22 พ.ค. 2021 เวลา 12:56 • สุขภาพ
วัคซีนจากใบพืชสู้โควิทฝีมือคนไทย 👏
ในอนาคตเราอาจส่งออกไปขายกับเค้าบ้างก็ได้นะคะ ใครจะรู้ 🤓👍
วัคซีนโควิท จากใบพืช ของ ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกรรมการ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด สตาร์ตอัพไบโอเทค ผู้คิดค้นวัคซีนป้องกันโควิดจากใบพืชแห่งแรกในประเทศไทย
ได้กล่าวว่า ขณะนี้การพัฒนาวัคซีนโควิดของไทยอยู่ระหว่างการเตรียมทดลองในคนระยะที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 2564 และคาดว่าจะผ่านการทดลองในคนระยะที่ 2-3 และพร้อมให้คนไทยฉีดได้ตามเป้าภายในไตรมาส 4 ปี 2564 หรือไตรมาสแรกปี 2565
.
วัคซีนป้องกันโควิด ผลิตจากพืชใบยาสูบโดยใช้เทคโนโลยีนำโปรตีนจากพืชมาสร้างเลียนแบบไวรัส ซึ่งจุดเด่น คือ มีการทำมานานแล้วกับยาหรือวัคซีนชนิดอื่น ๆ ทำให้มีความปลอดภัยสูง ประกอบกับการจัดเก็บค่อนข้างง่ายในอุณหภูมิ 2-8 องศา ควบคู่กับการพัฒนาวัคซีนโควิดอีก 8 สายพันธุ์ เพื่อรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิดที่แพร่กระจายได้เร็วขึ้นและอยู่กับคนได้นานขึ้น ซึ่งกลายมาเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกเผชิญอยู่
.
และแม้นักวิจัยสามารถคิดค้นวัคซีนต่าง ๆ ขึ้นได้ แต่ก็มักจะติดปัญหาระบบนิเวศการทดลองในไทยไม่เอื้ออำนวย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยแทบไม่เคยคิดค้นหรือทำยาหรือวัคซีนขึ้นเอง
ดังนั้น บริษัทจึงใช้งบประมาณลงทุนราว 150 ล้านบาท เร่งพัฒนาและปรับปรุงสถานที่ผลิตวัคซีน บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร เพื่อให้รองรับการผลิตได้ราว 5 ล้านโดสต่อเดือน คาดแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้
.
โดยเคาะราคาวัคซีนอยู่ที่ไม่เกิน 500 บาทเป็นราคาทุน เพื่อขายในช่วงแพร่ระบาดให้แก่ภาครัฐและเอกชน พร้อมกับส่งออกไปขายต่างประเทศ หากปริมาณวัคซีนในประเทศมีเพียงพอแล้ว เพราะยิ่งผลิตมากขึ้นเท่าไร ราคายิ่งถูกลงอีก นอกจากนี้ ยังพัฒนาสินค้าอื่น ๆ เช่น ยารักษาโควิด เซรุ่มแก้พิษงู ยารักษามะเร็ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในสัตว์ หากทำสำเร็จจะช่วยให้ไทยลดภาระการนำเข้ายาราคาแพงจากต่างประเทศได้ พร้อมกับส่งเสริมการส่งออกยาไปในตัวสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่มีสถานที่ผลิต และเข้าไม่ถึงยาบางชนิด
ทั้งนี้ ผศ.ภญ.ดร.สุธีรามองว่า ในระยะสั้นจนถึงระยะกลางควรเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ส่วนในระยะยาวนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมไบโอเทคของไทย ที่จะสนับสนุนให้เกิดการวิจัยต่อยอดนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อผลิตยาหรือวัคซีนไว้ใช้ได้เองภายในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยนำเข้ากลุ่มยาและเวชภัณฑ์จากต่างประเทศหลักหมื่นล้านบาท หากทำสำเร็จจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ และสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศได้เมื่อเกิดกรณีการแพร่ระบาดอื่น ๆ ขึ้นอีก
ดีงามรามณรงค์ อ่านแล้วดีต่อใจ จังค่ะ😍
ขอบคุณ ภาพ และ ข้อมูลจาก Green Solution future Living , TRUTHFORYOU.CO
เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
โฆษณา