Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Hillbilly Invester
•
ติดตาม
25 พ.ค. 2021 เวลา 03:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ
"มีเงินเรียกว่าน้อง...มีทองเรียกว่าพี่"
เรามักจะได้ยินคำกล่าวนี้เสมอ ทองคำมีบทบาทในประเทศไทยมาอย่างช้านาน หลายคนจึงนิยมสะสมทองคำเป็นทรัพย์สิน หากมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งแล้วไม่รู้จะลงทุนอะไร ก็จะซื้อทองคำเก็บไว้
เรามักจะเห็นคนเต็มร้านทองในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่นปีใหม่ ตรุษจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมซื้อให้เป็นของขวัญ กับตัวเอง หรือญาติ และใช้เป็นสินสอดในการแต่งงาน หรือซื้อเก็บไว้สะสมลงทุน และสินทรัพย์ที่คนส่วนใหญ่มักจะเก็บ จะอยู่ในในรูปแบบเงินฝาก กับทองคำ
ภาพจาก: www.posttoday.com
หากมาศึกษาเรื่องการจัดพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ตราสารหนี้ พันธบัตร หุ้น ทองคำ แม้ว่าทองคำจะสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ แต่ความเหมาะสมที่ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนแนะนำคือ เราควรมีทองคำในพอร์ตประมาณ 10-20% เนื่องจากทอง จัดอยู่ในสินทรัพย์โภคภัณฑ์ มีการขึ้นลงเป็นรอบๆ ตามสภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนในทอง โดยส่วนใหญ่จะไม่มีการจ่ายปันผล และดอกเบี้ย
"แล้วเราจะลงทุนทองอย่างไรดี"
การลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายรูปแบบซึ่ง ในแต่ละแบบก็จะมี ข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปก็จะมีการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1.ลงทุนในทองคำแท่ง
ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงเนื่องจากทองคำแท่งก็จะขายตั้งแต่ 1 บาท 5 บาท 10 บาททองคำ เหตุผลที่เราควรลงทุนในทองคำแท่ง เพราะว่าหากเราลงทุนในทองรูปพรรณ จะมีค่าจ่ายในส่วนของค่ากำเหน็จหรือค่าแรงเข้ามาเพิ่ม แต่การลงทุนในทองคำแท่งก็จะมีปัญหาในเรื่องของความปลอดภัย การจัดเก็บรักษา
2.ลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ
อาจจะมีค่าธรรมเนียมในการจัดการ และอัตราเเลกเปลี่ยน เข้ามาเกี่ยวข้องถ้าไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศ แต่ว่ามีข้อดี คือสามารถซื้อได้โดยจำนวนเงินที่น้อยและไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของการเก็บรักษาทองคำ และสามารถทำการซื้อขาย ได้สะดวก ผ่าน App. ในโทรศัพท์มือถือ
3.ลงทุนใน Gold future
อันนี้มันเป็นการลงทุนที่มีความซับซ้อนนิดนึง ซึ่งผู้ลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจ และมีความรู้ในการลงทุนระดับนึง ก็สามารถเข้าไปลงทุนได้ และใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงได้ในช่วงที่ตลาดเป็นขาลง
"เราควรซื้อทองตอนไหน"
กราฟ Gold future จาก App.aspen
ทองคำมีรูปการขึ้นลง เหมือนสินทรัพย์โดยทั่วไป หากเราไปซื้อตรงยอดดอย แล้วเกิดเป็นขาลงก็อาจจะติดดอยได้ บางครั้งรอบขาลงกินเวลาเป็นปี หรือหลายปี หากลงทุนอาจจะซื้อสะสมในช่วงที่ราคาย่อตัว หรือซื้อแบบถัวเฉลี่ยสะสม DCA ( dollars cost everaging) จะช่วยลดความเสี่ยงของช่วงราคาได้ หากเข้าไปเก็งกำไร ก็อาจจะซื้อตามกราฟเทคนิคเช่น เบรคทะลุแนวต้าน เข้าเก็งกำไรในตลาดขาขึ้น (Up trend) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการเข้าเก็งกำไรของแต่ละคน
ข้อมูลตรงนี้อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่ผู้ที่สนใจลงทุนในทองคำ อย่างไรก็ตามการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆก็มีทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงคู่กันเสมอ เราก็ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนเข้าไปลงทุน
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย