7 ก.ย. 2021 เวลา 12:09 • ธุรกิจ
Ep.19
เวลาไม่ถึงศตวรรษ มัสก์ กลายเป็นมหาเศรษฐีในวัย 27 ปีด้วยเงิน 22 ล้านเหรียญ
เขาย้ายจากอพาร์ทเม้นท์หารกันอยู่ 3 คนมาซื้อคอนโด 1,800 ตารางฟุตและตกแต่งใหม่พร้อมด้วยรถหรู
แมคคาเรน F1 ราคา 1 ล้านเหรียญและเครื่องบินใบพัดเล็ก 1 ลำ
ปี 1999(CNN)
(ในวันที่รถมาส่ง มัสก์ให้ CNN มาหาตอน 7:00 น เพื่อถ่ายทำการส่งรถพร้อมจัสตินแฟนสาวยืนข้างๆในเวลานั้น😀❤ เขาขับมันไปทั่ว จนท้ายที่สุดในวันหนึ่ง เขาพา F1 ชนยับ! และบอกภายหลังว่ารถไม่มีประกัน!!)
(มีลิงค์วันที่F1มาส่งและให้สัมภาษณ์สั้นๆเกี่ยวกับบริษัท x.com ด้านล่างครับ❤CNN)
มัสก์ใช้เงิน 12 ล้านก่อตั้ง
บริษัท x.com เขาให้สัมภาษณ์ว่าชอบตัว X เป็นพิเศษ เขาให้เหตุผลว่ามันเหมือนศูนย์รวมของพลังอำนาจ อะไรสักอย่าง...
ปี 1999 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับธุรกิจใหม่ของเขา "ธนาคารอินเทอร์เน็ต"
เหลือใช้ส่วนตัว 4 ล้านเหรียญหลังหักภาษี
มกราคม 1999 ในขณะที่ Zip2 กำลังมองหาผู้ซื้อ.
อีลอน มัสก์ ก็มั่นใจแล้วว่าบริษัทขายได้แน่นอน เขาก็เริ่มวางแผนก่อตั้ง ธุรกิจ ใหม่อย่างเป็นรูปเป็นร่างทันที(ตั้งแต่ยังไม่ได้ขาย Zip2)
กุมภาพันธ์ 1999 Compact ทำข้อตกลงเพื่อซื้อ Zip2 ด้วยเงินสด 307 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มีนาคม 1999 มัสก์ ก่อตั้งบริษัท x.com ซึ่งเป็น บริษัท startup ด้านการเงิน...
หรือจะเรียกว่าเป็น
ธนาคารอินเทอร์เน็ตรายแรกๆของโลกเราเลยก็ว่าได้!!!
ซึ่งเป็นอะไรที่บ้ามากสำหรับในวันนั้น...
ถ้าหากมีใครมาบอกกับเราว่า
"ไว้ใจอินเทอร์เน็ตสิ แล้วฝากเงินผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลยครับ" ก็คงฟังดูเป็นความเสี่ยงทันที เพราะมันเป็นเรื่องใหม่และไม่มีใคร หรือแม้แต่ธนาคารใดกล้าทำอะไรแบบนี้มาก่อน
โดยไอเดียธนาคารอินเทอร์เน็ต
เกิดขึ้นมาจากตอนที่ มัสก์ ฝึกงานที่
"ธนาคารโนวาสโกเทีย" ในปี 1990
ในเวลานั้น มัสก์ ได้รับหน้าที่ดูแล แผนก" หนี้ประเทศด้อยพัฒนา "
ด้วยเงินค่าจ้างชั่วโมงละ 14 เหรียญ
เขาได้เอาไอเดียนี้ไปเสนอกรรมการระดับสูง
แต่พวกเขาปฏิเสธและให้เหตุผลว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก จึงทำให้มัสก์
มองว่า " นายธนาคารมักจะทำอะไร.
ก็ทำตามๆกัน.
ถ้าหากใครบางคน พากระโดดหน้าผา คนอื่นๆ ก็จะกระโดดตามลงไปด้วย "
เป็นอีกครั้ง ที่ มัสก์ ต้องท้าชนกับอุตสาหกรรมที่เงินหนา,มั่นคง และอยู่มาอย่างยาวนาน
เพื่อปฏิวัติวงการธนาคารทั้งหมดบนโลกนี้. และมองว่า "ใครก็ตามไม่สมควรเสียเวลาไปติดต่อธนาคารอีกแล้ว ในเมื่อเราสามารถจัดการทั้งหมดให้เสร็จสรรพผ่านX.comได้ อย่างสะดวกสบาย
เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว
มัสก์ ขายไอเดียสุดบรรเจิดนี้ให้เหล่าบรรดาวิศวกรรระดับหัวกะทิจาก Zip2ฟัง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนเก่งๆเหล่านี้จะ ปฏิเสธ ในเมื่อธรรมชาติของคนเก่งๆจะต้องการความท้าทายใหม่ๆ
พวกเขาจึงมาพร้อมเชื่อมั่น ความฝัน และต้องการเปลี่ยนแปลงโลก เหนือสิ่งอื่นใดคือเชื่อในตัวอีลอนมัสก์
อีลอนมัสก์ยังได้
แฮร์ริส ฟริคเคอร์ และ
คริสโตเฟอร์ เพย์น ผู้มีประสบการณ์ด้านการเงินการธนาคาร...
.
มัสก์ รู้จักและสนิทกับ ฟริคเคอร์
ตอนไปฝึกงานที่ธนาคาร.
ส่วน เพย์น เป็นเพื่อน ฟริคเคอร์.
จะเรียกได้ว่าพวกเขา ผู้ก่อตั้ง x.comก็ไม่ผิด
ส่วนมัสก์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
โดยใช้เงินส่วนตัว 12 ล้าน
หลังจากนั้นเพียง 5 เดือน
ฟริคเคอร์ ผู้ซึ่งมาทำx.comเพื่อต้องการสร้างชื่อจากธนาคารอินเทอร์เน็ต...
ไม่พอใจที่มัสก์ดังออกหน้าออกตา และชอบคุยเกินความเป็นจริงไปมาก.
ทั้งที่ตอนนี้บริษัทยังไม่ถึงขั้นนั้นเลย.
ฟริคเคอร์ เรียกร้องที่จะเป็น CEO
แต่ถ้าไม่ได้เขาจะลาออก
ไปก่อตั้งบริษัทใหม่ของตัวเอง เพื่อจะได้สร้างชื่อเสียงแบบที่หวังไว้
สุดท้ายมัสก์ไม่ยอม
ฟริคเคอร์ตัดสินใจหันหลังให้ X.comแถมยังชักจูงวิศวกรเก่งๆเกือบทั้งหมดตามไปด้วย
เหลือเพียงวิศวกรผู้ภักดีกับมัสก์ไม่กี่คนเท่านั้น
คนใกล้ชิดของมัสก์ให้สัมภาษณ์กับ
แอชลีย์ แวนซ์ ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของมัสก์ ว่า " มีกฎหมายเป็นล้านข้อที่ขวางพวกเราจาก x.com แต่มัสก์ไม่สนใจ เขาเพียงพูดว่า
'เราว่าเราต้องจ้างคนเพิ่ม' "
ปี 1999
มัสก์ออกตะลุยแสวงหาผู้คนทั่วซิลิคอนแวลลีย์ ได้บุคคลเก่งๆมามากมาย ที่จะเป็นกำลังช่วยเสริมทัพให้ x.com หนึ่งในนั้นคือ
ไมค์ มอริทซ์ จาก บริษัทเงินทุนซีโคเอเชีย(Sequoia Capital) วางเดิมพันกับมัสก์และบริษัท x.com
1 สิงหาคม 1999 มัสก์ออกค้นหาวิศวกรและได้
สกอตต์ แอนเดอร์สัน นักวิทยาการคอมพิวเตอร์มาร่วมงาน
พฤศจิกายน ธนาคารบาร์เคลย์ส
ได้รับรองบริษัท x.com
บริษัทเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง.
-ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารและ
ใบอนุญาตจัดตั้งกองทุนรวม และพวกเขามีสามกองทุนรวม3กองทุนให้ลูกค้าเลือกลงทุนอีกด้วย
ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า 1999 X.com เปิดให้บริการ เป็นวันแรก โดยมัสก์ให้เงินส่วนตัว 1 แสนเหรียญ เพื่อทดสอบระบบสำหรับลูกค้าใหม่ได้เงิน 20 เหรียญ
และ 10 เหรียญเมื่อบอกต่อ
ธนาคารอินเทอร์เน็ตไม่มีค่าธรรมเนียมไม่มีค่าปรับเบิกเงินเกินบัญชี และยังสามารถจ่ายเงินจากบุคคลถึงบุคคลโดยใช้แค่ กรอกที่อยู่อีเมลลงเว็บเท่านั้น
แมกซ์ เลฟชิน และ ปีเตอร์ ทีล จากบริษัท startup ธนาคารอินเตอร์เน็ต ชื่อคอนฟินิตี้ (confinity)
ในช่วงเริ่มต้นของบริษัท พวกเขาเช่าห้องเล็กๆในสำนักงานของ x.com และย้ายออกไปอยู่ใกล้ๆ แต่ถนนเดียวกัน ในเวลาต่อมาหลังจากที่ พนักงานเริ่มเยอะขึ้น
ทั้ง 2 บริษัทต่างแข่งขันกันปล่อยฟิวเจอร์เพื่อดึงดูดลูกค้าแข่งกัน!!
PayPal X confinity
มีนาคม ปี 2000
คอนฟินิตี้(confinity)
กับ ผลิตภัณฑ์ ยอดนิยมอย่าง PayPal ที่ฮอตกว่าแต่มีค่าใช้จ่ายสำหรับสมาชิกที่สมัครใหม่วันล่ะแสนเหรียญ จึงทำให้เงินสำรองไม่เพียงพอให้เดินหน้าต่อสู้ในสงครามครั้งนี้
ในขณะที่บริษัท x.com มีเงินทุนเหลือเฟือ
มีผลิตภัณฑ์ทางธนาคารที่ซับซ้อนกว่า จึงเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการควบรวมกิจการ
โดยมีมัสก์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และบริษัทยังคงใช้ชื่อ x.com
หากท่านผู้อ่านนึกไม่เห็นภาพ
ซึ่งเหตุการณ์ ก่อนควบรวมกิจการ เป็นภาพการต่อสู้ที่ยาวนาน เป็นการแข่งขันในเกมธุรกิจที่เรียกได้ว่าสนุกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของบริษัทในอเมริกา!!!
ในช่วงที่บริษัททั้งสองพยายามทำงานร่วมกันให้ได้นั้นเอง
เป็นช่วงเดียวกันกับที่ลูกค้าสมัครเข้าใช้งานอย่างมหาศาล
เกิดสถานการณ์ระบบล่มสัปดาห์ละครั้ง
งานนี้คนที่ลำบากคืออีลอนมัสก์
เขาถูกมองว่าไม่คู่ควรกับตำแหน่ง CEO
ควรหาคนที่มีประสบการณ์มากกว่า มาทำงานแทนเขา
เหตุการณ์นี้ทำให้ อีลอนมัสก์ โดนบีบให้สละตำแหน่ง CEO
ให้ "บิล แฮร์ริส" อดีต CEO บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ทางการเงินอินทูอิท(Intuit)มาเป็นประธานคนใหม่ เป็นครั้งที่ 2
(ซึ่งก่อนหน้านี้ เดือนธันวาคม ก่อนควบรวมกิจการ "บิล" ในฐานะCEOเพิ่งจะลาออก จากบริษัทx.comไปเนื่องจากพนักงานไม่สนับสนุน)
คราวนี้มัสก์โดนยึดอำนาจอีกครั้ง
ซึ่งเป็นข่าวดังในซิลิคอนแวลลีย์
ในระหว่างที่มัสก์กับจัสตินฮันนีมูนเดือนกันยายนปี 2017
ขณะที่พวกเขาขึ้นเครื่องบินในคืนหนึ่ง.
ผู้บริหาร x.com ก็ส่งจดหมายแสดงความไม่ไว้วางใจไปให้กรรมการบริหารบริษัท.
เพื่อปลดมัสก์ลงจากตำแหน่งCEO.
ฝั่งพนักงานผู้ภักดีกับมัสก์
โทรหาเขาอย่างบ้าคลั่ง.
หลังจากที่มัสก์ลงจากเครื่องบินลำนั้น เขาจึงได้รู้ข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น.
มัสก์ขึ้นเครื่องบินลำถัดไป กลับมายังX.comทันที
แต่ก็สายไปเสียแล้ว เหตุการณ์นี้มัสก์ไม่พอใจนิดหน่อย
แต่เมื่อเห็นว่าบริษัทไปต่อได้แล้วเขาก็จึงยอม(มีคนภักดีกับมัสก์ยอมรับว่า ไม่พอใจที่มีการยึดอำนาจแบบนี้ แต่ หากเขายังอยู่ในตำแหน่งอีก 6 เดือน เพย์พาลเจ๋งแน่นอน)
มิถุนายน 2011 X.comเปลี่ยนชื่อเป็น เพย์พาล
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น eBay เริ่มสนใจใน PayPal และเสนอซื้อ
เนื่องจาก"มัสก์"และ "มอร์ริทซ์ "
มองว่ารายได้ 240 ล้านต่อปี ทำให้
เพย์พาวหน้าจะรอไปก่อนได้.
(จริงๆแล้ววิสัยทัศน์ของมัสก์คือ ต้องการ เปลี่ยนระบบธนาคารแบบดั้งเดิมมาเป็นธนาคารระบบอินเตอร์เน็ตทั้งหมดบนโลก)
กรกฎาคม 2012 eBay ซื้อเพย์พาล ด้วยเงิน 1,500 ล้านเหรียญ
มัสก์และ กรรมการบริหารตกลงรับข้อเสนอนี้
มัสก์ได้ส่วนแบ่งประมาณ 250 ล้านเหรียญ
เหลือเพียง 180 ล้านเหรียญหลังหักภาษี
ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้เขาสร้างบริษัทเปลี่ยนโลกในอนาคตต่อไป
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้
หากเรามองย้อนกลับไป อาจจะสงสัยว่าทำไม...
ถึงไม่เชื่อว่าจะมีธนาคารอินเทอร์เน็ตได้
ถ้าเราคิดดูอีกทีวันที่
"คุณ ท็อป จิรายุ ทรัพย์ศรีโสภา" ก่อตั้งบริษัท "บิทคับ" ขึ้นมาในประเทศไทยก็ไม่มีใครมองว่ามันจะเป็นไปได้เช่นเดียวกัน... "ผมเป็นคนส่วนน้อยที่คิดถูกมากๆ ขณะที่คนส่วนใหญ่คิดผิดมากๆ" นี้คือคำพูดของคุณท็อป เช่นเดียวกับที่ อีลอนมัสก์
คิดถูกมากๆถึง2 บริษัท
หากกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้นในเวลานั้นเชื่อแบบเดียวกับที่มัสก์เชื่อแล้วล่ะก็
วันนี้เพย์พาลคงจะครองโลกนี้ไปแล้ว!
PayPal Mafia!
อย่างไรก็ตามพนักงานเพย์พาล
ได้กลายเป็นผู้ก่อตั้ง YouTube,พาลันเทียร์เทคโนโลยีและเยลน์
คนอีกกลุ่มหนึ่งผงาดขึ้นเป็นหนึ่งใน
นักลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับแนวหน้า
นวัตกรรมของ PayPal ริเริ่มระบบเซฟตี้ของ CIA , FBI รวมถึงธนาคารชั้นนำทั่วโลก
พนักงานเหล่านี้ต่างรู้จักกันในชื่อ PayPal Mafia!😀❤
หากท่านชอบเรื่องราวของอีลอนมัสก์กับ PayPal ฝากกดไลค์*กดแชร์*
กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดเรื่องราวต่อไป กับเส้นทางสู่บริษัทอวกาศ
บริษัทที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างอาณานิคม บนดาวอังคาร
SpaceX
หาก ท่านผู้อ่าน มีข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ ได้โปรด
เพิ่มเติม ไว้ที่ช่องแสดงความคิดเห็น ได้เลยนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านท่านอื่นๆต่อไป😊❤🙏
รู้หรือไม่
PayPal บริษัท startup เล็ก ๆ ที่แจ้งเกิดได้เพียงไม่เกิน 3 ปี
พวกเขาสามารถเอาชนะยักษ์ใหญ่อย่าง ebay ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ💖
คลิปวันรับรถ แม็คลาเรน F1 ของ
อีลอนมัสก์1999(CNN)
เกี่ยวกับF1 และ พูดถึงธนาคารอินเทอร์เน็ต x.com
อีลอนมัสก์ ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับF1
ส่งต่อแรงบันดาลใจโดย
The success
โฆษณา