30 พ.ค. 2021 เวลา 05:52 • ประวัติศาสตร์
คู่จิ้นและรักวุ่นๆกับวัยรุ่นแห่งปรัสเซีย
“ทหารหาญทั้งหลาย ถ้ากษัตริย์พระองค์นี้ยังมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถมายืนอยู่ที่นี่ได้”
เป็นประโยคของจักรพรรดินโปเลียนผู้เกรียงไกรที่ตรัสยกย่องพระเจ้าเฟดเดอริคมหาราชแห่งปรัสเซีย
พระเจ้าเฟดเดอริคที่2มหาราช
พระเจ้าเฟดเดอริคมหาราชหรือพระเจ้าฟรีดดรีชตามสำเนียงเยอรมัน เป็นพระโอรสของพระเจ้าเฟดเดอริค วิลเลี่ยมที่1และพระราชินีโซเฟีย เฟดเดอริคทรงเป็นนักการทหาร นักการทูต นักปรัชญา นักบริหารที่เก่งกาจ จนประชาชนต่างยกย่องให้เป็นมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันประชาชนทั้งยุโรปต่างรับรู้กันดีว่าพระองค์ทรงมีความรักแบบชายรักชาย
เมื่อพระองค์พระชันษา16ชันษา ทรงพบกับ ปีเตอร์ วอน คีต วัย 17ปี เด็กรับใช้ของพระบิดา ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วและพัฒนาความสัมพันธ์เกินคำว่าเพื่อน จนเป็นที่เลื่องลือในราชสำนัก ครั้งนึงที่เจ้าหญิงวิลเฮล์มมิน่าพระภคินีที่เฟดเดอริคให้ความเคารพรักมากที่สุด ทรงเขียนเตือนพระอนุชาว่าให้ทรงประพฤติให้เหมาะให้ควร และไม่ควรสนิทสนมกันเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่เฟดเดอริคก็ไม่ได้ใส่พระทัยอะไรมากก็ยังคงสานสัมพันธ์กันต่อไป แล้ววันนึงความสัมพันธ์ที่เลื่องลือนั้นทราบไปถึงพระกรรณพระเจ้าเฟดเดอริค วิลเลี่ยม พระราชบิดาเข้า
เจ้าหญิงวิลเฮล์มมิน่า พระภคินี
พระเจ้าเฟดเดอริควิลเลี่ยม พระราชบิดาทรงเป็นกษัตริย์นักรบ มีความเป็นชายสูง เชื่อมันในความเป็นใหญ่ของความเป็นชาย (UltraMasculinity) เมื่อทรงทราบว่าองค์รัชยายาทมีความสัมพันธ์กับชายด้วยกัน ซึ่งขัดความเชื่อของพระองค์ พระองค์มีราชโองการให้ฟอน คีตไปเป็นทหารที่ชายแดนเนเธอร์แลนด์ และส่งองค์รัชทายาทไปชำระบาปที่พระตำหนักวุสเตอร์เฮ้าเซ่นอันห่างไกล แต่ความโศกเศร้าของพระองค์อยู่ได้ไม่นาน เพราะทรงได้คนสนิทคนใหม่ ฮานส์ เฮอร์มาน ฟอน คัตเตอ
พระเจ้าเฟดเดอริควิลเลี่ยมที่1พระบิดา
คัตเตอเป็นนายทหารรุ่นเล็กวัย 18 ปีที่เฟดอเดอริคทรงให้ความสนิทสนมด้วย และเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดของเฟดเดอริคอย่างมาก ถึงขนาดยุแหย่เฟดเดอริคให้หนีการบีบคั้นของพระบิดาไปอังกฤษกับเค้าพร้อมนายทหารวัยรุ่น3คน ทั้งคู่ทำการหลบหนีแต่ถูกจับได้ที่เมืองมานน์ไฮม์ พระบิดามีบัญชาให้คุมขังทั้งคู่แต่ให้ตัดสินพระทัยให้ประหารชีวิตคัตเตอ และทรงบังคับให้เฟดเดอริคดูการประหารชีวิตคนสนิทของพระองค์​ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจแก่พระองค์อย่างมาก ถึงขนาดทรงหันหลังให้ทุกสิ่งและมุ่งมั่นศึกษาการเมืองการปกครอง ปรัชญา จนสร้างความประหลาดพระทัยแก่พระบิดาเป็นอันมาก แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระบิดาและพระองค์ก็เปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้ายลงด้วย
วอน คีต
เมื่อเฟดเดอริคทรงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็ทรงปลีกพระองค์ไปใช้ชีวิตส่วนตัวได้มากขึ้น พระองค์ทรงมีคนสนิทแบบลับๆกับอีกหลายคน แต่คนเหล่านั้นล้วนแต่ทรงเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีประโยชน์ต่อพระองค์และราชอาณาจักร เช่น ไมเคิล กาเบรียล เฟเดอฮอฟ ซึ่งเมื่อพระองค์ครองราชย์ เฟดเดอฮอฟก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่มาช่วยพระองค์ในการบริหาร จนถูกมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ
เฟดเดอฮอฟ
เมื่อทรงครองราชย์แล้ว ทรงย้ายไปประทับพระราชวังซ็องซูซีที่เมืองพ็อทซ์ดัม ที่เต็มไปด้วยข้าราชบริพารผู้ชาย ผู้คนจะเรียกชายเหล่านี้ว่า พ็อทซ์ดัมมิส (Les Potsdamists) ณ ที่นี่พระองค์ศึกษาปรัชญาจนแตกฉาน จาก ฟรานเซสโก้ อัลการอตติ ที่ต่างฝ่ายต่างชื่นชมซึ่งกันและกัน จนกลายมาเป็นคนสนิท พัฒนาการของทั้งคู่มากจากการที่ทั้งคู่ เขียนบทกลอนปรัชญาเชิงอีโรติค ยังมีนักคิดนักเขียน และนักการเมืองอีกหลายคนที่เข้ามาเป็นคนสนิท แต่คำว่าคนสนิทหรือคู่จิ้นของพระองค์ยังคงมีลำดับชั้นความสัมพันธ์ที่นักประวัติศาสตร์มากมายยังคงถกเถียงกันอยู่
ถึงแม้พระองค์มีความรักแบบชายรักชาย แต่พระองค์ก็สามารถสร้างปรัสเซียให้กลายเป็นชาติมหาอำนาจทัดเทียมกับออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษได้ และทรงวางรากฐานให้ปรัสเซียได้รวบรวมชาติพันธุ์เยอรมันเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวในกาลต่อมาได้อีกด้วย
ราชอาณาจักรปรัสเซีย
ขอขอบคุณมี่สละเวลาเข้ามาอ่านครับผม
โฆษณา