27 พ.ค. 2021 เวลา 08:58 • ยานยนต์
#EP16 การดูแลรักษารถไฟฟ้าด้วยตัวเอง (DIY)
ระบบไฟฟ้าแรงดันสูงในรถไฟฟ้านั้นอันตรายอย่างมาก ผู้ที่จะซ่อมรถไฟฟ้าได้จะต้องมีใบผ่านการอบรมหลักสูตรการซ่อมรถไฟฟ้าเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วจะไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับห้องเครื่องใต้ฝากระโปรงรถไฟฟ้าได้เลยครับ ถ้าเราเปิดห้องเครื่องออกมาดูจะพบว่ามีสายไฟฟ้าเส้นใหญ่มาก สีออกส้มๆ นั่นแหละครับเป็นสายไฟฟ้าแรงดันสูง อันตรายห้ามเข้าไปใกล้เด็ดขาดครับ แต่การที่ผมจั่วหัวข้อว่า “การดูแลรักษารถไฟฟ้าด้วยตัวเอง (DIY)” นั้นจริงๆแล้ว เราจะทำได้แต่เพียง ตรวจเข็คระดับของสารหล่อเย็น สารหล่อลื่น สภาพแบตเตอรี่ สภาพยางต่างๆ การที่รถยนต์แต่ละค่ายมีคำแนะนำในการบำรุงรักษารถที่แตกต่างกันผมจึงอยากจะนำเอาข้อมูลจากในคู่มือรถนั้นๆมาเล่าให้ทุกท่านที่สนใจทราบครับ
หัวข้อที่แล้วผมได้เล่าถึงรถของ Tesla Model 3 ว่าการดูแลรักษามีอะไรบ้าง ผลสรุปรถ Tesla นั้นมีรายการที่ต้องตรวจเช็คทุกๆ ปี ก็จะมีพวก สลับยางถ่วงล้อ เปลี่ยนกรองแอร์ เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน เปลี่ยนแบตเตอรี่รีโมท นอกจากนี้สิ่งที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี คือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกและตรวจสอบระบบแอร์ปรับอากาศ และจะมีรายการที่กำหนดให้เปลี่ยนถ่ายทุกๆ 4 ปีคือ การเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นแบตเตอรี่นั่นเองครับ
ในประเทศอังกฤษ เขามีการเปรียบเทียบตัวเลขที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ของรถไฟฟ้า(EV) เปรียบเทียบกับรถใช้เครื่องยนต์(Internal Combustion Engine) โดยจะมีการแบ่งรถออกเป็น 3 ประเภทคือ
1. SUV (MG ZS EV vs Nissan Qashqal)
2. Sedan (Nissan Leaf vs Ford Focus)
3. Premium Sedan (Tesla Model 3 vs BMW 3)
หัวข้อค่าใช้จ่ายของรถนั้นจะประกอบไปด้วย ค่าเสื่อมราคา(Depreciation), เชื้อเพลิง/ไฟฟ้า(Fuel), ค่าซ่อมบำรุง(Maintenance), ค่าภาษี(Tax) และค่าประกัน(Insurance) จากตัวเลขที่แสดงในตารางพบว่า รถไฟฟ้าทั้งสามประเภทนั้นเสียค่าซ่อมบำรุงน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ แต่ที่น่าสนใจคือค่าเชื้อเพลิง(Fuel)ครับ รถไฟฟ้า(EV)จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารถใช้เครื่องยนต์(Petrol) แต่รถประเภทปลั๊กอินไฮบริด(PHEV)จะมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง(Fuel)ต่ำที่สุดครับ
Volvo XC40 Recharge Pure Electric ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ที่ 4,350 รอบ/นาที มาพร้อมแบตเตอรี่ 78 kWh ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี และรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี
การชาร์จไฟฟ้า
• Wall Box กระแสสลับ AC กำลังชาร์จ 11 kW 0-100% ภายใน 7.1 ชั่วโมง
• Super Charge กระแสตรง DC Quick Charge 0-80% ภายใน 40 นาที
แนะนำให้เข้าศูนย์บริการเพื่อรีเซ็ตตัวบ่งชี้การแจ้งเตือนการบริการ(SRI)และตรวจสอบระบบหล่อเย็นระบบไฟฟ้าทุก 32,000 กม. ให้เปลี่ยนกรองระบบแอร์ปีละครั้ง แต่ถ้าใช้งานหนักมีฝุ่นมากก็ให้เปลี่ยนบ่อยขึ้น
แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 3 ปีหรือ 64,000 กม.แต่ถ้าใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่นชายทะเลหรือบนภูเขาแนะนำเปลี่ยนทุก 1 ปี และตรวจเช็ควันหมดอายุของชุดเติมลมยางทุก 4 ปี
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line (EV) ขุมพลังของ Audi e-Tron เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (2 Electric Motors) “Normal Mode” กำลังสูงสุด 360 แรงม้า(มอเตอร์หน้า 170 แรงม้า – มอเตอร์หลัง 190 แรงม้า)แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร “Boost Mode” กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (มอเตอร์หน้า 184 แรงม้า – มอเตอร์หลัง 224 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Gear และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อมระบบกระจายแรงบิด wheel-selective torque control อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed 200 km/h แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุขนาด 95 kWh ขนาด 396 โวลต์ ให้กระแสไฟเดินทางได้สูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เป็นระยะทางมากกว่า 463 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) รองรับทั้งการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด ขนาด 150 kW และ กระแสไฟฟ้าสลับ AC (ไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน) ขนาด 11 kW หรือ 22 kW การรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. และแบตเตอรี่รับประกันนาน 8 ปีหรือ 160,000 km.
การชาร์จไฟฟ้า
• ไฟฟ้า AC 3 phase 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 9 ชั่วโมง
• ไฟฟ้า AC 3 phase 22 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที
• ไฟฟ้า DC 150 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 30 นาที
ระบบหล่อเย็น(Coolant)ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่าย ให้ตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ ส่วนน้ำมันเบรกนั้นแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายตามคำแนะนำของศูนย์บริการหรือถ้าน้ำมันเบรกสภาพเก่าจะสังเกตุจากเมื่อใช้งานหนักจะเดือดและมีฟองเกิดขึ้นแนะนำให้เปลี่ยนทันที สเปกน้ำมันเบรกแนะนำให้ใช้มาตรฐาน U.S. Federal Motor Vehicle Standard (FMVSS) 116 DOT 4, Class 6. หรือมาตรฐาน VW 501 14
Lexus UX 300e ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์หรือ 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ความจุแบตเตอรี่ 153Ah กำลังไฟจากแบตเตอรี่ 54.35 Kwh ตัวเลขสมรรถนะ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางวิ่งไกลสูงสุด 360 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ชาร์จแบบ Quick DC Charger 0-80% ภายใน 50 นาที สำหรับการชาร์จแบบกระแสตรงผ่านการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 50 กิโลวัตต์ ด้วยกำลังไฟ 125 แอมป์ โดยแบตเตอรี่มีขนาด 54 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
• ระบบหล่อเย็น(Cooling system)ไม่แนะนำให้เปลี่ยนถ่าย หรือให้เปลี่ยนเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่นรั่วหรือเกิดอุบัติเหตุ และจะต้องเป็นน้ำยาหล่อเย็นของ Toyota Super Long Life Coolant เท่านั้น
• ระบบส่งกำลัง(Transmission)ไม่แนะนำให้เปลี่ยนถ่าย หรือให้เปลี่ยนเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่นรั่วหรือเกิดอุบัติเหตุ จะต้องเป็นน้ำมันเกียร์ Toyota Genuine ATF WS เท่านั้น การใช้น้ำมันเกียร์ที่ไม่ตรงมาตรฐาน ATF WS จะทำให้เกิดเสียงดัง สั่นและระบบเกียร์เกิดความเสียหายได้
• น้ำมันเบรกแนะนำให้ใช้น้ำมันเบรกมาตรฐาน FMVSS 116 DOT3 หรือ FMVSS 116 DOT4
Nissan Leaf ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor กำลังสูงสุด 150 แรงม้า(PS) ที่ 3,283 – 9,795 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,283 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0 g./km. (Zero Emission) แบตเตอรี่ Advanced Lithium-ion (Li-ion) ขนาด 40 kWh เติมพลังงานไฟฟ้าด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ได้สูงสุดถึง 311 กิโลเมตร
• ชาร์จปกติ 3.6 kW onboard Charger ใช้เวลา 12 ชั่วโมง
• ชาร์จ Double Speed 6.6 kW onboard Charger ใช้เวลา 6 ชั่วโมง
• รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
• รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
• รับประกันระบบไฟฟ้า นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ระบบหล่อเย็น(Cooling System)แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายทุก 200,000 กม.หรือ 15 ปี โดยใช้น้ำยาหล่อเย็นของ Nissan Long Life Antifreeze/Coolant หรือเทียบเท่า
น้ำมันเกียร์ชุดทดกำลัง(Reduction Gear Fluid)แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์ของ Nissan Matic S ATF ห้ามผสมร่วมกับน้ำมันมาตรฐานอื่นเด็ดขาด และห้ามใช้น้ำมันมาตรฐานอื่นเปลี่ยนถ่ายเพราะการใช้น้ำมันเกียร์อื่นที่ไม่ใช่มาตรฐาน NISSAN Matic S ATF ของแท้จะทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงและลดความทนทานของเกียร์และอาจทำให้เกียร์เกิดความเสียหายได้
น้ำมันเบรกแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายโดยใช้มาตรฐานน้ำมันเบรก DOT3
MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Sychronous Motor กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ Single Speed ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion จำนวน 3 แผง บริเวณพื้นตัวถังรถ ความจุ 44.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 337 กิโลเมตร* (*ตามมาตรฐาน NEDC) วิ่งลุยน้ำได้สูงระดับ 400 มิลลิเมตร (40 cm.) โหมดการขับขี่ ปรับได้ 3 รูปแบบ ECO, Normal และ Sport การรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร แบตเตอรี่รับประกันนาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
การชาร์จไฟฟ้า
• รองรับการชาร์จไฟแบบ Normal Charge ใช้เวลา 6.5 ชั่วโมง
• รองรับการชาร์จไฟแบบ Quick Charge ที่ 80% ใช้เวลา 30 นาที
• หัวชาร์จแบบ Type-II และ หัวชาร์จแบบ Quick Charge ซ่อนอยู่บริเวณด้านหลัง สัญลักษณ์ณ์ MG บนกระจังหน้ารถ
• น้ำยาหล่อเย็นต้องใช้แบบ Glycol(OAT)
• น้ำมันเกียร์ส่งกำลัง(Transmission oil)แนะนำใช้ Castrol BOT 351 LV
• น้ำมันเบรกใช้มาตรฐาน DOT4
Hyundai Ioniq Electric ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดแม่เหล็กถาวรให้กำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์หรือ 119.7 แรงม้า(PS) แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร (30.1 กก.-ม.) ใช้พลังงานจาก Battery แบบ Lithium-Ion Polymer ความจุ 28 kw-h (กิโลวัตต์/ชั่วโมง) กระแสไฟ 360 V มีระบบ On Board Charger ขนาด 6.6 กิโลวัตต์ และมี Battery สำหรับอุปกรณ์ในรถ แยกออกมาต่างหากอีก 1 ลูก ทั้งหมดนี้ ควบคุมการทำงานด้วย Electric Power Control Unit (EPCU)
อัตราเร่ง Normal Mode จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ 10.2 วินาที ส่วน Sport Mode 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ 9.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง รับประกันตัวรถ Warranty 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูง High Voltage Battery นาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
• ชาร์จแบบที่ 1 : กระแสสลับ – เต้าเสียบบ้าน max 2.3 kW ใช้เวลา 12 ชั่วโมง
• ชาร์จแบบที่ 2 : กระแสสลับ – Wallbox max 6.6 kW ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 25 นาที
• ชาร์จแบบที่ 3 : กระแสตรง – Quick Charge max 100 kW ใช้เวลา 23 นาที (80%)
การบำรุงรักษานั้นแนะนำให้เปลี่ยนกรองอากาศแอร์และน้ำมันเบรก DOT3 หรือ DOT4 ทุก 30,000 กม.หรือ 2 ปี, น้ำยาหม้อน้ำเปลี่ยนทุก 120,000 กม.หรือ 8 ปี, เปลี่ยนน้ำมันเกียร์(SAE 75W-80, API GL-4)ทุก 120,000 กม.หรือ 8 ปี
BYD e6 ใช้แบตเตอรี่ แบบ Iron-Phosphate หรือ Fe Battery ที่สามารถเก็บไฟได้ 80 kWh แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ครอบคลุมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ประมาณ 1.5 ชั่วโมง มีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปเนื่องจากมีความสึกหรอน้อยกว่า และประหยัดค่าไฟมากกว่าและความเร็วสูงสุด 149 กม./ชม. รับประกันแบตเตอรี่ 5 ปี 500,000 กิโลเมตร
น้ำยาหล่อเย็น(Coolant)นะนำเปลี่ยนถ่ายทุก 40,000 กม. หรือ 2 ปี, น้ำมันเกียร์(Gear oil)เปลี่ยนที่ 8,000, 23,000, 43,000, 63,000 กม. และน้ำมันเบรกเปลี่ยนทุก 30,000 กม.หรือ 2 ปี
• น้ำมันเกียร์ ชุดขับล้อหน้า(Front drive transmission) ใช้น้ำมัน SAE 75W-90 สำหรับเขตร้อน
• น้ำมันเกียร์ ชุดขับล้อหลัง(Rear drive transmission) ใช้น้ำมัน ATF 220
สรุปการดูแลรักษารถไฟฟ้า
• Volvo XC40 Recharge Pure Electric เปลี่ยนกรองระบบแอร์ปีละครั้ง และตรวจระบบหล่อเย็นทุก 32,000 กม. เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 3 ปีหรือ 64,000 กม.
• Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ระบบหล่อเย็นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่าย ส่วนน้ำมันเบรกนั้นแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายตามคำแนะนำของศูนย์บริการ
• Lexus UX 300e ระบบหล่อเย็นไม่แนะนำให้เปลี่ยนถ่าย, น้ำมันเกียร์ ไม่แนะนำให้เปลี่ยนถ่าย เปลี่ยนถ่ายเฉพาะน้ำมันเบรกตามรอบที่รถทั่วไปแนะนำปกติ
• Nissan Leaf ระบบหล่อเย็นแนะนำเปลี่ยนถ่ายทุก 200,000 กม.หรือ 15 ปี, น้ำมันเกียร์เปลี่ยนเท่าที่จำเป็นและน้ำมันเบรกเปลี่ยนปกติเหมือนรถทั่วไป
• MG ZS EV น้ำยาหล่อเย็นใช้แบบ Glycol(OAT) น้ำมันเกียร์และน้ำมันเบรกเปลี่ยนถ่ายตามศูนย์แนะนำ
• Hyundai Ioniq Electric เปลี่ยนกรองอากาศแอร์และน้ำมันเบรก DOT3 หรือ DOT4 ทุก 30,000 กม.หรือ 2 ปี, น้ำยาหม้อน้ำเปลี่ยนทุก 120,000 กม.หรือ 8 ปี, เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์(SAE 75W-80, API GL-4)ทุก 120,000 กม.หรือ 8 ปี
• BYD e6 น้ำยาหล่อเย็นเปลี่ยนถ่ายทุก 40,000 กม. หรือ 2 ปี, น้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 8,000, 23,000, 43,000, 63,000 กม. และน้ำมันเบรกเปลี่ยนทุก 30,000 กม.หรือ 2 ปี
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจนะครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ให้ด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรหาข้อมูลที่น่าสนใจมานำเสนอต่อไปครับ
มีคำเสนอแนะหรือคำถามสามารถ คอมเม้นด้านล่างมาพูดคุยได้ครับ
โฆษณา