[ชวนคุย] Bitkub Coin กับกำแพงดิจิตอล มูลค่า 3 พันล้าน
หลายคนที่ได้ติดตามวงการคริปโตในประเทศไทย
ก็น่าจะได้ยินชื่อของ "Bitkub Coin" สกุลเงินดิจิตอลสัญชาติไทยที่ถูกเสกขึ้นมา 1000 ล้านเหรียญ และถูกตรามูลค่าไว้ที่เหรียญละ 30 บาท
โดย Bitkub Coin สัดส่วนราว 1% ได้ถูกกระจายไปยังเจ้าของบัญชี Bitkub ที่เคยซื้อขายผ่านกระดานของเขา ซึ่งเทรด 10 บาท ก็ได้แล้ว
และเมื่อวานนี้ เหรียญตัวนี้ก็ได้มีการลิสต์เข้ากระดาน Bitkub เป็นวันแรกให้มีการซื้อขายกันได้
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ณ 13:00 หรือณเวลาที่เหรียญเข้าเทรด Bitkub กลับนำ "เหรียญทั้งหมด" ที่บอกว่าจะเอาเข้าตลาดวันแรก
ไปขวางไว้ช่อง Offer ที่ราคา 30 บาทต่อเหรียญ
คำถามคือ เพื่ออะไร ? เพื่ออออ ?
ส่วนตัวผมมีบัญชี Bitkub และก็ได้ Airdrop จากทางบริษัท
ซึ่งวันที่เปิดเทรดก็ได้ตามติดอยู่ตลอดว่าจะมีอัพเดตอะไรบ้าง
บวกกับมีประสบการณ์เล็กน้อยจากการดู Bid และ Offer ในตลาดหุ้น
ด้วยความรู้ระดับอึ่งอ่างที่ผมมี
ผมตีความได้เพียงแค่ว่าทำไมเจ้าของร้อนเงินดูร้อนเงินจัง
เพราะจริง ๆ แล้ว เมื่อเราเป็นคนเสกเกม แถมเสกสกุลเงิน
ที่กำหนดราคาให้แลกกับสกุลเงิน Fiat ไทยบาทได้ด้วย
เรามีตัวเลือกอีกเป็นสิบ ๆ วิธี ที่นำไปใช้ได้ และดูดีกว่าการเอาไปขวางไว้ช่องแรกให้คนกดซื้อ ซึ่งใครซื้อที่ตรงนั้นคือ คุณซื้อ Bitkub Coin ในราคาดอยและบริษัทได้ไทยบาทเป็นที่เรียบร้อย
เท่าที่ผมติดตามคือได้ไปเกือบครึ่ง หรือราว 1.5 พันล้านบาท ในวันเดียว
และพอมันเริ่มเป็นประเด็นว่าเอ็งเอาไปขวางทำไม เยอะขนาดนั้น ?
ทางบริษัทก็ได้ออกมาชี้แจงภายหลังว่า อ๋อ..
"มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในตลาด ไม่ให้ราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็นในวันเริ่มซื้อขาย และเพื่อกระจายโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้าถือครองเหรียญ KUB ในมูลค่าเริ่มต้นตามที่แสดงไว้ในเอกสาร Whitepaper อย่างทั่วถึง" ก็อบมาตรงตัวเป๊ะ ไม่ได้มีการปรับอะไรใด ๆ
กำแพงเมืองจีน เกือบ 100 ล้านเหรียญ 3,000 ล้านบาท ณ ตอนเปิดซื้อขาย Bitkub Coin
จากตรงนี้ วัตถุประสงค์ก็พอดูมีน้ำหนัก "เล็กน้อย" เพราะในอดีตก็เคยเห็นที่มีเหรียญเข้าตลาดวันแรกเหวี่ยงแรงระดับขึ้นลงเป็นเท่าตัว
แต่พอไปดูคำว่า ไม่ให้ราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น มันก็ดูพิลึกชอบกลว่าจริงหรอครับ
คือถ้ามีคนให้มูลค่าราคาสูงขึ้น บริษัทก็น่าจะได้ประโยชน์สิจากราคาที่เพิ่มขึ้น
คุณก็ได้เงินเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทำไมไม่ปล่อยให้มันไหล ไปตามกลไกทางเศรษฐศาสตร์แบบที่มันควรจะเป็น ?
หรืออีกมุมคือ
ทำไมไม่ชี้แจงให้ละเอียดตั้งแต่ก่อนนำเหรียญเข้าตลาดวันแรกเลย
ว่าเราจะยัดไปเลยเท่านี้ ที่ราคานี้ ให้คนมาซื้อ ไม่ใช่พอมีคนมาตั้งคำถาม
ค่อยออกมาบอก ก็ถือเป็นประเด็นที่น่าคิด
อีกประเด็นที่ชวนคิดก็คือ "30 บาท ต่อเหรียญ"
ประเมินมาจากอะไร ? คำนวณขึ้นมายังไง ? ใช้อะไรคิด ?
ตรงนี้พยายามแล้ว ตั้งแต่ก่อน White Paper ออก
เทียบตั้งแต่ Binance, Ethereum ว่าเหรียญควรจะมีมูลค่าประมาณเท่าไร
ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบ
แล้วพอมาวันนี้ ที่ทางบริษัทบอกว่าจะยกกำแพงดิจิตอลออก ตอน 13.00 มันก็ดูมีเหตุการณ์ชวนคิดเกิดขึ้นอีก
กำแพงดิจิตอล ซื้อยังไงก็ไม่ได้ไปต่อ
ตั้งแต่ระบบล่มและไอที่พีกคือ การยกไอช่อง 49 ล้านเหรียญ ออก ๆ เข้า ๆ หลายครั้ง ณ เวลานั้น
ซึ่งกว่าระบบจะยกออกจริง ๆ ล่อเข้าไปหลายนาที
ในขณะที่ทางเพจทางการหรือทางไลน์กว่าจะอัพเดตก็ปาไป 13.10 น.
คำถามคือ คุณกำลังเล่นกับผู้ใช้งานล้านบัญชี
กับการซื้อขายมูลค่าระดับพันล้าน
ทำไมไม่ทำให้เป็นเป๊ะตามที่พูด
วันนี้พอแค่นี้ก่อน
จริง ๆ มันยังมีเรื่องการตรวจสอบแบบ PoA อีก
ซึ่งมันสุดจะ Centralized เลย
ทางบริษัทระบุมาตลอดว่าทำกำไรได้มาหลายเดือนแล้ว
การที่คุณจะทำให้พร้อมเป็น PoS ไปเลยแล้วค่อยออกไปสู่ตลาดแบบอาวุธครบมือ ก็น่าจะดีกว่า
ทำไมต้องมารีบออกตอนนี้
อีกเรื่องก็คือ ในเพจของทางบริษัทหรือในเพจของตัวผู้ก่อตั้งเอง
ด้วยความที่คุณเป็นสื่อ คุณควรลงข้อเท็จจริงทั้งสองด้าน
ด้านดีก็ลง
ด้านแย่ก็ต้องลง
เพื่อที่ว่าคนที่ใหม่ คนที่เข้ามาใช้งานที่อยากศึกษา
จะได้ไม่ถูกชี้นำไปในด้านใดด้านหนึ่งจากการนำเสนอของคุณ
บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ดี ไม่มีใครเถียง
คริปโต ก็เป็นเทคโนโลยีอนาคต ไม่มีใครเถียง
แต่คนที่จะทำธุรกิจพวกนี้
ด้วยความที่มันใหม่มากโดยเฉพาะสำหรับคนไทย
อย่าฉวยโอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย มันจะไปได้ไม่ไกล
ปล. โพสต์นี้ไม่ได้ต้องการจะดิสเครดิตอะไรใคร แต่ต้องการเปิดบางประเด็นที่ผมคิดว่าน่าสนใจ ด้วยความรู้ระดับอึ่งอ่างที่ผมมี
- 195
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
