24 พ.ค. 2021 เวลา 00:30 • การตลาด
ROLEX เกิดที่อังกฤษเจ้าของเป็นคนเยอรมันแต่ไปโตที่สวิสเซอร์แลนด์
ที่มา  www.officialwatches.com
หากนึกถึงนาฬิกาสุดหรูหรามีอายุมาอย่างยาวนานเชื่อว่าน่าจะมีหลายๆคนคงนึกถึงโรเล็กซ์ (ROLEK) นาฬิกาสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อยู่อย่างแน่นอน ที่ทรงคุณค่าทั้งเรื่องคุณภาพที่มีความทนทานสูง มีความเที่ยงตรง โรเล็กซ์เคยได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร บิสซีเนสวีค (Businessweek) ให้ติดอันดับ 71 จาก 100 แบรนด์ทั่วโลก ว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาชั้นนำและเป็นสินค้าหรูหรา (Luxury) (ข้อมูลปี ค.ศ. 2007) ที่สำคัญคือยังมีคุณค่าทางจิตใจกับผู้ที่ได้ครอบครอง เป็นที่หมายปองของสุภาพบุรุษทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ที่มาของนาฬิกาหรูของโลกรายนี้ไม่ได้ใช้ชื่อ ROLEX มาแต่แรก และก็ไม่ได้ถือกำเนิดที่สวิสเชอร์แลนด์ เริ่มต้นมาจาก HANS WILSDORF ซึ่งเกิดที่ประเทศเยอรมัน ในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) หรือ 140 ปีที่ผ่านมา ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เขาเป็นบุตรชายคนที่ 2 ของครอบครัวมีพี่ชายและน้องสาว พ่อและแม่ได้เสียชีวิตไปในช่วงเวลาที่ทั้ง 3 คนยังเป็นเด็ก ต่อมาก็ได้รับการเลี้ยงดูคุณลุงของเขา
ที่มา  The SMM Agency - The Business Behind Your Business
HANS WILSDORF เป็นคนที่เก่งในเรื่องของวิชาคำนวณที่เข้าขั้นอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เมื่อเขาเรียนจบจึงได้มีโอกาสไปฝึกงานกับบริษัทส่งออกอัญมณี ช่วงเวลานั้นเขาก็ได้มีโอกาสไปทำงานที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และได้สังเกตุเห็นว่านาฬิกาที่ผลิตจากประเทศนี้ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าสูงกว่าที่ผลิตจากประเทศอื่น จึงเป็นสาเหตุให้เขาสนใจที่จะศึกษาอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา
ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกตและชอบเรียนรู้ ในระหว่างที่ศึกษาก็ได้พบปัญหามากมายของวงการนาฬิกา อย่างเช่น นาฬิกาในสมัยนั้นมักจะมีรูปแบบเดียวคือใช้สายคล้อง เมื่อเวลาที่อยากจะดูเวลาก็ต้องหยิบออกมาจากกระเป๋าหรือเสื้อ แม้ว่าในช่วงนั้นจะมีนาฬิกาข้อมืออยู่บ้าง แต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ในเวลานั้นมักทำเป็นของเล่นมากกว่า เพราะไม่สามารถใช้งานได้จริงและไม่มีความทนทาน
เขาจึงได้เห็นช่องว่างทางการตลาดจากปัญหาที่พบ ในสมัยนั้นยังไม่สามารถทำนาฬิกาขนาดเล็กได้ ด้วยกลไกที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องของความทนทาน เรื่องของแบตเตอรี่ และเรื่องที่สำคัญมากที่สุดก็คือความเที่ยงตรง ในสมัยนั้นส่วนมากแล้วต้องใช้วิธีไขลาน หากไขลานอ่อนไปนาฬิกาก็เดินช้าทำให้เวลาไม่ตรง ในทุกๆครั้งที่เดินผ่านหอนาฬิกาของเมืองทุกคนก็จะต้องนำนาฬิกามาปรับเวลา
ที่มา everypixel.com
โจทย์ใหญ่ของเขาก็คือ นาฬิกาที่ผลิตโดยทั่วไปมีขนาดใหญ่ยังมีปัญหาเรื่องของความแม่นยำและเที่ยงตรงของเวลา หากมาทำเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีขนาดเล็กลงจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น เขาจึงได้มุ่งมั่นทุมเทในการคิดค้นเพื่อที่จะสร้างนาฬิกาข้อมือออกมาให้ได้ แต่ในระหว่างนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี เขาจึงถูกเรียกตัวไปเกณฑ์ทหาร จึงทำให้เขายังไม่ได้เริ่มธุรกิจของตนเอง
หลังจากที่ปลดประจำการทหารในวัย 24 ปี เขาจึงได้กลับมาสานต่อความฝันของเขา เขาได้ก่อตั้งบริษัทขื่อ Wilsdorf and Davis โดย Hans Wilsdorf และ Alfred Davis ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448) ซึ่ง Alfred Davis ก็คือน้องเขยของเขาที่มาร่วมลงทุนด้วยกัน
ที่มา Twitter
ช่วงที่เริ่มต้นในการผลิตเขาก็ได้ว่าจ้างบริษัทผู้ผลิตตัวเรือนนาฬิกาที่เป็นผู้ผลิตให้หลายๆแบรนด์ แต่ก็พบว่าคุณภาพที่ออกมาไม่ดีนัก หลายๆแบรนด์ก็นำตัวเรือนที่ได้มาดัดแปลงบางส่วนแล้วประทับตราเป็นของตนเอง ภาพโดยรวมของตลาดในช่วงเวลานั้นจึงมีนาฬิกาที่ไม่มีคุณภาพ
Hans Wilsdorf จึงได้นำเสนอให้มีการปรับปรุงกับผู้ผลิตตัวเรือนรายนี้ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจนักเพราะบริษัทของเขาก็ยังเป็นผู้จำหน่ายรายเล็กๆอยู่ในขณะนั้น เขาจึงตัดสินใจเลิกทำธุรกิจกับผู้ผลิตตัวเรือนรายนี้ แล้วหันมาออกแบบและคิดค้นวิธีการผลิตตัวเรือนของตัวเอง รวมทั้งออกแบบกลไกนาฬิกาของตนเองด้วย
ไม่นานเขาก็สามารถออกแบบและผลิตได้สำเร็จ ทำให้เขาเป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาแบบครบวงจร ทั้งระบบกลไกภายในและตัวเรือนของนาฬิการวมถึงหน้าปัด หลังจากนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็นชื่อที่เขาตั้งใจว่าจะใช้สะกดตัวตัวอักษรไม่กี่ตัว จึงกลายมาเป็นชื่อ ROLEX ในที่สุด
ที่มา https://style.katexoxo.com/
ความตั้งใจของเขาก็คือต้องผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกให้ได้ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดของคุณภาพของนาฬิกาก็คือความเที่ยงตรง เพราะนาฬิกาในสมัยนั้นยังขาดเรื่องนี้
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ออกแบบและผลิตนาฬิกาที่เขามั่นใจว่าดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลเขาจึงได้ส่งนาฬิกาขของเขาให้สถานบันต่างๆทดสอบและออกใบรับรองให้ ซึ่งก็ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่องของความเที่ยงตรงของนาฬิกา จาก Official Watch Trading Center ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทำให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในฐานะนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรง
ที่มา  Pinterest
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เขายังคิดค้นพัฒนานวัตรกรรมใหม่ๆขึ้นมา ทั้งการออกแบบตัวเรือนให้กันน้ำกันฝุ่น และเขาก็ได้ออกแบบสิ่งที่เป็นต้นแบบของนาฬิกาในโลกคือ การออกแบบเม็ดมะยมแบบเกลียวที่เป็นเอกลักษณ์ของโรเล็กซ์
ในช่วงปี ค.ศ. 1919 ประเทศอังกฤษได้ทำการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญากับหลายประเทศ เพราะเป็นช่วงที่เข้าสู่ช่วงสงครามโลกอีกครั้ง ทำให้ Hans Wilsdorf ต้องเจอกับปัญหาใหญ่คือภาษีนำเข้าที่มีอัตราสูงมาก เขาจึงได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
Montres Rolex S.A. กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มา https://style.katexoxo.com/
ROLEX ได้ผลิตนาฬิการุ่นที่ทำให้ได้รับชื่อเสียงอย่างถล่มทลายเลยก็คือ รุ่น Oyster เป็นการออกแบบที่สามารถกันน้ำได้ 100% ซึ่งทาง ROLEX ได้ทำการนำเสนอว่า เป็นนาฬิการุ่นที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีการผลิตนาฬิกา
Hans Wilsdorf ได้เสียชีวิตลงในวัย 79 ปี เขาคือคนที่ทรงคุณค่าของวงการนาฬิกาของโลกคนหนึ่ง
ที่มา www.rolex.com
จากเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงการเป็นนักการตลาดที่แท้จริงของ Hans Wilsdorf เพราะเขามีเป้าหมายในการทำธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้คนจำนวนมาก ที่เป็นสัจจะธรรมของการทำการตลาดอย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้วเขายังรู้ดีว่าการที่จะให้มีการยอมรับอย่างกว้างขวางนั้น ไม่ใช่การที่ตัวเขาเองเป็นคนบอกต่อชาวโลกว่าเขาคือผู้ผลิตนาฬิกาที่ดีที่สุด แต่เขาให้สถาบันต่างๆพูดแทนเขาและให้ลูกค้าผู้ใช้สินค้าเป็นผู้พูดแทนเขาด้วย
ที่มา www.rolex.com
Hans Wilsdorf ที่นอกจากจะเป็นต้นแบบของนวัตรกรรมการผลิตนาฬิกาชั้นยอดของโลกแล้ว เขายังเป็นนักการตลาดที่สุดยอดของโลกคนหนึ่งด้วย
อ้างอิง
YouTube NopPongsatorn: Rolex ทำธุรกิจ จนมีวันนี้ได้อย่างไร | EP.288
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพที่มีการรับรองจากเอกสารทางการแพทย์แล้ว
ติดต่อได้ที่
สนใจตัดต่อคลิปวีดีโอ
สามารถติดต่อได้ที่: Inbox หรือที่ Email sarayuth407@hotmail.com
โฆษณา