29 พ.ค. 2021 เวลา 05:20 • สุขภาพ
"หวานพอไม่ง้อน้ำตาล"
ช่วงนี้ฤดูผลไม้ ร้อนๆอบอ้าวแดดฝนสลับไป อากาศร้อนชื้นแบบนี้ผลไม้บ้านเรา ออกลูกดกดีนัก ช่วงนี้ผลไม้สุกมีให้เลือกหลากหลาย ตามความชอบทาน กว่าจะรู้ตัวว่า "หนักหวาน" ก็รู้สึกอึดอัดเนื้อตัว พอขึ้นตาชั่งน้ำหนัก ถึงมั่นใจมันหนักขึ้นจริงๆ ให้มานึก เราหยิบอะไรเข้าปากบ้างในช่วงเดือนสองเดือนนี้ ปกติก็เป็นคนระวัดระวังเรื่องการกินน้ำตาล น้ำหวานอยู่แล้วนะ กลัวป่วยเป็นโรคฮิต เบาหวานพร้อมเพื่อนเบาหวาน ก็ไปศีกษามาว่าคน ปกติรับน้ำตาลเข้าร่างกายได้วันหนึ่งไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม จะไม่ทำให้เกิดโทษกับตัวเรา และน้ำตาลที่เราคุ้นเคยกันดีก็ น้ำตาลทราย น้ำตาลก้อน น้ำผึ้ง ขนทหวานต่างๆ แป้งข้าว แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันลืมไป คือน้ำตาลจากผลไม้ และเข้าใจผิดว่าน้ำตาลจากผลไม้ไม่เป็นโทษกับร่างกายเรา จริงๆแล้วน้ำตาลจากผลไม้มี 3 ชนิด คือ น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตสและซูโครส เป็นอาหารกลุ่มคาร์โบโฮเดรตให้พลังงาน เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เลยไม่มีตกค้างในเลือด เนี่ยละค่ะที่เข้าใจ เลยจัดหนักจัดเต็มที่ชอบผลไม้อะไรก็ทานเข้าไปเยอะมาก เลยมีผลกับน้ำหนักพอน้ำหนักเกินก็ทำให้ เหนื่อยง่าย อึดอัด ปวดข้อเข่า อาการอื่นๆตามมา จากการกินแบบไม่เฉลียวใจ จนต้องมาหาความรู้ต่อว่า เราจะกินได้เยอะสุดขนาดใหนถึงจะไม่ป่วย
นี่เป็นตัวอย่างเบื้องต้นให้พอรู้เป็นการเตือนตัวเองว่า วันๆหนึ่งจะหยิบความหวานเข้าไป เราควรหยิบได้เท่าไหร่ ไม่ต้องถึงกับ ชั่ง ตวง วัด กันหรอกค่ะ แค่คร่าวๆ วันละ 6ช้อนชา มาจากใหนได้บ้าง แต่ดูๆแล้วอาหารการกินบ้านเรามีน้ำตาลทุกเมนู คาว หวาน กันทั้งนั้น ยังไงก็ต้องฉลาดเลือกกิน ท่องไว้นะค่ะ "หวานพอแล้วไม่ต้องเพิ่มน้ำตาล"เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ อ้างอิง ISBN 978-616-11-0594-5 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ไทย สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
โฆษณา