25 พ.ค. 2021 เวลา 05:46 • ท่องเที่ยว
Mystical Mrauk U .. Htukkanthein Temple
เมืองมรัคอู .. เต็มไปด้วยศาสนสถานและโบราณวัตถุ หากแต่ภาพชีวิตประจำวันของคนในพ.ศ.นี้ก็เข้ามาคละเคล้าอยู่ในภาพนี้ด้วย เหมือนจิตรกรจงใจวาดให้ภาพของ 2 ภพชาติมาอยู่ในเวลาเดียวกัน
หลังจากปีนป่าย เตร็ดเตร่ เพลิดเพลินจนลืมเวลา สนุกสนานได้อรรถรสกับวัดหินทรายกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว เรามารวมตัวกันอีกครั้งที่ลานด้านหน้าของปราสาท ..
ที่นี่ไม่มีร้านค้าให้เป็นสีสันและที่พึ่งของนักท่องเที่ยวยามหิวกระหาย .. ไกด์ของเราจึงเตรียมการณ์ และพาเรามาลองทาน “ขนมจีนพม่า”… กินกันพลาง ชมภาพของวัดต่างๆไปพลาง จนอิ่มหมีพีมันกันตามๆกัน
หลังวัดชิตตอง และด้านของของร้านขนมจีน เป็นที่ตั้งของวัดทุกข์ขัน .. ภาพของเด็กชายชาวมรัคอูที่กำลังสาวเชือกที่ผูกติดกับกระป๋องน้ำ เพื่อตักน้ำจากบ่อน้ำ โดยมีวัดแห่งหนึ่งเป็นฉากหน้า เสริมให้ภาพน่าสนใจ
ภาพที่อยู่ตรงหน้า ดึงดูดสายตาให้ฉันเข้าไปใกล้และเชิญชวนให้กดชัตเตอร์ของกล้องรัวๆ
ระบบกษัตริย์ของมรัคอูดูเหมือนจะเป็นความจำเป็นสำหรับอาณาจักรยะไข่ในยุคนั้น .. .. กษัตริย์โบราณเป็นผู้นำของชุมชน เป็นผู้ดูแล เป็นตัวแทนของเทพเจ้า .. ซึ่งเชื่อว่าหากมนุษย์ดูแลทะนุบำรุงศาสนา บุญกุศลก็จะส่งผลให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
วัดทุกขันธ์เทียน (Htukkanthein) สร้างในปี พศ. 2113 ในรัชสมัย พระเจ้า มง พาลอง [Mong Phaloung] ซึ่งเป็น โอรสของพระเจ้า มง บา จี [Mong Ba Gree] ผู้สร้างวัด Shite Thaung … พระองค์เป็นน้องของ พระเจ้า มง เทียกกา [Mong Taikka] ผู้สร้าง Ko Thung วัด 90,000
ยามบ่ายของมรัคอู มิได้ร้อนน้อยกว่าในกรุงเทพฯเลย กลับจะร้อนยิ่งกว่า เพราะโลเคชั่นอยู่ในที่โล่ง
เราลงจากรถที่จอดอยู่ที่ลานจออรถเทียบเชิงบันไดทางขึ้นกันเลยทีเดียว
ในสายตาของฉัน … วัดแห่งนี้มัลักษณะทางสถาปัตยกรรมคล้ายกับป้อมทางทหาร การสร้างมีลักษณะยกให้เหนือพื้นดินค่อนข้างมาก มีทางขึ้นสูงชันทีเดียว และเป็นขึ้นทางเดียว
ว่ากันว่า … หินและอิฐที่นำมาสร้างวัดแห่งนี้เป็นส่วนที่เหลือมาจากการสร้างวัดชิตตุง นั่นเอง
จากความเห็นของ Dr. Emil Forchhammer นักโบราณคดีชาวอังกฤษ… วัดแห่งนี้อาจจะเป็นที่หลบภัยสำหรับพระสงฆ์และชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธในช่วงที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงคราม
มองจากภายนอก วัดนี้มีลักษณะเป็นโดมเหมือนดอกเห็ดขนาดใหญ่ด้านบน .. มีเจดีย์ขนาดเล็กลงมาที่มุมทั้งสี่ด้าน
วัดเจดีย์เก้าหมื่น ... มองจากลานของระเบียงด้านบนของวัดทุกข์ขันเทียน
วัดทุกขันธ์เทียน มีอุโมงค์ด้านใน เป็น Chamber อยู่ 3 ส่วน เรียงตามเข็มนาฬิกาเข้าสู่ด้านใน .. แต่ละส่วนจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ซึ่งรวมแล้วมีจำนวนถึง 180 องค์ (179 องค์เป็นพระพุทธรูปขนาดเล็ก และอีก 1 องค์เป็นพระประธานที่อยู่ด้านในสุด)
ภายในทางเดิน … มีภาพแกะสลัก ตัววิหารเลย์ยาตนะ (Laymyetnha) สร้างในปี พศ. 1973 โดยกษัตริย์ Min Saw Mon เป็นจตุรัสวิหารทรงแปดเหลี่ยม ตามผนังมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดเล็ก และมีรูปปั้นหญิงที่เกล้าผมมวยในแบบต่างๆที่แตกต่างกัน .. ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างยุคแรกๆของมรัคอู
ฉันหยุดชื่นชมกับความอลังการของแนวอุโมงค์หิน และประติมากรรมรูปสลัก ... รูปหญิงยะไข่ที่มีมวยผมในแบบต่างๆ ดูงามและสำรวมสมกับเป็นนางในของกษัตริย์ …
รูปหญิงเหล่านี้ ที่แตกต่างจากเหล่านางอัปสรรูปร่างอ้อนแอ้นในเปลวแดดของนครวัด
อุโมงค์ตรงกลาง จะมีพระพุทธรูปหันหลังติดกันกับอุโมงค์ช่วงแรก
ที่ด้านข้างของโดมที่อยู่ตรงกลาง ได้รับการออกแบบให้มีหน้าต่างบานเล็ก .. ในช่วงเวลาเช้าตรู่แสงอาทิตย์จะสาดส่องมากระทบกับองค์พระประธานที่อยู่ด้านในตรงกลางของเจดีย์พอดี
ด้านข้าง มีห้องสำหรับนั่งสมาธิ .. ห้องเหล่านี้ จะเห็นเป็นส่วนที่ต่อเนื่องออกมาจากเขตของเจดีย์ใหญ่ในภาพด้านบน
Bay Mye Thana Temple
เส้นทางแห่งนี้ไม่ได้แห้งแล้งในความรู้สึก เนื่องจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย พร้อมด้วยรอยยิ้มของชาวบ้านที่กระจายแจกจ่ายอยู่ในรายทาง
ฉันเข้าใจว่าวัดและเจดีย์ที่กษัตริย์สร้าง กับวัดที่เสนาบดีสร้างจะต่างกันที่ฐาน … วัดที่กษัตริย์สร้างจะสร้างอยู่บนฐานที่ทำเป็นชั้นสูง หรือสร้างบนเนินเขา ดังเช่นที่วัดชิตตอง วัดโกตอง วัดทุกข์ขันเทียน
ส่วนวัดที่สร้างโดยคนอื่น จะสร้างวัดบนเนินดิน อาจทำเป็นฐานเตี้ยๆ ยกพื้นขึ้นเพื่อรองรับตัววัดหรือปราสาทเท่านั้น
วัด Bay Mye Thana แห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวัดทุกข์ขันธ์เทียน สร้างโดยโดย King Min Saw Mon และวัดปิดแล้วในช่วงเวลาที่เราไปถึง จึงไม่มีภาพด้านในมาฝาก ได้แต่ไหว้ขอพรพระจากด้านนอก .. แต่จากการค้นคว้า ทราบมาว่าเป็นเจดีย์ที่มีทางเข้า 4 ด้าน
ด้านในมีพระพุทธรูปใหญ่อยู่ทั้ง 4 ด้านรอบแกนเสาหลัก โดยมีพระพุทธรูปขนาดเล็กลงมารายล้อมอยู่อีกด้าน 8 องค์
Le-myet-hna Temple
เดินไกลออกมาเห็นวัด Lay-myet-nha ในมุมกว้าง วัดนี้สร้างในค.ศ. 1430 โดย King Saw Mwan
ด้านในมีพระพุทธรูปใหญ่อยู่ทั้ง 4 ด้านรอบแกนเสาหลัก … ผนังรอบๆมีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่ตลอดแนวค่ะ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา