การมองโลกในเเง่บวกไม่ใช่การมองโลกให้สวยงามขึ้นเพียงอย่างเดียวแต่มันคือการมองเข้าไปที่ใจข้างในของตัวเองว่ามีความโกรธเกลียดชั่งมากแค่ไหน
ถ้าเราสามารถมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเองนั้นให้มันเห็นเเต่เพียงความจริงที่สวยงามได้เเล้วเมื่อไหร่เมื่อนั้นมันจะทำให้โลกทั้งใบสดใสไปพร้อม ๆ กับหัวใจของเราเองไม่ใช่เเค่โลกสวยเมื่อที่เราได้ยินกัน
เคยมีคนถามว่ามันเป็นการหลอกตัวเองหรือเปล่า
งั้นลองคิดดูว่าเราเคยหลอกตัวเองหรือป่าวเวลาที่เราอยากได้อะไรหรือเวลาที่เราไม่สบายใจเราหลอกตัวเองเพื่อะไร ?
สรุปมันคือการหลอกตัวเองป่าว มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่ตอบคำถามนี้ได้เหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเมื่อรู้แล้วก็รู้ว่ารู้แล้วเป็นปัจจัตตัง รู้ได้ด้วยตัวเอง
แล้วถ้ามีคนสักกึ่งหนึ่งของโลกมองสิ่งใดก็ขวางหูขวางตาไปหมดอยากจะปรับอยากจะเปลี่ยนไปซะทุกอย่างที่เห็นเราชอบไหม ?... แล้วถ้าเราก็เป็นแบบนั้นเเต่ไม่รู้ตัวเองเหมือนเค้าล่ะจะมีคนชอบไหมแล้วโลกนี้ล่ะที่ไม่เคยตอบโต้ใคร ๆ ทั้งสิ้นจะถูกปรับถูกเปลี่ยนไปอีกมากมายแค่ไหนแล้วถ้าคนกลุ่มนี่มาอยู่ในที่เดียวกันล่ะโลกจะต้องถูกปรับเปลี่ยนไปมาตลอดเวลาแล้วที่เราบอก ๆ กันว่าโลกเปลี่ยนตลอดเวลานั้นคือเรื่องจริงมั้ยแล้วคนเราล่ะก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกเปลี่ยนเร็วขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ?
ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนให้คนทุกคนเป็นเหมือนดั่งใจของตัวเองได้ถ้าจะทำได้ก็คงเหมือนตักน้ำไปเติมทะเลให้เต็มได้ซึ่งไม่รู้เหมือนไหร่ สิ่งที่เราทำได้มีเพียงตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและเข้าใจผู้คนให้มากว่าทุกคนล้วนเกิดเหมือนกัน หิวเหมือนกัน ง่วงเหมือนกัน แก่เหมือนกัน ทุกข์เหมือน ๆ กัน และสุดท้ายก็ตายเหมือนกัน เราทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น เพื่อนเกิดเพื่อนเเก่เพื่อนเจ็บเพื่อนตาย
ขอเพียงทำดีต่อกันมองเห็นความสุขของกันเเละกันเข้าใจกันมากขึ้นช่วยเหลือกันมากขึ้นในวันที่ยังมีลมหายใจ คนเราเกิดมามีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เราเดินทางบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขที่และสุดท้ายชีวิตที่เเท้จริงคือการ “แบ่งปัน”เท่านั้น
การแบ่งปันเท่านั้นทำให้เรารอดไปด้วยกัน
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบร่วมแบ่งปันข้อคิดดี ๆ เพื่อส่งต่อซึ่งกันเเละกันต่อ ๆ ไปไม่รู้จบเพราะนี้คือการแบ่งปันความสุขตาอไป
“โอ้เย้เบบี้”เล่าให้ฟัง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
