Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แมวไหน?
•
ติดตาม
27 พ.ค. 2021 เวลา 15:36 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หลังจากดู Move To Heaven จบก็ทำให้นึกถึงซีรีส์ที่เคยดูก่อนหน้าอย่าง Hi Bye Mama! วันนี้แมวเลยจะขอหยิบมารีวิวแบบดับเบิ้ล เพราะสุดท้ายแล้วปลายทางที่ทั้งสองเรื่องจะสื่อนั้นเหมือนกัน คือสุดท้ายสิ่งที่เหลือไว้หลังความตายคือ ความทรงจำ ซีรีส์ที่จะพาคนที่ยังอยู่มูฟออนจากความตายของคนที่รัก ไปอย่างนิ่มนวล ดูจบแล้วได้ตั้งสติ มองความตายในมุมที่กว้างขึ้น เพราะยังไงซะทุกคนก็ต้องตาย...
มาเริ่มกันที่ Move To Heaven ซี่รี่ย์ลึกซึ้งกินใจเรื่องล่าสุดจาก Netflix
😇 Move To Heaven
เป็นเรื่องราวของ บริษัทรับทำความสะอาดที่เกิดเหตุ ที่มีฮันจองอูผู้เป็นพ่อ และ ฮันกือรูลูกชายเด็กพิเศษที่มีอาการโรค แอสเพอร์เกอร์ (Asperger’s Disorder) บกพร่องทางพัฒนาการกลุ่มเดียวกับออทิสติก ไม่สามารถรับรู้เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ ทำให้ตอบสนองกลับไปไม่ถูกต้องเหมือนคนปกติ และมักหมกหมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากกว่าคนปกติ
ในการเริ่มเก็บกวาดทั้งสองจะพูดว่า“เราจะเริ่มการขนย้ายครั้งสุดท้ายของคุณครับ” โดยทุกครั้งทั้งสองจะเก็บสิ่งของที่เป็นความทรงจำของผู้ตายไว้ในกล่องสีเหลืองใบนึงเพื่อส่งคืนให้ญาติผู้ตาย ให้สิ่งของเล่าเรื่องของผู้ตายอีกครั้งเก็บไว้เป็นความทรงจำให้ผู้รับระลึกถึง
จนกระทั่งวันนึง ฮันจองอูผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตกระทันหัน โดยในพินัยกรรมได้แต่งตั้งให้ โจซังกูผู้เป็นอาที่เพิ่งออกจากคุกเป็นผู้ดูแลลูกชาย โจซังกูนั้นไม่เคยพบหลานชาย และยังรู้สึกเกลียดพี่ชายตนเอง เขาหวังเพียงแค่จะใช้เงินของครอบครัวนี้ในฐานะผู้ดูแล แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เขาต้องทดลองงานการผู้ดูแลก่อนเป็นระยะเวลา 3 เดือน และต้องทำงานในบริษัทแห่งนี้ด้วย เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อนั้น สามารถหาดูได้ใน Netflix มีทั้งหมด 10ตอน
🎯 ทำไมต้องดู Move To Heaven
- หนังลึกซึ้ง แม้ในช่วงเวลาที่หนังใช้ความเงียบในการสื่อสารกับคนดู ก็ยังกินใจ
- ภาพสวย หนังไม่ได้เน้นความสวยหล่อ หรือความรักหนุ่มสาว ในแบบซีรีส์เกาหลีที่เราเคยดู แต่มันคือความรักรูปแบบ ครอบครัว หนังผูกปมของของตัวละครได้ดีมาก และค่อยๆคลายปมได้อย่างนิ่มนวล ฉากคลายปมแมวนี่น้ำตาไหลถึงขา
- หนังสอดแทรกประเด็นทางสังคมของเกาหลีได้อยากแยบยล อย่างเช่น ประเด็นคุณภาพชีวิตการทำงาน ประเด็นความรักชายชายที่ไม่เป็นที่ยอมรับในเกาหลี หรือประเด็นสังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งทำได้ถึงเครื่อง ลึกซึ้ง
- หนังได้นำจุดเด่นของเด็กพิเศษออกมาทำได้ดี ภายใต้การตามหาชิ้นส่วนความทรงจำของผู้ตายจากสิ่งของ และเพราะเขาคือคนพิเศษจึงทำให้ของทุกชิ้นพิเศษสำหรับผู้รับ
เรียกได้ว่าต้องเสียน้ำตากันทุกตอน อวยยศไปเลย 9/10⭐
👧 ต่อกันเลยที่ Hi Bye Mama! หรือชื่อไทยสะดุดหูอย่าง บ๊ายบายแม่จ๋า
Hi Bye Mama! ต่างจาก Move To Heaven ตรงการเล่าเรื่องที่แฟนตาซี เล่าในพาสของคนที่ตายไปแล้ว ผ่านความเชื่อเรื่องโลกหลังความตาย
Hi Bye Mama! เป็นเรื่องของผีคุณแม่ยังสาว ซายูรี ที่เสียชีวิตขณะท้องแก่ใกล้คลอด โชคยังดีที่ลูกสาวได้คลอดออกมาก่อนที่เธอจะเสียชีวิต จึงทำให้วิญญาณผีสาวยังคงเป็นห่วงวนเวียนเคียงข้างลูกสาวมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ด้วยความรักและห่วงใย
ผลข้างเคียงจากการที่เธอเฝ้าติดตามลูกสาว ทำให้เด็กกลายเป็นคนจิตอ่อนสามารมองเห็นผีได้ เมื่อผู้เป็นแม่ทราบความจริง ด้วยความเสียใจ จึงได้สติแตกด่าพระเจ้าไปด้วยความโมโห จึงทำให้เธอได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเป็นเวลา 49 วัน โดยมีเงื่อนไขว่า หากเธอสามารถกลับไปอยู่จุดเดิม ก่อนที่เธอจะตายจากมาได้ เธอจะได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
จากนั้นเราจะได้เห็นรีแอคการกลับมาของเธอ จากคนรอบตัวเธอ แต่การที่เธอจะกลับไปจุดเดิมได้นั้นเธอต้องแทรกกลางความสัมพันธ์ใหม่ของสามีและภรรยาใหม่ อีกทั้งยังต้องกลับมาในฐานะแม่ แทนที่แม่คนใหม่ของลูก แทนที่หญิงสาวที่เสียสละตัวเองและอาชีพเพื่อมาใช้ชีวิตเป็นแสงสว่างใหม่ให้สามีและลูกของเธอ เธอจะทำได้ไหม ติดตามดูได้ใน Netflix
🎯 ทำไมต้องดู Hi Bye Mama!
- อย่าให้ปกกับเรื่องย่อมาหลอก เนื้อหาข้างในนั้นลึกซึ้งกว่าปกที่เห็น
- บอกเลยว่าเป็นหนังที่ทำให้ตาบวมตลอดสัปดาห์ที่ดู จนคนที่ออฟฟิศทัก
ร้องแบบไม่ใช่แค่น้ำตาซึมนะ ร้องแบบโฮเลยอ่ะ
- ไว้ใจได้กับฝีมือการแสดงของนักแสดงทุกคนในเรื่อง แสดงดี อินไม่ไหวจะร้อง
- หนังเล่าเรื่องของผี และโลกวิญญาณ ไม่ใช่มุมมองน่ากลัวเหมือนที่เราเคยดู ออกจะคอมเมดี้ด้วยซ้ำ แต่ลึกซึ้งกินใจเป็นความห่วงหาอาทรที่คนตายไปแล้วอยากจะสื่อสารออกมา
- หนังเล่าให้เราได้เห็นมุมมองความตายต่างๆเช่น ต่อให้ยากดีมีจน ทุกคนก็ต้องตายเท่ากันหมด เพราะทุกคนคือมนุษย์ หรือ ตัวซายูรีเองที่ตายขณะเป็นแม่ ยังห่วงลูกตัวเองจนไม่ไปผุดไปเกิด แต่แม่ของเธอก็ทุกข์ไม่แพ้กันที่ต้องเสียลูกสาวกระทันหัน หรือเราจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ แม่แต่วันที่สวยงามที่สุดเราก็อาจจะตายได้ หนังจะค่อยๆปลดล็อกความต้องการของวิญญาณในเรื่องที่ตอนมีชีวิตไม่ได้ทำ ไปแต่ละตอนๆ ทำให้เราได้ฉุกคิดว่า ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราได้ทำสิ่งที่อยากทำหรือยัง
- ชอบบทสรุปของหนัง กับประโยคที่ว่า “กลีบดอกร่วงหล่น แต่ดอกไม้ยืนยง ส่วนกลิ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกนี้ ฝังลึกลงไปในความทรงจำของเรา”
การจากลามันคือสัจธรรมต่อให้คร่ำครวญจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็ต้องปล่อยวาง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อก้าวเดินต่อไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำให้ระลึกถึง
อวยยศไปเลย 9/10⭐
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย