27 พ.ค. 2021 เวลา 10:52 • ไลฟ์สไตล์
อาการความจำเสื่อม เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจที่หยิบยกขึ้นมาพูดถึงในวันนี้ คือ ถ้าความจำเสื่อม จะทำให้นิสัยคนเดิมเปลี่ยนแปลงไปด้วยรึเปล่า??
1
โดยผมมีตัวอย่างเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง นำมาเล่าให้อ่านกันครับ
ชายคนนี้ มีชื่อว่า ยูจีน พอลลี เกิดป่วยด้วยโรคชนิดที่หาได้ยาก นั่นก็คือ ไวรัสกัดกินสมองส่วนที่เป็นความจำ ทำให้เขาจำอะไรใหม่ไม่ได้ และลืมภายใน 5 นาที
โดยปกติแล้วเขาจะไม่สามารถจดจำชื่อคนที่พึ่งพบเจอใหม่ได้ ชอบกดรีโมต ดูช่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และพูดเรื่องเดิม ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น และที่น่าสนใจก็คือ เขาคิดว่าตัวเขาเองอายุ 60 ปี ทั้งๆ ที่อายุตัวเอง 71 ปี
นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมอง ได้เข้ามาพูดคุย และศึกษาในกรณีของ ยูจีน เพราะเป็น กรณีที่ค่อนข้างหาได้ยาก ได้มีการพูดคุยและทดสอบว่าความทรงจำของยูจีนอยู่ในระดับใด
โดยให้ยูจีน ลองวาดแผนผังบ้าน ให้ดูว่า มีห้องไหนอยู่ตรงส่วนไหนของบ้านบ้าง
และผลปรากฎว่า ยูจีนไม่สามารถที่จะวาดแผนผังนั้น ได้เลย
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็เกิดขึ้นระหว่างการพูดคุย เมื่อ ยูจีน มีอาการกระสับกระส่าย และลุกขึ้นกะทันหัน เดินไปที่ห้องน้ำ พร้อมกับเสียงกดชักโครกตามมาไม่นาน หลังจากนั้น เขาก็กลับมานั่งที่โซฟาเช่นเคย และบอกให้ถามคำถามถัดไป พร้อมมองนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังมึนงง
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ยูจีน มักจะอยู่ดีๆ ก็เดินไปที่ห้องครัว และทอดเบคอน กับไข่ และหยิบคุ๊กกี้กิน หลังจากนั้นผ่านไปไม่นาน เขาก็จะทำแบบนี้อีกครั้ง
คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า ในเมื่อยูจีนจำไม่ได้ว่าห้องแต่ละห้องอยู่ตรงไหน แต่ทำไมเขาสามารถเดินไปห้องน้ำกับห้องครัวได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกกัน??
1
ลองคิดเล่นๆ กันดูนะครับ
ก่อนไปพบกับคำตอบ จะพาไปพบกับเรื่องราวการทดลองอย่างหนึ่งก่อนครับ
การทดลองนี้ เกิดขึ้นในปี 1990 จากนักวิจัยของเอ็มไอที
โดยพวกเขาได้ทดลองนำหนู ไปใส่ในเขาวงกต ที่มีรูปร่างเป็นตัว T และกั้นฉากไว้ที่ทางเข้า ส่วนปลายทางด้านซ้ายของตัว T นั้นจะมีช็อคโกแลตวางอยู่
เมื่อประตูเปิดออกจะมีเสียง "กริ๊ก" หลังจากนั้นหนูทดลองจะทำการดมกลิ่นเพื่อหาทางออกไปทั่ว(ถึงแม้ว่ามันจะเป็นทางตรงก็ตาม) และเมื่อถึงทางแยก หากหนูตัวไหนที่เลี้ยวขวา จะใช้เวลาสักครู่หนึ่งเพื่อดมกลิ่นจนรู้ว่ามันห่างไกลจากช็อคโกแลต แล้วจึงจะวกกลับมาทางซ้าย และพบกับช็อคโกแลตในที่สด
นอกจากนี้นักวิจัย ได้มีการติดตัววัดคลื่นสมองของหนูเอาไว้ด้วย เพื่อที่จะดูว่า สมองทำงานอย่างไรในตอนหาทางออก
ผลที่เกิดขึ้นก็คือ หนู นั้นใช้สมองอย่างหนักในการหาทางออก โดยผ่านการดมกลิ่นและสัมผัสไปเรื่อยๆ จนเมื่อพบเจอรางวัล กราฟสมองจะพุ่งขึ้นสูงที่สุด
1
หลังจากนั้นก็ได้มีการทดลองให้หนูเหล่านี้ ทำแบบเดิมซ้ำๆ หลาย ๆ รอบ
ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ หนูนั้นใช้เวลาในการหาทางออกน้อยลง ยิ่งจำนวนรอบมากขึ้น พวกมันก็ยิ่งใช้เวลาเร็วขึ้น จนในที่สุด เมื่อได้ยินเสียง "กริ๊ก" และผนังกั้นเปิดออกมา พวกมันก็วิ่งไปหาช็อคโกแลตแบบไม่ต้องหาทางอีกเลย
เมื่อหันมาดูกราฟของสมองในช่วงหลังนั้น ผลปรากฎว่า พวกมันแทบไม่ได้ใช้การคิดเลยในการวิ่งหาทางออก ซึ่งต่างจากตอนแรกมาก
ถ้าถามว่าการทดลองของหนูนั้นเกี่ยวอะไรกับ ยูจีน
คำตอบคงจะเป็นไปได้ข้อเดียวนั่นก็คือคำว่า "นิสัย" ครับ
"นิสัย" คือการกระทำที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่ต้องใช้ความคิด
ทั้งยูจีน และก็หนู ล้วนมีสิ่งที่ทำเป็นประจำ จนเกิดกลายมาเป็นนิสัย
ยูจีนมีนิสัยเมื่อเห็นหรือพบเจอกับแรงกระตุ้นบางอย่าง เขาจะ กระทำเรื่องบางอย่างขึ้นมา
เช่นตื่นนอนตอนเช้า เห็นแสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านมาทางหน้าต่าง เขาจะลงมือเข้าครัว ทอดเบคอนและไข่ เพื่อทำอาหารเช้าทาน
นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมเขาถึงเข้าครัว ทำอาหารหลายรอบ ถึงแม้ว่าเขาจะกินอาหารเช้าไปแล้วก็ตาม
และสำหรับเรื่องการจดจำเส้นทาง นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่ จำอะไรไม่ได้ครับ
เพราะเมื่อมันกลายมาเป็นนิสัย มันจะกระทำไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องผ่านการคิด
มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมยูจีนถึงเดินไปห้องน้ำ กับห้องครัว ได้โดยที่ไม่ต้องมีใครบอก เพราะนั่นคือการกระทำที่เป็น"นิสัย" ไปแล้วนั่นเอง
ดังนั้นจากคำถามตั้งต้นที่ถามไว้ว่า ถ้าความจำเสื่อม จะทำให้นิสัยเดิมเปลี่ยนแปลงไปด้วยรึเปล่า??
คำตอบก็คือ ไม่เปลี่ยนครับ
แต่ใช่ว่าจะเปลี่ยนนิสัยกันไม่ได้นะครับ
สำหรับนิสัยเดิม ๆ ถ้าหากอยากเปลี่ยนแปลง ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องเพิ่ม เติมนิสัยใหม่ๆ เข้าไป ให้สมองได้จดจำและทำเป็นอัตโนมัติใหม่นั่นเอง ถึงจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเก่าๆ ได้
นิสัย เป็นสิ่งที่สำคัญเอามากๆ สำหรับการใช้ชีวิตของแต่ละคน เพราะมันสามารถกำหนดได้เลยว่า คนๆ นั้นจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงนิสัย เล็กๆน้อยๆ ก็ตาม
เพราะแบบนี้เราจึงควรหานิสัยดีๆ มาติดใส่ตัวไว้ให้มากๆ กันนะครับ
ปล. เรื่องราวทั้งหมดนำมาจากหนังสือ The power of habit
โฆษณา