ราอูล กอนซาเลส ราชันย์ไร้บอลถ้วย
ช่วงกลางยุค 90 ถึงปลายปี 2010 เรอัลมาดริดมีนักเตะที่ถูกเชิดชูว่าเป็น "ราชันย์แห่งมาดริด" อยู่คนหนึ่งนั่นคือ ราอูล กอนซาเลส
ราอูลเติบโตมาในระบบเยาวชนของเรอัลมาดริด และถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 1994/95 ก่อนจะยิงไป 10 ประตูจากการลงสนาม 30 นัดรวมทุกรายการ
หลังจากนั้น "เอล กัปปิตัน" ก็ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะหมายเลข 1 ของทีมแบบเต็มตัว โดยตลอด 16 ปีกับมาดริด เจ้าตัวยิงไปมากถึง 323 ประตูจาก 741 นัดรวมทุกรายการ
ราอูลยังช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ถึง 16 รายการ แบ่งเป็น ลาลีกา 6 สมัย สแปนิชซูเปอร์คัพ 4 สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย และอินเตอร์คอนติเนนทอลคัพ 2 สมัย
การแข่งขัน Trofeo Santiago Bernabéu ประจำปี 2013 กับอัลซาดของราอูล จัดขึ้นเพื่ออำลาอดีตตำนานที่ประกาศจะแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล
แต่ระยะเวลา 16 ปีกับราชันย์ชุดขาว น่าเหลือเชื่อที่เจ้าตัวไม่เคยมีโอกาสสัมผัสแชมป์รายการบอลถ้วยอย่าง โกปา เดล เรย์ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
เรอัลมาดริดที่มีราอูล กอนซาเลสทำผลงานได้ไม่ดีในรายการนี้ และมักจะจอดตั้งแต่ป้ายแรก
ในปีแรกของราอูลกับโลส บลังโกส พวกเขาพลาดท่าแพ้บาเลนเซียในรอบ 16 ทีมทั้งไปทั้งกลับด้วยสกอร์รวม 2-4
และเคยตกรอบตั้งแต่รอบ 64 ทีม ในฤดูกาล 2000/01 โดยแพ้ให้กับโตเลโด้ ทีมจากเซกุนดา บี 2-1 แบบช็อกโลก
อีก 1 ความพ่ายแพ้ที่ถูกพูดถึงไปทั่วยุโรปเกิดขึ้นในฤดูกาล 2009/10 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของราอูลกับเรอัลมาดริด ในรอบ 32 ทีม ราชันย์ชุดขาวต้องพบกับ อัลกอร์กอน ทีมจากเซกุนดา บี
ทุกฝ่ายต่างเชื่อว่าเรอัลมาดริดจะผ่านได้ไม่ยาก แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น โลส บลังโกสถูกถล่มด้วยสกอร์รวม 4-1 จนอัลกอร์กอนได้รับฉายาในขณะนั้นว่า อัลกอร์กอนนาโซ (ซูเปอร์อัลกอร์กอน)
เกมในบ้านของอัลกอร์กอนกลายเป็นฝันร้ายของโลส บลังโกสหลังจากบุกไปแพ้ 4-0
ตลอด 16 ปี ราชันย์ชุดขาวเข้าชิงได้เพียง 2 ครั้ง และพลาดท่าแพ้ทั้งหมด โดยแพ้ให้กับ เดปอร์ดิโบ ลา คอรุนญา 2-1 ในฤดูกาล 2001/02 และแพ้เรอัล ซาราโกซ่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 อย่างน่าเสียดายในปี 2003/04
โดยราอูลสามารถคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ทั้ง 2 ครั้ง และยังเป็นคนยิงใส่ลา คอรุนญาอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่ดีพอที่จะพาทีมคว้าแชมป์
ที่น่าเสียดายคือหลังจากราอูล กอนซาเลสอำลาถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิวในฤดูกาล 2010/11 เรอัลมาดริดสามารถคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
เป็นชัยชนะที่สำคัญของราชันย์ชุดขาว เนื่องจากเป็นการคว้าชัยเหนือคู่อริอย่างบาร์เซโลน่าในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0
แต่ในที่สุดราอูลก็สามารถคว้าแชมป์บอลถ้วยครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จหลังจากย้ายซบชาลเก้ 04 และช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์เดเอฟเบ-โพคาลได้ตั้งแต่ปีแรกที่ลงเล่น
เจ้าตัวยังเป็นคนซัดประตูชัยช่วยให้ราชันย์สีน้ำเงินเอาชนะบาเยิร์นมิวนิคในรอบรองชนะเลิศอีกด้วย และนั่นคือแชมป์บอลถ้วยครั้งเดียวของราอูลในเวที 5 ลีกใหญ่ของยุโรป
โทรฟี่บอลถ้วยใบแรกของราอูลหลังจากเอาชนะดุยส์บวร์ก 5-0
หลังจากแขวนสตั๊ด ราอูลเข้ารับงานกุนซือให้กับชุดเยาวชนของเรอัลมาดริดในปี 2018 ก่อนที่จะขยับขึ้นมาคุมเรอัลมาดริด กาตีย่าในปีต่อมาจนถึงปัจจุบัน
และมีชื่อเป็นตัวเต็งที่จะขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ต่อจากซีเนดีน ซีดานในฤดูกาลหน้า
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
