28 พ.ค. 2021 เวลา 03:28 • หนังสือ
"เมื่อผู้ใดกำลังแสวงหา มันง่ายที่เขาจะได้เห็นสิ่งที่แสวงหา แต่เขาจะไม่พบอะไรเลย ไม่อาจซึมซับสิ่งใด เพราะเขามัวคิดถึงแต่สิ่งที่เสาะแสวง เพราะเขามีเป้าหมาย แล้วจิตใจก็หมกมุ่นอยู่กับเป้านั้น มัวแต่หาหนทาง มัวแต่ตั้งเป้าหมาย แต่การจะพบหนทางเราต้องเป็นอิสระ พร้อมที่จะรับ และไม่มีเป้าหมายใด โอ้ ท่านผู้ประเสริฐ บางทีท่านอาจเป็นผู้แสวงหาที่แท้จริง มุ่งไปสู่เป้าหมาย แต่ท่านก็พลาด ไม่ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างใต้จมูกของตัวเอง"
สิทธารถะ, เฮอร์มานน์ เฮสเส
Kledthai
สิทธารถะ หากพิจารณาเพียงแค่ชื่อดูเผิน ๆ แล้วคงเข้าใจว่าเป็นนวนิยายที่น้อมนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาเป็นปมของเรื่องเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
แต่!! เปล่าเลย เราขอดับฝันผู้อ่านที่จินตนาการแบบนั้นไปเพียงเท่านี้ เพราะหากพิจารณาดูเนื้อเรื่องแล้วไม่อาจตอบได้แน่ชัดว่าผู้เขียนต้องการสื่อถึงสิ่งใดในพระพุทธศาสนา
ทว่า สิทธารถะเป็นนวนิยายที่เล่าถึงการออกบวชของมานพสองสหายจากตระกูลพราหมณ์ที่ต้องการเสาะแสวงหาหนทางบรรลุธรรมซึ่งเป็นเป้าหมายอันสูงสุด แต่ดูเหมือนว่านวนิยายเล่มนี้ก็เป็นภาพทับซ้อนที่แอบอิงกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในพระพุทธศาสนาร่วมด้วยเช่นกัน
.
หลังจากที่สิทธารถะกับโควินทะได้ตัดสินใจออกบวชก็ได้พบกับพระพุทธเจ้า ก่อนที่โควินทะจะตัดสินใจบวชในพระพุทธศาสนา ส่วนสิทธารถะปฏิเสธที่จะบวชในพระพุทธศาสนาแต่เลือกที่จะเรียนรู้ในทางโลกตามวิถีทางของตัวเอง
เล่ามาถึงตรงนี้ หลายคนคงเกิดคำถามในใจว่าแล้วหนทางของทั้งสองที่เลือกเดินคนละทางต่างกันอย่างไร หรือบางท่านอาจจะปักธงไว้ในใจว่ายังไงเสียผู้ที่เป็นนักบวชตั้งตนตามรอยคำสอนของพระพุทธองค์ย่อมต้องมีโอกาสบรรลุธรรมมากกว่าผู้ที่ตั้งตนในทางโลกที่เต็มไปด้วยกิเลสอยู่แล้ว
แต่ช้าก่อนสหาย... สำหรับนวนิยายเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดกับเราไว้น่าสนใจว่า แท้จริงแล้วการบรรลุธรรมอันเป็นเป้าหมายอันสูงสุดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานภาพ วิธีปฏิบัติ รวมถึงการยึดมั่นตามคำสอนเพียงอย่างเดียว หากแต่มีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือ "การตระหนักในสัจธรรม"
อย่างที่สิทธารถะผู้เลือกเดินตามแนวทางของตัวเองบรรลุธรรมพบความสุข เพราะเขาได้เรียนรู้ธรรมชาติที่แท้จริงของตนจากสิ่งที่อยู่รายล้อมตัวเขาระหว่างการเดินทางนั่นเอง
โฆษณา