26 พ.ค. 2021 เวลา 04:27 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รวย..ด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น ที่คุณก็ทำได้!
คำถาม: มันจะทำได้จริงหรอ?
คำตอบ: จริง มาดูตัวอย่างง่ายๆนี้กัน แล้วมันจะทำให้คุณมองการเก็บเงินเปลี่ยนไปตลอดกาล!
พลังของดอกเบี้ยทบต้น
แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลยที่เราจะเป็นคนอายุ 20 กว่าๆในยุคเศรษฐกิจทุกวันนี้ที่ต้องหาเงินและดิ้นรนทำงานเพื่อให้ได้เงินมา แต่..เรานั้นมีสิ่งหนึ่งที่คนรุ่นพ่อและแม่เราที่เป็น Generation Baby Boomer นั้นอิจฉา.. นั้นก็คือ “เวลา”
หากคุณคือคนที่อายุยังไม่ถึง 35 ปี นั้นเท่ากับว่าคุณมีข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดเมื่อพูดถึงระยะเวลาของแผนการเงิน ระยะเวลานี้มันมากพอที่จะทำให้คุณมีอนาคตที่สดใส
แล้วสิ่งที่คุณต้องเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเวลาคืออะไร?
จำนวนการออมต่อเดือนนั้นมันก็สำคัญ แต่เรามาลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ก่อน ตัวอย่างนี้แสดงการเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจนว่าระยะเวลาที่คุณให้เงินทำงานนั้นมีผลอย่างมากเลยทีเดียว หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือยิ่งคุณเริ่มเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งดีต่อตัวคุณและอนาคตของคุณเท่านั้น
ตัวอย่างด้านล่างเปรียบเทียบนักลงทุน 3 คน
- ออมเงินเดือนละ 1,000 บาทเท่าๆกัน
- ระยะเวลาการออมนาน 10 ปีเท่ากัน
- หลังจากครบ 10 ปี ค้างเงินไว้ในพอร์ตจนอายุ 65 ปี เหมือนกัน
- ผลตอบแทนจากการลงทุน 7% ต่อปีเท่ากัน
ต่างกันเพียงข้อเดียวคือ “อายุที่เริ่มออมเงิน”
กราฟเปรียบเทียบดอกเบี้ยทบต้นและระยะเวลาในการทบต้น
คนที่ 1: เฮอร์ไมโอนี่
เธอออมเงินเดือนละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันเกิดปีที่ 25 ของเธอ เก็บทุกเดือนไปจนถึงอายุ 35 ปี
หลังจากนั้นเธอได้หยุดเติมเงินลงในพอร์ตนี้แล้วคงเงินไว้ในพอร์ตแบบนั้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ 7% ต่อปี จนถึงวันที่เธอเกษียณในอายุ 65 ปี
คนที่ 2: แฮร์รี่
หลังจากได้ใช้ชีวิตอย่างหน่ำใจแล้ว แฮร์รี่ก็เริ่มออมในช่วงอายุ 35 ปี ออมเดือนละ 1,000 บาท ไปจนถึงปีที่เขาอายุ 45 และคงเงินไว้ในพอร์ตเพื่อได้ผลตอบแทน 7% ต่อปี เพื่อใช้ในวันเกษียณตอน 65 ปี เช่นกัน
คนที่ 3: รอน
รอนได้กลับมาพบกับเพื่อนสองคนอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบจากโรงเรียนเวทมนต์ เขาได้มารู้ว่าเพื่อนๆได้มีการออมเงินเพื่อวันเกษียณ จึงไม่รอช้าที่จะเก็บเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม รอนเพิ่งมาเริ่มออมเงินในวัย 45 ปี เดือนละ 1,000 บาท ไปจนถึงอายุ 55 ปี ซึ่งก็เป็นเวลา 10 ปีเหมือนเพื่อนๆทั้งสอง และคงเงินไว้ในพอร์ตจนถึงอายุ 65 ปี เช่นทั้งสองคน และผลตอบแทนที่ 7% ต่อปีเช่นกัน
เฮอร์ไมโอนี่, แฮร์รี่,และรอน ต่างก็ออมเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 120,000 บาทเท่ากันและใช้ระยะเวลา 10 ปีเท่ากัน
สรุปเปรียบเทียบจำนวนเงิน ณ อายุ 65 ปี
จากตารางจะเห็นได้ว่าผลที่ได้คือแฮร์รี่และรอน มีเงินน้อยกว่าเฮอร์ไมโอนี่มาก โดยเฉพาะรอน
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราไม่ควรปล่อยเวลาผ่านไปเฉยๆ เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ และมีผลโดยตรงกับการลงทุนและการเก็บออมค่ะ
เห็นความแตกต่างอย่างนี้แล้ว หากใครสามารถที่จะออมได้มากกว่า 1,000 บาทต่อเดือนก็จะเป็นเงินก้อนใหญ่กว่าที่เฟอร์ได้เอามาเป็นตัวอย่างให้ดูนะคะ และออมไปเรื่อยๆค่ะไม่ต้องหยุดแค่ 10 ปีเหมือนในตัวอย่าง รับรองว่าในอนาคตเราทุกคนมีเงินก้อนใหญ่แน่นอนค่ะ
เรามาออมเงินไปพร้อมๆกันนะคะทุกคน !! 😊
หากเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัย หรืออยากที่จะพัฒนาการเงินของตัวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
สามารถคุยและติดตามได้ที่ช่องทาง 😊

โฆษณา