Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปรัชญา ปานเกตุ
•
ติดตาม
21 พ.ค. 2021 เวลา 23:17 • ประวัติศาสตร์
เจ็ดชั่วโคตร
โคตร อ่านว่า /โคด/ หมายถึง ตระกูล วงศ์สกุล เผ่าพันธุ์ ต้นสกุล
มักใช้ในสำนวนหรือเมื่อพูดอย่างไม่สุภาพ เช่น ฆ่าล้างโคตร เลวทั้งโคตร
ซ้อนคำเพื่อบ่งความให้เด่นชัดได้อีกเป็น โคตรเหง้า เช่น ไม่รู้จักโคตรเหง้าไม่เอาทำผัว
ที่เจ็บช้ำน้ำใจคือนำไปเป็นคำด่า เช่น ก่นโคตร
ก่น คือ ขุดโค่น
ก่นโคตร จึงหมายถึงขุดโคตรขึ้นมาด่า เช่นคำว่า โคตรพ่อโคตรแม่
เวลาออกเสียงจริงเป็น โคตรพ่อ(ง)โคตรแม่(ง) มาจาก โคตรพ่อ(มึง)โคตรแม่(มึง)
คำด่านี้มีนัยว่าพาดพิงให้เสียหายถึงต้นตระกูลของพ่อแม่
ดังตอนที่นางวันทองด่าขุนช้างเมื่อเอาหม้อกระดูกมาโกหกว่าขุนแผนตาย ความว่า
“...อ้ายงูเห่าเจ้าเล่ห์ทุกอย่างไป
หม้อใบละสิบเบี้ยสู้เสียมา
กระทืบตีนผางผางกลางประตู
โคตรแม่มึงกูขี้คร้านด่า...”
(ขุนช้างขุนแผน)
แต่ขุนช้างหน้าด้านกว่าที่นางวันทองคิด นอกจากไม่กระเทือนซางแล้วยังกลับไปบอกนางเทพทองมารดาตนว่า
“...หล่อนจึงขึ้นโคตรแม่แน่กระนั้น
ว่าให้ไปหากันตามผู้ใหญ่
คงจะได้เป็นเมียอย่าเสียใจ
หาที่ไหนไม่เหมือนแม่แก้วตา
(ขุนช้างขุนแผน)
ด่าพ่อแม่แล้วคู่กรณีไม่สะดุ้งสะเทือน ก็ต้องด่าไปถึงปู่ย่าตายาย
เช่นที่อักขราภิธานศรับท์ เก็บคำว่า “โคตรเค้าเถ้าแก่” เป็นคำด่าลำเลิกถึงตระกูลฝ่ายพ่อแม่ไว้เป็นตัวอย่าง
ถ้าด่าปู่ยาตายายแล้วยังไม่รู้สึก ก็ต้องขุดบรรพบุรุษชั้นลึกๆ ขึ้นมาด่า เช่น โคตรเหง้าบรรพชน โคตรเหง้าเหล่าปราน โคตรเหง้าเหล่ากอ โคตรเหง้าศักราช โคตรเหง้าเหล่าศักราช
คำหนึ่งที่ปรากฏร่วมกับคำว่า โคตร คือ ชั่วโคตร หมายถึงทั้งวงศ์สกุล ทั้งเผ่าพันธุ์
ในสมัยก่อนถ้าทำความผิดร้ายแรง อาทิ เป็นกบฏต่อแผ่นดิน จะต้องถูกริบราชบาตรแล้วให้ประหาร "เจ็ดชั่วโคตร" เช่น
"...แม้นใครย่อท้อปัจจามิตร
กูจะล้างชีวิตให้อาสัญ
ทั้งเจ็ดชั่วโคตรกุมภัณฑ์
ให้สาใจมันไอ้อัปรีย์
(รามเกียรติ์ รัชกาลที่ ๑)
"...จึ่งมีพระโองการตรัสสั่งกับนายเพชฌฆาฏ ให้เอาเสนามอญ เหล่านี้กับทั้งเจ็ดชั่วโคตรด้วยกันทั้งสิ้น ให้เอาไม้ลำทำตับเข้า แล้วให้ปิ้งเพลิงเสียทั้งเจ็ดชั่วโคตร แล้วให้ทำพลีกรรมเทวดา..."
(คำให้การขุนหลวงหาวัด)
“พระไอยการกระบดศึก” ในกฎหมายตราสามดวง ระบุโทษที่ต้องฆ่าทั้งโคตรและถูกฆ่าเจ็ดชั่วโคตรไว้หลายมาตรา เช่น กบฏ หนีทัพ
โบราณว่าคนหนึ่งมีญาติสายตรง ๑๒ ชั่ว นับแต่ เทียด ทวด ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ เจ้าตัว ลูก หลาน เหลน โหลน (ลื่อ) ลี้ ลืบ และลืด ถ้ารวมสาขาญาติก็จะได้ถึง ๓๒ ชั้น
เจ็ดชั่วโคตร หมายถึงวงศ์สกุลที่สืบสายโลหิตซึ่งนับตั้งแต่ตัวเองขึ้นไป ๓ ชั้น
คือ ชั้นพ่อ ชั้นปู่ และชั้นทวด
กับนับจากตัวเองลงมาอีก ๓ ชั้น
คือ ชั้นลูก ชั้นหลาน และชั้นเหลน
รวมเป็นเจ็ดชั่วโคตร ไม่นับผู้หญิงรวมด้วย
สันนิษฐานว่าผู้หญิงนับรวมอยู่ในราชบาตรจึงไม่ถูกประหาร
เรียกได้ว่าฆ่าทิ้งจนสิ้นโคตรสิ้นวงศ์ไม่ให้หลงเหลือเป็นเสี้ยนเป็นหนามแก่แผ่นดินได้
กว่าจะเกิดเป็นคนได้นั้นแสนยากเย็น เกิดมาแล้วต้องถูกฆ่าตายง่ายๆ เพราะการกระทำของคนอื่นทำนองต้อง "รับผิดชอบร่วมกัน" จึงเจ็บปวดนัก
ดังนี้อาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งจึงสั่งความกับผมเสมอว่า
"เห็นใครเปล่งบุญญาบารมีอย่าผลีผลามไปนับญาติ เดี๋ยวจะติดหลังแหไปด้วย"
และข้อเค้าหนึ่งที่ผมจำไปกำชับกับลูกศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าก็คือ
“—-อย่าให้ถึงกับต้องประหารเจ็ดชั่วโคตร”
“โคตรก็โคตรผม--” ลูกศิษย์เลือดร้อนคนหนึ่งแย้ง
“ก็ถ้าโคตรตัวเองไม่ครบเจ็ด เขาเอาครูด้วยน่ะสิ!!!”
ปรัชญา ปานเกตุ เขียนเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
#ศัพทาธิบาย #ศัพทานุกรม #ศัพทานุกรมวัฒนธรรมไทย #Lexicon of Thai Culture #ศัพทานุกรมวรรณคดีไทย # Lexicon of Thai Literature #วรรณคดี #วรรณกรรม #ประวัติศาสตร์ #ศิลปวัฒนธรรม #ขุนช้างขุนแผน #รามเกียรติ์ รัชกาลที่ ๑ #คำให้การขุนหลวงหาวัด #โคตร #โคตรเหง้า #โคตรเหง้าบรรพชน #โคตรเหง้าเหล่าปราน #โคตรเหง้าเหล่ากอ #โคตรเหง้าศักราช #โคตรเหง้าเหล่าศักราช #โคตรเค้าเถ้าแก่ #เจ็ดชั่วโคตร
ขอบคุณภาพจาก
pixabay.com
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย