25 พ.ค. 2021 เวลา 10:18 • การศึกษา
รีวิว ความแตกต่างระหว่าง ตำแหน่ง Production Engineer / Process Engineer / IE Engineer
ภาพจาก: Pixabay / Ziaur Chowdhury
หลายๆ คน มีความสับสน เกี่ยวกับ หน้าที่การทำงานของ Production Engineer และ Process Engineer และ IE Engineer ว่ามีหน้าที ทำงานอะไรกันแน่ มีขอบเขตความรับผิดชอบแค่ไหน รายละเอียดของงาน มีอะไรบ้าง เดี่ยวผมจะมาเคลียร์ให้ชัดเจนให้ทุกๆ คนรู้กันว่า ในแต่ละตำแหน่งงานนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่น ผมขออธิบายความหมาย ของ ตำแหน่งงาน 3 ตำแหน่งนี้ก่อนแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ
Production Engineer แปลว่า วิศวกรการผลิต
Process Engineer แปลว่า วิศวกรกระบวนการการผลิต
Industrial Engineering Engineer แปลว่า วิศวกรโรงงาน หรือ วิศวกรอุสาหกรรม
ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publications
ซึ่งความหมายก็แตกต่างกันชัดเจนอยู่แล้วนะครับ คือ
Production Engineer แปลว่า วิศวกรการผลิต ก็คือ เป็นวิศวกรที่ทำหน้าที่ดูแลสายการผลิต ไม่ให้มีปัญหา ให้ได้ผลผลิตตามแผนงานที่วางไว้ โดยใช้ทรัพยากรที่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
Process Engineer แปลว่า วิศวกรกระบวนการการผลิต ก็คือ วิศวกรที่ดูแลกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ การควบคุม การดูแล และปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตให้ดีขึ้น โดยใช้ทรัพยากรที่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนมากจะเน้นไปทางด้าน Technical
Industrial Engineering Engineer แปลว่า วิศวกรโรงงาน หรือ วิศวกรอุสาหกรรม ก็คือ วิศวกรที่ดูแลระบบโรงงานอุตสาหกรรม คอยควบคุมดูแลมาตรฐาน ปรับปรุงพัฒนามาตรฐานการทำงานให้ดีขึ้น เช่น ลดเวลา ลดต้นทุน หรือ คอยควบคุมดูแล พนักงานได้ทำงานตามารตรฐานหรือไม่ คอยดูแลสอบถามพนักงาน เกี่ยวกับปัญหาการทำงาน เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไขพัฒนามาตรฐานการทำงานต่อไป รวมไปถึงสภาพแวดล้อมการทำงานด้วย
เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับว่า ขอบเขตการทำงานของแต่ละ ส่วนนั้น เป็นอย่างไรกันบ้างนะครับ
ภาพจาก: Pixabay / wilderjjss
Process Engineer และ IE Engineer จะเป็นหน่วยงานที่เริ่มทำงานตั้งแต่ ช่วงออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือ R&D Phase จนถึง Mass Production แล้ว บวกไปอีก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กรจะกำหนดขึ้นมา ส่วนใหญ่ ก็จะ 3 เดือน หลังจากนั้น Process Engineer และ IE Engineer ก็จะคอย support โดยการควบคุมดูแล และปรับปรุงพัฒนา เท่านั้น ส่วนผู้รับผิดชอบหลักๆ ก็คือ Production Engineer
ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publications
ต่อไปเรามาเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละส่วนงานกันนะครับ
Process Engineer มีหน้าที่หลักคือ การออกแบบกระบวนการการผลิต ออกแบบมาตรฐานกระบวนการการทำงาน และปรับปรุงพัฒนากระบวนการการผลิต โดย เริ่มตั้งแต่ ออกแบบ Layout ของโรงงาน ออกแบบการติดตั้งเครื่องจักร อุปกรณ์เครื่องมือ มาตรฐานการทำงานต่างๆ เช่น FMEA, Control Plan, Work Instruction, Procedure และ มาตรฐานอื่นๆ ทั้งหมด ในกระบวนการการผลิต โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปทางด้าน Technical โดย Scope ของความรับผิดชอบ จะเริ่มตั้งแต่ R&D จนถึง งานสามารถ Mass Production ได้ หลังจากนั้น Process Engineer ต้องคอย Support และ ปรับปรุงพัฒนา กระบวนการผลิตไปเรื่อยๆ ทั้งด้าน Quality Delivery และก็ Cost Down ซึ่งปกติแล้ว หน่วยงาน Process Engineer จะแบ่งงานการรับผิดชอบ ออกเป็นส่วนงานย่อย ตามองค์กร นั้นๆ ยกตัวอย่าง เช่น Casting, Machining, Assembly เป็นต้น
1
IE Engineer มีหน้าที่หลักคือ คอยช่วย Process Engineer ออกแบบ มาตรฐานการทำงาน ออกแบบ Layout แต่ของ IE Engineer จะเน้นไปในด้านการ ลดต้นทุน ลดเวลาการทำงาน และ คอยควบคุมดูแล ปรับปรุงพัฒนา มาตรฐานการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาการทำงานลง หรือเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น หรือบางที ก็ทำการลดจำนวนหนักงานลง นั้นเอง ส่วนมากจะเน้นไปทางด้านงาน Work Study มากกว่า โดย Scope ของความรับผิดชอบ ก็จะเหมือนกับ Process Engineer คือคอย Support Production Line นั้นเอง ปกติแล้ว IE Engineer จะไม่ได้แบ่งแยกย่อยออกไปตามส่วนงาน ส่วนมากจะเป็นหน่วยงานรวม หรือที่เรียกว่า Center คอย Support ทั้งโรงงาน หรือบางที่จะเรียกว่า หน่วยงาน Kaizen หรือ บางทีเรียกว่า Lean ทำการปรับปรุงพัฒนาทุกๆเรื่องในโรงงาน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเฉพาะ Production Line เท่านั้น
Production Engineer มีหน้าที่หลักคือ ควบคุมดูแล Production Line ให้มีความ Smooth ยอดผลิตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่มี Breakdown หรือหยุดการผลิต คอยแก้ไขและ support ปัญหา ใน Production Line เช่น ปัญหาคุณภาพเล็กๆน้อยๆ เครื่องจักรเสียเล็กๆน้อยๆ ออกแบบ Jig หรือ Fixture เพื่อช่วย ปรับปรุงให้พนักงานทำงานง่ายมากขึ้น คอยดูแลความปลอดภัย ของพนักงาน ทำการลดต้นทุนในการผลิต ปรับปรุงพัฒนา Production Line ให้สามารถผลิตได้ จำนวนมากขึ้น ภายใต้ต้นทุนที่ลดลงหรือเท่าเดิม และเวลาลดลง ในกรณีที่เจอปัญหาใหญ่ๆ Production Engineer ต้องแจ้ง Process Engineer เข้ามา Support และทำการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดย Scope ของความรับผิดชอบ ก็จะเริ่มจากงาน Mass Production ซึ่งปกติแล้ว หน่วยงาน Production Engineer จะแบ่งงานการรับผิดชอบ ออกเป็นส่วนงานย่อย ตามองค์กร นั้นๆ เหมือน Process Engineer ยกตัวอย่าง เช่น Casting, Machining, Assembly เป็นต้น
ภาพจาก: Pixabay / sawaeng wonglakorn
ผมขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆอีกครั้งนะครับ คือ
Process Engineer มีหน้าที่หลักคือ การออกแบบกระบวนการการผลิต ออกแบบมาตรฐานกระบวนการการทำงาน และปรับปรุงพัฒนากระบวนการการผลิต โดย เริ่มตั้งแต่ ออกแบบ Layout ของโรงงาน ออกแบบการติดตั้งเครื่องจักร อุปกรณ์เครื่องมือ มาตรฐานการทำงานต่างๆ โดยเน้น Technical เป็นหลัก หลังจากงาน Mass Production แล้วก็ต้องทำการ support production line ต่อไป
IE Engineer มีหน้าที่หลักคือ คอยช่วย Process Engineer ออกแบบ มาตรฐานการทำงาน ออกแบบ Layout แต่ของ IE Engineer จะเน้นไปในด้านการ ลดต้นทุน ลดเวลาการทำงาน และ คอยควบคุมดูแล ปรับปรุงพัฒนา มาตรฐานการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาการทำงานลง หรือเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น หรือบางที ก็ทำการลดจำนวนหนักงานลง นั้นเอง ส่วนมากจะเน้นไปทางด้านงาน Work Study มากกว่า
Production Engineer มีหน้าที่หลักคือ ควบคุมดูแล Production Line ให้มีความ Smooth ยอดผลิตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่มี Breakdown หรือหยุดการผลิต คอยแก้ไขและ support ปัญหา ใน Production Line ออกแบบ Jig หรือ Fixture เพื่อช่วย ปรับปรุงให้พนักงานทำงานง่ายมากขึ้น คอยดูแลความปลอดภัย ของพนักงาน ทำการลดต้นทุนในการผลิต ปรับปรุงพัฒนา Production Line ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
พอจะมองภาพความแตกต่างของ Production Engineer และ Process Engineer และ IE Engineer ออกมากขึ้นไหมครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้แก่หลายๆ คน นะครับ ขอบคุณมากๆ ครับผม
ภาพจาก: Pixabay / Ziaur Chowdhury
ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publications
ภาพจาก: Pixabay / wilderjjss
ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publications
ภาพจาก: Pixabay / sawaeng wonglakorn
โฆษณา