31 พ.ค. 2021 เวลา 12:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Medical and Wellness Tourism หัวใจสำคัญที่จะช่วยกอบกู้การท่องเที่ยวในยุคหลังโควิด
5
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) คืออะไร
1
หากอธิบายโดยง่าย การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ คือการที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปที่ใดที่หนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อทำให้สุขภาพของตัวเองดียิ่งขึ้น แต่หากอธิบายให้ละเอียดลงไปอีก การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) จะค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร โดยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จะเน้นไปที่การรักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ตั้งแต่การทำฟัน ไปจนถึงการผ่าตัดใหญ่ เพื่อให้สุขภาพกลับมาดีเช่นเดิม ในขณะที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเน้นไปที่การฟื้นฟู เพื่อให้สุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เช่นสปา นวดแผนไทย ซึ่งจะทำให้สุขภาพกายและจิตของเราดีขึ้น
3
ในช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจดาวเด่นที่กำลังเติบโตไปได้ดีอยู่แล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการที่หลายประเทศทั่วโลกเข้าสู่สังคมสูงวัยกันมากขึ้น และกระแสที่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความใส่ใจกับการดูแลรักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
1
โดยจากข้อมูลของ World Travel and Tourism ในปี พ.ศ. 2560 ยอดการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติในธุรกิจการท่องเที่ยวทางการแพทย์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาเป็น 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่อยู่เพียงแค่ 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2543 ในขณะเดียวกัน Wellness Tourism ก็เติบโตอย่างมากเช่นเดียวกัน โดยจากข้อมูลของ Global Wellness Institute แสดงให้เห็นว่าในช่วงปี 2558 – 2560 ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังเติบโตโดยเฉลี่ยที่ 6.5% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวโดยรวมเกินสองเท่าตัวอีกด้วย
ในประเทศไทยเอง ธุรกิจการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพเองก็ไปได้ดีเช่นเดียวกัน โดยในปี 2562 ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อยู่ที่ 41,000 ล้านบาทและจากบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอยู่ที่ 409,200 ล้านบาท รวมเป็นรายได้กว่า 450,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 15.6 ของรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม และก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 539,195 คน
4
ทั้งนี้ เป็นเพราะว่า ในธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกเดินทางเข้ามาในไทยเพื่อเข้ามารับบริการทางการแพทย์โดยเฉพาะ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากค่ารักษาที่ค่อนข้างถูกประกอบกับคุณภาพที่ดี ผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับสากล จึงทำให้คุ้มค่ากว่าประเทศคู่แข่งอื่น ๆ โดยเปรียบเทียบ
1
ในส่วนของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเทศไทยเองก็มีศักยภาพในส่วนนี้พอสมควร เนื่องจากมีจุดแข็งในด้านวัฒนธรรมประเพณี และศาสตร์ต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น การนวดแผนไทย รวมถึงมีผู้ประกอบการด้านธุรกิจสุขภาพที่ดี และมีมาตรฐาน เช่น ชีวาศรม รีสอร์ท ที่หัวหิน เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อย่างดี
3
แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้การท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงักลง ธุรกิจการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพที่เคยไปได้ดี ก็มาซบเซาลงตามกัน
สำหรับประเทศไทยเอง ก็ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพมาตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดโควิดอยู่แล้ว โดยในแผนอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ที่รัฐบาลตั้งเอาไว้ก็มีการผลักดัน สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งอยู่ใน กลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่ประเทศไทยมีศักยภาพและสามารถต่อยอดเพิ่มเติมได้ ล่าสุด ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ก็ได้เล็งเห็นโอกาสสำคัญที่เกิดขึ้นจากวิกฤติครั้งนี้ โดยให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ทั้งการพยายามจัดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4 ภาค หรือการประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าต่างชาติให้เข้ามายิ่งขึ้น
การส่งเสริมและสนับสนุนที่กล่าวข้างต้นนี้ เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะสร้างการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่เน้นสร้างมูลค่าที่สูง แทนที่การท่องเที่ยวแบบเดิมที่คาดหวังจำนวนท่องเที่ยวจำนวนมากอย่างเดียว มิฉะนั้น หลังจากนี้ การท่องเที่ยวไทยคงจะไปต่อได้ยาก เนื่องจากหลายประเทศที่เคยเป็นลูกค้าหลักของเรา เช่น ประเทศจีน ก็มีนโยบายสนับสนุนให้คนจีนหันมาท่องเที่ยวในประเทศแทน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เมื่อเป็นเช่นนี้ คงยากที่จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเป็น 40 ล้านคนเช่นเดิม ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงเข้ามาตอบโจทย์สำคัญที่ว่าจะอย่างไรให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่สามารถสร้างรายได้การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้ วิกฤติครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการปรับโมเดลธุรกิจการท่องเที่ยวไทยให้เป็นการท่องเที่ยวมูลค่าสูง พร้อมรับกับ New Normal ที่เกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้ โจทย์สำคัญที่จำเป็นที่ต้องทำ คือจะทำอย่างไรที่จะสร้างโอกาสให้เกิดการแข่งขัน สร้างมาตรฐานที่ดี และยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพให้ดีขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ในแง่ของธุรกิจเชิงการแพทย์ การปลดล็อคกฎเกณฑ์บางส่วนในแง่ของการให้แพทย์ชาวต่างชาติสามารถมาปฏิบัติงานในโรงพยาบาลไทยได้ เพื่อรักษาโรคที่เฉพาะในชาวต่างชาติบางกลุ่ม ที่แพทย์ชาวไทยไม่เชี่ยวชาญในการรักษา หรือการผลักดันให้มีผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ประสานงาน พูดคุยระหว่างคนไข้ชาวต่างชาติและแพทย์ชาวไทย เหมือนกับกรณีของ International Meditour Coordinator ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างของการสื่อสาร และเปิดโอกาสให้สถานพยาบาลในต่างจังหวัด ที่อาจจะไม่ได้มีทรัพยากรหรือบุคลากรที่เพรียบพร้อมเท่าโรงพยาบาลในหัวเมืองใหญ่ สามารถเข้าสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้นด้วย
2
ในแง่ของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็มีอีกหลายสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อเสริมศักยภาพในส่วนนี้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีศักยภาพให้เป็นพื้นที่สำหรับการทำธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ เช่นการผลักดันให้มีการจัดการพื้นที่น้ำพุร้อนจำนวนมากในจังหวัดกระบี่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรดังกล่าวและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ รวมถึงการกำหนดมาตรฐานน้ำพุร้อน และออนเซ็นต่าง ๆ เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะควบคุมคุณภาพให้สามารถแข่งขันสู้กับประเทศอื่นได้ ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์สำคัญที่ถ้าทำได้ อย่างน้อยก็พอจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพเติบโตไปได้อีกไกล
ท้ายที่สุดแล้ว จริงอยู่ที่ วิกฤติโควิด-19 ได้ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่เคยเจริญรุ่งเรืองและเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักของประเทศต้องซบเซามาเป็นปี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้เราหันกลับมาคิด ปรับเปลี่ยน และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ให้พร้อมรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเป็นแรงหลักสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป
ผู้เขียน : เอกศิษฎ์ น้าวิไลเจริญ Economist, Bnomics
➡️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
════════════════
คุณจะไม่พลาดทุกประเด็นเศรษฐกิจ จาก Bnomics
เพียงตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนเพจให้
เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด”
แล้วทุกประเด็นเศรษฐกิจ จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
โฆษณา