28 พ.ค. 2021 เวลา 11:16 • กีฬา
งานในการกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งของนอริช ซิตี้ กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ฤดูกาลใหม่ในพรีเมียร์ลีกของนอริช ซิตี้ คงไม่ได้เริ่มที่ โปรแกรมเตะแมตช์แรก แต่งานของเราต้องเริ่มตั้งแต่ 90 วันก่อนหน้านั้น งานมหาหินของนอริชคือการพิสูจน์ตัวเอง หลังจากล้มเหลวจบอันดับสุดท้ายในปี 2019 ดังนั้นฤดูกาล 2021/22 นอริชจะประสบความสำเร็จ หรือตกชั้นซ้ำซาก ก็ขึ้นอยู่กับ การซื้อขายนักเตะในก่อนเปิดฤดูกาล
โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2019/20 (ซึ่งนอริชมักถูกแซวว่าเสริมทัพแค่ 750,000 ปอนด์) เราลงทุนไป 8.5 ล้านปอนด์ในการดึงผู้เล่น 6 คนเข้ามาเสริมทัพ โดย 3 คนเป็นสัญญายืมตัว คือราล์ฟ แฟร์มันน์ โกล์ชาลเก้ อิบราฮิม อมาดู กลางรับที่ต้องเป็นเซนเตอร์จำเป็นอยู่พักหนึ่ง และแพทริค โรเบิร์ตส กลางรุกแมนฯ ซิตี้ ที่น่าจะเป็นตัวความหวังคนนึง นอกจากนี้ก็ดึงกองหน้าดีดรีทีมชาติสวิส โจซิป เดอร์มิช ที่หมดสัญญากับต้นสังกัดมาฟรีๆ คนที่ 5 เสริมชุด U-23 เซนเตอร์ดาวรุ่งเบลเยี่ยมวัย 19 ปี ร็อคกี้ บูชิรี ซึ่งตั้งแต่ย้ายมาก็ถูกปล่อยยืมตลอด และคนสุดท้าย แซม บายรั่ม ฟุลแบ๊ค เจ้าของค่าตัว 750,000 ปอนด์ จากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นคนเดียวที่ถือว่าสอบผ่าน แต่ก็เจออาการบาดเจ็บหนักที่แฮมสตริงและอีกหลายจุด พักยาวถึง 15 เดือน ไม่ได้เล่นตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา
แซม บายรั่ม เจ้าของค่าตัว 750,000 ปอนด์ จากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
Michael Bailey มั่นใจว่าช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์เดือนหน้านี้ นอริช ซิตี้จะทุ่มงบเสริมทัพเป็น 3 เท่าของ 2 ฤดูกาลก่อน (30 ล้านปอนด์+) แม้ว่าสโมสรจะเพิ่งแถลงข่าวว่าได้รับผลกระทบขาดทุนจากสถานการณ์ Covid-19 ถึง 30 ล้านปอนด์ก็ตาม และคาดว่าสถิติการซื้อนักเตะแพงที่สุด (ทิมม์ โคลเซ่ และสตีเว่น เนย์สมิธ 9.9 ล้านปอนด์) น่าจะถูกทำลายในช่วงเปิดตลาดรอบนี้ แน่ นี่เป็นกรณีที่ทุกคนยังอยู่ครบนะ ถ้าสโมสรมีรายได้จากการขาย เอมี บุนเดีย แม็กซ์ แอร่อนส หรือทอดด์ แคนท์เวลล์ก้อนใหญ่เข้ามา แน่นอนว่า งบประมาณต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน (แต่เพิ่มอีกเท่าไหร่ คงต้องลุ้นกัน) งานยากก็คือเราต้องเสริม squad ทั้งคุณภาพระดับที่สู้ในพรีเมียร์ลีกได้ และเสริมทีมให้ใหญ่ขึ้นในเชิงปริมาณ
สตีเว่น เนย์สมิธ และ ทิมม์ โคลเซ่ เจ้าของสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสร
ตำแหน่งไหนที่เราต้องการ ...
ทั้ง สจ๊วต เวบเบอร์ ผอ. กีฬาของทีม และ ดาเนียล ฟาร์เค่อ รวมทั้งทีมสรรหานักเตะของสโมสร เน้นการจบดีลเร็ว เพื่อเพิ่มเวลาในการสร้างทีม เป็นหนึ่งในบทเรียนราคาแพงของเมื่อ 2 ปีก่อน การทำสัญญายืมตัว เบน กิ๊บสันในเดือนกันยายน รวมทั้งแบ๊คซ้าย ดิมิทริส ยานนูลิสในเดือนมกราคม เป็นการเตรียมการเพื่อสร้างทีมพรีเมียร์ลีก เพราะมีเงื่อนไขการซื้อขาดถ้าทีมได้เลื่อนชั้น (8.5 ล้านปอนด์สำหรับกิ๊บสันที่ต้องจ่ายเบิร์นลี่ย์ และ 6.5 ล้านปอนด์ สำหรับ ดีมี่ ที่ต้องจ่าย PAOK Salonica รวม 15 ล้านปอนด์) ซึ่งเงินจำนวนนี้แยกต่างหากจากงบประมาณที่พูดถึง และเท่ากับว่าค่าตัวของเบน กิ๊บสันกับดีมี ยานนูลิส 2 คนรวมกันก็มากกว่ายอดจ่ายเมื่อ 2 ปีที่แล้วไปแล้ว
การยืมตัว เบน กิ๊บสัน มาจากเบิร์นลี่ย์ พ่วงออปชั่นซื้อขาดถ้าเลื่อนชั้น เป็นการวางแผนเพื่ออนาคตที่ชาญฉลาดของบอร์ดและสจ๊วต เวบเบอร์
เป้าหมายของนอริชคือเสริมความแข็งแกร่งของ 11 คนแรก จากขนาดของทีมปัจจุบันที่ถือว่ายังเล็กมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงมาตรฐานพรีเมียร์ลีก และทีมจะต้องโฟกัสตำแหน่งที่ทีมยังขาดอยู่ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ต่อไปนี้
SQUAD ทีมชุดใหญ่ในปัจจุบัน
ตำแหน่งแรก คือ เซ็นเตอร์แบ๊ค ซึ่งจะต้องเข้ามาเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ เบน กิ๊บสัน และ แกรนท์ แฮนลี่ย์ ได้ ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า ค่าตัวนักเตะใหม่ตำแหน่งนี้ จะทำลายสถิติสโมสร โดยมีคริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์ และแอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่ รับบทตัวสำรอง
สำหรับตำแหน่งฟูลแบ๊ค กรณีที่แม็กซ์ แอร่อนส ไม่ย้ายทีม อาจจะมีความต้องการนักเตะใหม่ที่เล่นได้ทั้งแบ๊คซ้ายและขวา เหมือนแซม บายรั่ม ที่ยังคงลุ้นว่าจะหายเจ็บกลับมาลงสนามในฟอร์มเดิมได้ไหม โดยแบ๊คซ้าย ดิมิทริส ยานนูลิส สอบผ่าน แต่หากต้องเสียแอร่อนสไป แน่นอนว่า ก็ต้องหาแบ๊คขวาตัวจริงมาเสริมทีม โดยบาลี มัมบ้า คงต้องรอเก็บประสบการณ์เพิ่มเติม
อนาคตของแม็กซ์ แอร่อนส ดูจะเป็นตัวกำหนดอนาคตในตลาดซื้อขายนักเตะของทีม
สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู แน่นอน มือ 1 คือ ทิม ครูล มือกาวทีมชาติฮอลแลนด์ ขณะที่ทีมเพิ่งต่อสัญญากับ ไมเคิล แม็คกัฟเวิร์น จอมเซฟทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ วัยย่าง 36 ปีไปอีก 2 ปี แต่สิ่งที่เราต้องการคือผู้รักษาประตูหนุ่มอีกคนที่จะเข้ามากดดันครูล แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับสภาพการนั่งรอโอกาสข้างสนามด้วย โดยในฤดูกาลที่แล้วนอริชเซ็นสัญญาระยะสั้นกับ ออร์ยัน นีแลนด์ อดีตมือสองของแอสตัน วิลล่า ชาวนอรเว และเมื่อหมดสัญญาซัมเมอร์นี้ คาดว่านีแลนด์อาจจะมองหาโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง ที่สโมสรใหม่ก็ได้ แต่ก็ยังไม่ตัดโอกาสที่เราจะเจรจากับเขาได้ในอนาคตอันใกล้
ตำแหน่งกองหน้า แน่นอนว่า เบอร์หนึ่งคือตีมู ปุ๊กกี้ แน่นอน น่าเสียดายโอกาสของหนุ่มวัย 20 ปี อดัม อิดาห์ ในฤดูกาลที่แล้วที่ควรเป็นโอกาสฉายแสงของเขาในลีกแชมเปี้ยนชิพ แต่เจอสถานการณ์ COVID รวมทั้งเจออาการบาดเจ็บ และมาโดนแบนอีก ทำให้ในฤดูกาล 20/21 เขาทำได้เพียง 2 ประตู ประตูแรกและประตูสุดท้ายของทีม ส่วนจอร์แดน ฮูกิลล์ ที่น่าจะไม่ถึงมาตรฐานลีกสูงสุด ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกปล่อยยืม หรือขายออก
เช่นเดียวกับนักเตะตัวรุกสำรองคนอื่นๆ อย่าง เชมมิชวาฟ พลาเฮต้า ปีกทีมชาติโปแลนด์ โอเนล เฮอร์นานเดซ ปีกทีมชาติคิวบา มาร์โค สตีเปอร์มันน์ กลางรุกเยอรมัน และ ดาวรุ่ง อย่าง จอช มาร์ติน ที่อาจจะถูกปล่อยยืมหรือขาย และถูกทดแทนด้วยนักเตะริมเส้นคนใหม่ที่จะมายกมาตรฐานทีมขึ้น
โอเนล เฮอร์นันเดซ ตัวรุกทางกราบซ้ายที่เคยผ่านประสบการณ์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว
นอริชยังมองออปชั่นของตัวรุกริมเส้น ที่สามารถขยับมาเล่นแทนปุ๊กกี้ได้ด้วย ซึ่งถ้าจำกันได้ ตอนที่ปุ๊กกี้ย้ายมาร่วมทีมใหม่ๆ เขาเป็นกองหน้าตัวต่ำ โดยที่ทีมใช้ จอร์แดน โร้ดส์ เป็นหน้าเป้า
โฟกัสสำคัญของเราตอนนี้กลับไม่ใช่ มิดฟิลด์ตัวรุก เป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางและตัวรับ 2 ตำแหน่ง เพื่อทดแทน โอลิเวอร์ สคิปป์ นักเตะจอมพลังที่ฟาร์เค่อชอบเหลือเกิน น่าเสียดายที่หมดสัญญายืมตัว รวมทั้งอุดรูรั่วจากการอำลาทีมของอเล็กซานเดอร์ เทตเทย์ กลางรับผู้ภักดีอยู่กับสโมสรถึง 9 ปี ซึ่งหากผู้จัดการทีมคนใหม่ของสเปอร์ไม่ใช้งานสคิปป์ นอริชจะไม่ลังเลที่จะยืมตัวเขากลับมาอีก 1 ฤดูกาลแน่นอน สจ๊วต เวบเบอร์ ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ทีมมองหา มิดฟิลด์ตัวกลางที่มีความคล่องแคล่วและแข็งแกร่งกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน
ถ้าท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ยอมปล่อยโอลิเวอร์ สคิปป์ ให้นอริชยืมต่ออีก 1 ฤดูกาล ....        จะเป็นอะไรที่บรรเจิดมาก
สำหรับมิดฟิลด์คนที่ 2 ที่จะเข้ามาเสริม น่าจะเข้ามาแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ เคนนี่ แม็คเคลน เป็นคนที่เล่นได้ทั้งรุกและรับ
ใครบ้างที่น่าจะเป็นเป้าหมายของเรา?
เซนเตอร์แบ๊คที่จะเข้ามาอัพเกรดเกมรับของเรา จะใช่ Kristoffer Ajer ของเซลติกหรือไม่ ข่าวลือมีชื่อหลายคนเหลือเกิน รวมถึง Bornauw เซนเตอร์ของโคโลญจน์
Kristoffer Ajer เซนเตอร์แบ๊ค ทีมชาตินอรเว วัย 23 ปี ที่เหลือสัญญากับ กลาสโกว์ เซลติก อีกแค่ปีเดียว และน่าจะอยากย้ายทีม โดยมีนิวคาสเซิล สนใจอยู่เหมือนกัน ค่าตัวประมาณ 10 ล้านปอนด์ ลดลงจากพีคเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ 20 ล้านปอนด์ตอนที่เอซี มิลานติดต่อขอซื้อเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว
ตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่มีชื่อของ แองกัส กันน์ ที่ตกเป้นมือ 3 ที่เซาท์แฮมป์ตัน และคริสเตียน วอลตัน มือสามของไบรท์ตัน ออกมาตามสื่อ ก็เป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่ตำแหน่งที่เร่งด่วน
แหล่งข่าวมีการนำเสนอชื่อ Abdou Harroui ของทีม Sparta Rotterdam วัย 23 ปี ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง อีกแหล่งข่าว ระบุ นอริชเล็งเป้าที่ โจชัว คิง กองหน้าวัย 29 ปี ชาวนอรเวอีกราย ที่กำลังจะหมดสัญญา คิงค่อนข้างตอบโจทย์ คือสามารถเล่นเป็นตัวริมเส้นและเล่นเป็นหน้าเป้าแทนปุ๊กกี้ได้ แต่ดีลนี้อาจมีอุปสรรค ถ้าเอ็ดดี้ ฮาว เจ้านายเก่าของคิง รับงานใหม่ที่เซลติก
โจชัว คิง หน้าต่ำที่เล่นริมเส้นได้ดี มีประสบการณ์มากมายกับบอร์นมัธ
โดยมีการศึกษาโมเดลของทีมเบิร์นลี่ย์ ที่รักษาสถานภาพในพรีเมียร์ลีกได้ยาวนานตั้งแต่ปี 2014/15 ภายใต้การคุมของฌอน ไดช์ ทั้งเรื่องขนาดทีมที่ไม่ใหญ่ การซื้อนักเตะที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก และแคแรกเตอร์ของทีม เช่นสามารถจะกลับมาชนะ 2 เกมติดๆ ได้ แม้จะแพ้มาติดๆ กัน 6 นัดก่อนหน้า ซึ่งนั่นเป็นคุณสมบัติที่ทีมจะอยู่รอดได้ โดยยกเว้นสไตล์การเล่นอันเป็นแบบฉบับ
 
ตั้งข้อสังเกตว่า การที่เบิร์นลี่ย์อยู่รอดไม่ตกชั้นได้ โดยทีมแทบไม่มีระบบอคาเดมี่รองรับเลย ขณะที่ทีมเรา มีการพัฒนาอคาเดมี่ก้าวหน้ากว่ามาก ดังนั้นถ้าเราซื้อนักเตะได้เหมาะสม บวกกับมีทีมเยาวชน อคาเดมี่รองรับ เราน่าจะมาถูกทางแล้ว
#NCFC #COYY #ThaiCanaries
โฆษณา