เวลาเราเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เหตุการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
เรามักจะตื่นตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์ยังไง
บ่อยครั้งเราจึงมองดูคนอื่นว่าเขาทำอะไรกัน แล้วเราก็ทำตาม
ซึ่งบางครั้งมันก็ได้ผล
แต่บางครั้งที่เราทำตามคนอื่นโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองว่าทำไปทำไม
ทำเพื่ออะไร แทนที่จะดีขึ้น มันกลับแย่ลง
ซ้ำร้ายมันก็อาจเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นมาก็เป็นได้
ในหนังสือ ONE+ONE=THREE ของผู้เขียน DAVE TROTT
ได้พูดถึงเหตุการณ์จริงเหตุการณ์หนึ่งที่น่าจะเตือนสติเราทุกคนได้อย่างดี
เมื่อ 3-4 ปีก่อน เครื่องบินลำหนึ่งกำลังบินผ่านน่านฟ้าแอฟริกา
เครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสารทั้งหมด 21 คน และมีนักบิน 2 คนด้วยกัน
ในช่วงขณะที่กัปตันกำลังลดระดับความสูงของเครื่องบินเพื่อลงจอด
จู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อลูกจระเข้หลุดออกมาจากกระเป๋าที่มีคนซ่อนขึ้นเครื่อง
ผู้โดยสารเมื่อเห็นลูกจระเข้หลุดออกมาเดินเพ่นพ่านกลางเครื่องบิน ต่างก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก
แอร์โฮสเตสเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไปแจ้งกับนักบิน
บรรดาผู้โดยสารเมื่อเห็นแอร์โฮสเตสวิ่งไปยังห้องนักบิน
ก็พากันวิ่งกรูไปยังห้องนักบินตาม
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าห้องนักบิน
น้ำหนักจึงเทกันมาที่ส่วนหัวของเครื่อง
เครื่องบินจึงหัวทิ่มลงทันที
นักบินรีบประกาศแจ้งให้ผู้โดยสารรีบกลังไปนั่งประจำที่
แต่ด้วยการที่เครื่องบินหัวมันทิ่มลงแล้ว จึงเป็นการยากที่จะเดินกลับไปนั่งที่เดิมได้
นักบินพยายามบังคับเครื่องให้หัวเชิดขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล
เครื่องจึงได้โหม่งชนพื้นโลก
ส่งผลให้นักบินและผู้โดยสาร 20 คน เสียชีวิตทันที
และมีผู้รอดชีวิตเพียง 1 คนเท่านั้น
ส่วนลูกจระเข้รอดชีวิตเพราะอยู่ท้ายเครื่อง
มันคลานออกจากซากเครื่องบิน และพยายามหนีเข้าพุ่มไม้
แต่ก็ถูกชาวบ้านละแวกนั้นพบและฆ่ามันทิ้ง
ใครจะไปคิดว่า
เครื่องบินจะตกเพราะลูกจระเข้ตัวเดียว
หากเป็นเหตุการณ์พบเห็นลูกจระเข้บนพื้นโลกทั่วไป
คิดว่าหลายๆ คนอาจไม่ตกใจมากขนาดนี้ เพราะมีทางหนีไปได้หลายทาง
แต่นี้มันอยู่บนเครื่องบิน บนพื้นที่ปิดที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้
แม้ลูกจระเข้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยมันเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่ควรอยู่บนเครื่อง
จึงทำให้ทุกคนตื่นกลัว ไม่รู้จะทำอะไร พอเห็นคนหนึ่งวิ่งไปที่ห้องนักบินจึงทำตามกันหมด
โดยไม่มีใครนึกถึงเรื่องน้ำหนักว่ามันจะเทไปที่หัวเครื่องซึ่งจะทำให้เครื่องบินตกได้
มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
คิดอะไรไม่ทัน เมื่อเห็นใครทำอะไร ก็จะทำตามโดยอัตโนมัติจนนำไปสู่ผลร้าย
ในโลกปัจจุบัน
เรามักเห็นเหตุการณ์ที่คนแห่กันทำตามสิ่งต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน การใช้ชีวิต ความเชื่อ
ซึ่งหากเราเลือกทำตามโดยคิดพิจารณามีเหตุผลรองรับแล้ว
มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเราคิดมาดีแล้ว
ทางนี้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับเราจริงๆ
แต่หากใครทำตามเพราะเห็นคนอื่นทำๆ กัน
ทำตามเพราะเชื่อคนรู้จัก
ทำตามเพราะกลัวจะผิดแผกไปจากคนอื่น
ถ้าเป็นแบบนี้ เราอาจต้องหยุดคิดสักนิด
ว่ามันใช่สำหรับเราจริงๆ หรือมันมีเหตุผลอะไรที่เราต้องทำไหม
ก่อนที่จะเลือกทำตามคนอื่น
บางทีคนที่เราเลือกทำตาม เขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำไปทำไม
เพราะบางอย่างที่เราเลือกทำไปแล้ว
มันไม่มีโอกาสแก้ตัวได้อีก
คิดก่อนทำทุกเรื่องครับ...
อ้างอิงเนื้อหาจาก
หนังสือ ONE+ONE=THREE
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
