"เจาะสันดานดิบของมนุษย์ ผ่านตัวละครใน Berserk"
"ตอนที่ 1 : กริฟฟิธ - ด้านมืดขององค์ชาย"
ในบรรดาตัวละครใน Berserk กริฟฟิธ เป็นตัวละครที่ผมชอบมากที่สุด ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์หรือเพราะเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง (ถ้าคนไม่เคยอ่านมาเห็นรูปนี้ จะคิดว่ากริฟฟิธเป็นพระเอกก็คงไม่แปลก)
แต่เพราะมันเป็นตัวแทนด้านมืดของมนุษย์ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีได้ชัดเจนที่สุด
สรุปโดยย่อสำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน :
กริฟฟิธเป็นลูกของชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ก็มีความฝันเหมือนกับเด็กทั่ว ๆ ไปในยุคกลาง คือ อยากเป็นเจ้าชาย อยากมีปราสาทเป็นของตัวเอง แต่กริฟฟิธต่างจากเด็กทั่ว ๆ ไป คือ เขามีความพยายามอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
เขาเริ่มไล่ล่าความฝันด้วยการตั้งกองทหารรับจ้างในชื่อ "กองพันเหยี่ยว" ค่อย ๆ รวบรวมคนเก่ง ๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดของตัวเอง และด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา นิสัยที่อ่อนโยนเป็นมิตร ฝีมือดาบที่หาตัวจับยาก และสมองอันฉลาดหลักแหลม ทำให้ชื่อเสียงของตัวเขาเองและกองพันเหยี่ยวเป็นที่เลืองลือไปอย่างรวดเร็ว
แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าหน้าฉากที่สวยงามก็มีด้านมืดที่เลวร้ายอยู่เช่นกัน
ด้วยความที่กริฟฟิธเป็นคนธรรมดา การจะหาเงินทุนมาเป็นค่าจ้างให้ทหารในอาณัติของตัวเอง รวมถึงจัดหาสรรพาวุธให้กับกองทัพเป็นเรื่องยาก กริฟฟิธจึงแอบที่ใช้วิธีที่ขัดกับศักดิ์ศรีของตัวเอง นั่นคือยอมร่วมหลับนอนกับขุนนางที่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน แลกกับเงินที่จะเอามาหล่อเลี้ยงกองทัพของเขา
จนกระทั่งโชคชะตาได้หันมาเข้าข้างกริฟฟิธ เมื่อกองพันเหยี่ยวได้ถูกอาณาจักรมิดแลนด์ว่าจ้างให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพในการเข้ารบกับอาณาจักรทูดอร์ในสงคราม 100 ปี ซึ่งเมื่อโอกาสเข้ามาหากริฟฟิธก็ใช้มันได้อย่างคุ้มค่า เขาสร้างผลงานได้อย่างดีในสนามรบจนได้รับการเลื่อนขั้นตามผลงานอย่างต่อเนื่อง และผลงานชิ้นโบว์แดงก็คือเขาสามารถคุมกองพันยึดป้อมปราการของอาณาจักรทูดอร์ที่ว่ากันว่าไม่มีใครตีแตกได้จนสำเร็จ (ซึ่งเอาจริง ๆ เป็นฝีมือของพระเอกมากกว่า) ส่งผลทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวินของอาณาจักรราวกับวีรบุรุษ ท่ามกลางการคัดค้านจากขุนนางหลาย ๆ คน
แม้หน้าฉากจะดูสวยงาม แต่กริฟฟิธก็ยังเลือกใช้วิธีที่สกปรกเพื่อทำให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายได้เร็วขึ้น เขาลอบสังหารราชินีซึ่งตั้งตนเป็นศัตรูอย่างชัดเจน และลักพาตัวลูกสาวของหัวหน้าคณะรัฐมนตรีเพื่อบีบบังคับให้มาเข้าร่วม ซึ่งแผนการสกปรกต่าง ๆ นี้ก็มีพระเอกรับรู้และช่วยเหลือเสมอมาจนทำให้เสี้ยนหนามดูเหมือนจะหายไปจนหมด
แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง พระเอกเกิดรู้สึกอยากค้นหาตัวตนของตัวเองเลยอยากออกจากกองพัน กริฟฟิธ กริฟฟิธที่มองว่าพระเอกเป็นเหมือนแขนของตัวเองในทำเรื่องต่าง ๆ ให้สำเร็จจึงเข้าขัดขวาง จึงเกิดการเดิมพันกันซึ่งผลก็คือพระเอกเป็นฝ่ายชนะ และนั่นยังเป็นการพ่ายแพ้ในการดวลดาบเป็นครั้งแรกด้วย
เมื่อสูญเสียคนที่เป็นเหมือนแขนข้างสำคัญของตัวเองไปก็เกิดความสับสนและกลัวว่าตัวเองจะไปไม่ถึงฝัน เขาจึงเลือกใช้วิธี "รวบรัด" ด้วยการแอบไปมีอะไรกับเจ้าหญิงเพียงคนเดียวของอาณาจักร เผื่อหวังให้พระราชายอมมอบเจ้าหญิงให้กับเขาและเขาก็จะได้ตำแหน่งเจ้าชายโดยปริยาย
แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่กริฟฟิธคิด พระราชาดันรักเจ้าหญิง (ลูกแท้ ๆ ของตัวเอง) มากกว่าลูกสาว เลยจับกริฟฟิธไปขังและให้ผู้คุมค่อย ๆ ทรมานไปเรื่อย ๆ พร้อมกับตามจับสมาชิกกองพันเหยี่ยวที่เหลืออยู่ทุกคน
เพื่อน ๆ ที่หนีรอดมาได้ก็ไปขอร้องให้พระเอกกลับมาช่วยกริฟฟิธออกมาจากคุก เพราะมองว่าพระเอกจะเป็นคนเดียวที่สามารถทำได้ ซึ่งพระเอกก็ทำได้จริง ๆ แต่สภาพของกริฟฟิธที่ถูกช่วยเหลือออกมาได้นั้น ไม่เหลือความสง่างามอีกต่อไป เขาถูกตัดเนื้อเฉือนกระดูกจนแม้แต่จะยืนก็ยังทำไม่ได้
พวกพระเอกได้พากริฟฟิธหลบหนีการไล่ล่าของพระเอกมาได้อย่างทุลักทุเล แต่เมื่อกริฟฟิธรู้ว่าตัวเองไม่สามารถไล่ล่าความฝัน หรือแม้แต่กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงหมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อและคิดจะฆ่าตัวตาย
ในขณะนั้นเอง ปีศาจ (ในเรื่องเรียกว่า God Hand) ได้ปรากฎตัวออกมาและเสนอทางเลือกให้กริฟฟิธได้มีโอกาสได้ไล่ล่าความฝันของตัวเองใหม่อีกครั้ง พร้อมกับจะมอบพลังปีศาจที่จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ตามที่เขาต้องการ โดยแลกกับชีวิตของเพื่อน ๆ ทุกคนในกองพันเหยี่ยว ซึ่งกริฟฟิธก็ตอบตกลง
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการไล่ล่ากันของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ระหว่างนักรบดำ พระเอกซึ่งหนีรอดจากพิธีบูชายัญมาได้ กับกริฟฟิธ เจ้าชายเหยี่ยวที่เกิดขึ้นมาใหม่พร้อมพลังปีศาจ
วิเคราะห์ตัวละคร :
กริฟฟิธเป็นตัวแทนของคนที่ไม่รู้จักควบคุมความต้องการของตัวเอง และไม่เลือกวิธีการที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการนั้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความร่ำรวยเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนในปัจจุบันถวิลหา และเราก็จะเห็นได้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้วิธีที่สังคมมองว่าเป็นเรื่องที่ผิด เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เข้าใกล้กับคำว่าร่ำรวยนั้น ทั้งการค้ายาเสพติดหรือของผิดกฏหมาย ทั้งการค้าบริการทางเพศ การหลอกลวงผู้อื่นให้โอนเงินมาให้ หรือการโกงรูปแบบต่าง ๆ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด แต่ "ความต้องการ" ที่จะให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนานั้นมันสำคัญยิ่งกว่า จนทำให้เขาเหล่านั้นมองข้ามความถูกต้องไป
เพราะหลายคนเชื่อว่า เมื่อเขาก้าวขึ้นไปถึงจุดที่เขาใฝ่ฝั่นแล้ว ทุกคนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความชื่นชม โดยไม่ได้คิดเลยว่าหากมีคนมาเห็น "หนทาง" ที่เขาเลือกใช้ให้ขึ้นมาถึงจุดนั้นได้ เขาจะรู้สึกอย่างไร
และเมื่อเราอยู่กับความต้องการของตัวเองมาก สิ่งที่ตัวละครกริฟฟิธถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ นั่นก็คือ การมองถึงแค่ตัวเอง
เราคนอ่านจะรู้ดีว่า การที่กริฟฟิธถูกจับไปทรมานจนหมดสภาพนั้นมันเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง แต่ตัวกริฟฟิธนั้นกลับคิดว่า ที่เขาต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้นั้นเป็นเพราะพระเอกเลือกที่จะทิ้งเขาไป เขาจึงหมดหนทาง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว หากเขาอดทนมากพอ หนทางสู่ความสำเร็จนั้นก็ยังมีอยู่
และด้วยความคิดแบบ Projection (ปัดความผิดของตัวเองไปให้คนอื่น) นี้เองที่ทำให้กริฟฟิธยินดีมอบชีวิตของเพื่อน ๆ ตัวเองให้กับปีศาจได้โดยไม่คิดอะไรมาก
โดยส่วนตัวแล้ว กริฟฟิธเป็นตัวอย่างของคนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Self-Centered) ที่พบได้มากพอสมควรในสังคมสมัยนี้ได้ดีทีเดียว
แล้วพบกันใหม่ในบทวิเคราะห์ตอนที่สองครับ
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
