดีย ดิ้นเฮือก ยื่นเรื่องต่อ ตำรวจสากล อีกว่า ต้องจับซากิรมาให้ได้
และก็อีหรอบเดิม คราวนี้ รัฐบาลอินเดียหน้าแตก แหกกระชัง ชนิด หมอไม่รับเย็บ
เพราะตำรวจสากลปฏิเสธรัฐบาลอินเดียเป็นครั้งที่ 3 ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยู่ภายใต้หมายจับตำรวจสากล
วันนี้ เราะมะฎอน 2021 ซากิร พำนักอยู่ในมาเลเซีย โดยรัฐบาลมาเลเซียให้วีซ่าถาวรแก่ท่าน
ชีวิตของท่านไม่แน่นอน เหมือน กีฬาคริกเกตที่ไม่แน่นอน
ยิ่งช่วงหลัง ๆ ไม่เพียงแต่รัฐบาลอินเดีย ที่เป็นคู่ขัดแย้ง แต่ยังมีกลุ่มอุลามาที่ไม่เห็นด้วยแนวคิดของท่าน จ้องเล่นงาน และกล่าวหาท่าน
เช่น กล่าวหาท่านเป็นโต๊ะครูปลอม และ ฆอยร์ มุก็อลลิด หรือ ไม่เอามัซฮับทั้ง 4 เป็นอะห์ลุล ซุนนะฮ์ วัล ญะมาอะฮ์ อุปโลกน์บ้าง เป็นผู้ไม่เอาตัฟซีรกุรอานบ้าง ซึ่งแต่ละข้อกล่าวหา ฉกรรจ์ทั้งนั้น
 
แต่สิงห์ติดปีก อย่าง ซากิร ไนก์ ไม่มีอะไรมาขวางการทำงานศาสนา ท่านยังคงทำงานศาสนาไม่หยุด ท่านปรับตัวตามสภาพที่เปิดให้ ท่านไม่เคยหยุดนิ่งในการทำงานอิสลาม
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านเป็นปัญญาชนที่โลกติดตาม ผู้ติดตามท่านมีทั้งคนรัก และ คนชัง
แต่สิ่งที่ชีวิตท่านแน่นอน และ ไม่เหมือนกีฬาคริกเกต คือ ท่านคู่ควรและสมเป็นปัญญาชนแห่งศตวรรษใหม่ที่เราต้องจับตาอย่างแท้จริง
โฆษณา