26 พ.ค. 2021 เวลา 16:22 • ครอบครัว & เด็ก
บันทึกของหมาอ้วน ตอนที่ 21 : ชัยชนะอันยิ่งใหญ่
พวกผู้ใหญ่คงไม่รู้หรอกว่า ชีวิตในวัยทารกมันลำบากมากแค่ไหน ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเด็กทารกน้อยที่ต้องนอนในรถเข็นทั้งวันแบบผมคืออะไร ลองนึกดูครับ
เหนื่อยมาก
ที่โรงแรมที่เราไปถึง ภายใต้ที่มีไม่มากนัก ชายร่างผอมสูง แก้มตอก ปรากฎกายอยู่เบื้องหน้าผม แสงสลัวจากภายในโรงแรมและความมืดยามโพล้เพล้ทำให้ผมมองไม่เห็นหน้าของเขาชัดเจนนัก เขาทำท่าทางเหมือนกับว่าโรงแรมของเขาตั้งอยู่ในที่โดดเดี่ยวห่างไกลจากผู้คน ทั้ง ๆ ที่โรงแรมมันอยู่ในตัวเมืองชัด ๆ
หลังจากที่ปรากฎกายอย่างไม่เป็นมิตรนัก เขาก็ไม่พูดอะไร แต่สุดท้ายก็พาพวกเราเข้าไปยังเคาน์เตอร์อย่างไม่เต็มใจนัก พ่อเดินตามชายผู้นั้นโดยไม่รู้สึกอะไร ในขณะที่ผมกลัวจนอึจะราดอยู่แล้ว คงไม่แปลกถ้ามันจะราดออกมาตอนนี้ เพราะนับตั้งแต่ตอนเช้าบนรถไฟ ผมก็ไม่ได้ถ่ายทุกข์หนักเลย เวลายังคงเดินตามหน้าที่ของมัน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำหน้าที่ของมันดีนัก ในขณะที่พ่อต่อรองกับชายน่ากลัวคนนั้นอยู่ ก็ยังมีผู้หญิงอ้วนอีกคนเข้ามาสมทบ เธอพูดอะไรสักอย่างเสียงแผ่วเบากับชายคนนั้น ก่อนที่จะหันมาแสยะยิ้มอย่างหน้ากลัวให้ผม ผมไม่แน่ใจว่าผมตาฝาดหรือเปล่า ผมเห็นเธอเอาลิ้นเลียริมฝีปากล่างทุกครั้งที่มองมายังผม
เราได้รับอนุญาตให้เอารถเข็นของผมวางไว้ชั้นล่างได้ และหลังจากนั้นไม่นานผมก็ถูกยกตัวขึ้น แล้วพ่อก็พาผมกับแม่ขึ้นไปยังห้อง ผมเองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าสถาปนิกหรือช่างฝีมือคนใดในโลกจะออกแบบโรงแรมให้มีลักษณะอย่างนี้ได้ มันเป็นบันไดปกติที่มีขั้นแคบและสูงชัน จะดีหน่อยก็ตรงที่มันปูพรหมกันลื่นไปตลอด ในขณะที่พ่อพาผมขึ้นบันไดไปนั้น ผมเองก็อดหันไปมองข้างล่างไม่ได้ หน้าของหญิงอ้วนคนนั้นยังคงฝังใจผมอยู่ เธอมองขึ้นมาพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างอีกครั้ง ก่อนเดินหลบมุมไป
ผมถูกวางลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าลินินสีน้ำเงินเข้ม ด้วยความที่อึดอัดอยู่บนรถเป็นเวลานาน ครั้งนี้ผมจะไม่ทนแล้ว ผมรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีอยู่พลิกตัวจากท่านอนหงายเป็นนอนคว่ำ เย้ นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตผมเชียวนะที่ผมทำแบบนี้ได้ พ่อหันมายิ้มให้แม่ แล้วบอกว่ามันฟลุ๊คแน่ ๆ เตียงอาจจะแข็ง พ่อที่สุดแสนจะใจดีก็จับผมนอนหงายอีกครั้ง ซึ่งผมก็รวบรวมแรงและพลิกตัวอีกครั้งจนได้ พ่อเล่นพลิกหงายผมอีกสองสามทีจนผมหมดแรงคว่ำไม่ไหวแล้ว ก็ได้แต่ตอนหงายเล่นปลายเท้าต่อไป
พ่อก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผม ก่อนจะรวบรวมพลังลุกขึ้นเพื่อกลับไปเอาของข้างล่างที่ยังเหลืออยู่ ไม่นึกเลยว่าพ่อเองก็กลัวสาวอ้วนคนนั้นเหมือนกันก็พ่อขึ้นมาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ พอมาถึงหน้าห้องก็รีบเคาะประตูเรียกแม่อย่างรวดเร็ว ปากก็หอบไปด้วย ก่อนล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ผมด้วยความตื่นตระหนก
ผมรู้สึกเป็นสุขที่โรงแรมแห่งนี้มาก เพราะผมได้กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงผ้าลินินสีน้ำเงินเข้มได้อย่างอิสระ ในขณะที่เมื่อออกไปนอกโรงแรม ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนอยู่ในรถเข็น ภายใต้สภาพอากาศที่บัดเดี๋ยวร้อนบัดเดี๋ยวหนาว นี่สินะที่เรียกว่าอิสระ
ขณะที่พ่อและแม่กำลังจัดของ และเตรียมที่จะพักผ่อน พี่เจินก็ส่งข้อความมาทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งให้เราทราบว่าพรุ่งนี้เจอกันตอนเก้าโมงเช้า ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายเพราะจะมีผมเพียงคนเดียวที่ได้กินข้าวเช้า ในขณะที่พ่อกับแม่จะทำได้แค่เข้าห้องน้ำ เพราะกว่าครัวของโรงแรมจะเปิดในวันหยุดอย่างนี้ก็เก้าโมงแล้ว
พ่อตื่นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็ฝืนไปทำธุระแล้วมาเปลี่ยนกับแม่ ผมเองเฝ้าดูแม่เก็บข้าวของอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก พ่อเองทำได้แค่ดูแลข้าวของของตัวเองเท่านั้น เพียงเพื่อไม่ให้ภาระของแม่เพิ่มมากขึ้น พ่อเคยพูดไว้กับเพื่อนคนหนึ่งตอนไปประชุมว่า “เวลาดูว่าใครมีเมียหรือไม่มีเมียนะ ให้ดูที่เสื้อผ้าที่ใส่วันที่สอง ถ้ายับหล่ะก็โสดแน่นอน ส่วนพวกที่ไม่ยับก็มีเมียแล้ว ถ้าใครไม่
มีเมียแล้วดันใส่เสื้อผ้าเรียบวันที่สอง ก็ต้องเป็นสาวประเภทสองแน่นอน” ไอ้เพื่อนคนที่พ่อคุยด้วยสะดุ้งโหยง เพราะมันโสดและใส่เสื้อผ้าเรียบ
จริง ๆ แล้วการที่เสื้อผ้าเรียบได้นั้นก็เพราะว่าแม่พับเสื้อผ้าเป็น ในขณะที่ผู้ชายทั่วไปจะผับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างไรก็ไม่เรียบนั่นเอง เมื่อแม่จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วพ่อก็ทยอยขนข้าวของที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน เอาลงไปข้างล่างทีละสองชิ้น ซึ่งมีผมเป็นชิ้นสุดท้ายเพื่อความปลอดภัย พวกเรารีบมากเพื่อจะได้ไปทันตามนัด
เช้าวันอาทิตย์ช่างเงียบเหงาไร้ผู้คนสิ้นดี สภาวะจิตใจของแม่ตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะอ่อนเพลียและผิดหวังกับที่พักพอสมควร ด้วยเงินที่จ่ายไปมันควรจะดีกว่านี้ พ่อเข้าใจความรู้สึกของภรรยาสุดที่รักดี จึงโชว์ความสามารถนำทางไปสถานีรถรางได้โดยไม่ต้องดูแผนที่ แน่นอนไม่หลง (จริง ๆ พ่อจำทางไม่ได้หรอก แต่รอบนี้ตอนมาที่โรงแรมพ่อพยายามแอบจำจุดสังเกตเอาไว้ แล้วก็เดาบ้าง แต่เผอิญถูก) พ่อหันไปมองแม่แล้วบอก “ฉันไม่ใช่ไอ้ริกนะ” (พี่ริกก็เป็นจอมหลงทางเหมือนกัน)
เรารอรถรางนานพอสมควรและก็ไปถึงที่นัดหมายทันเวลาแบบเฉียดฉิว ทุกคนดีใจที่มาทัน แต่หิวกันเล็กน้อย เพราะไม่ได้กินอะไรเลย ซักพักพี่เจินก็ส่งข้อความมาบอกว่าเวลานัดเลื่อนออกไปอีกหนึ่งชั่วโมงนะ -_-! จะโกรธดีไหม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา