สรุป "นี่เราใชีชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ" บทที่ 4
เกือบแย่แล้ว
สำหรับเรามันเหมือนเป็นบทส่งท้ายที่ปลอบโยนชีวิตที่ไม่สมหวัง
คุณฮาวันได้ยกตัวอย่างนิสัยต่างๆที่ไม่ควรทำเพราะไม่เป็นผลดีกับชีวิต เช่น การเปรียบเทียบ การคาดหวังที่มากเกินไป
คุณฮาวันเคยเชื่อว่า คนเราไม่สามารถมีความสุขได้หากพลาดฝัน จึงพยายามมากขึ้นเพื่อจะได้มีความสุข แต่กลับยิ่งทรมานหนัก ช่วงปีหลังๆมา ตัวเขามีความสุขมากขึ้น ไม่ใช่เพราะชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่เป็นเพราะเขาเลิกปฏิเสธตัวเอง เลิกฝืนพยายาม แต่จะยอมรับและชื่นชมตัวเองในตอนนี้แทน
- เราแต่ละคนล้วนมีอัตราความเร็วเป็นของตัวเอง
การสูญเสียอัตราความเร็วส่วนตัวและต้องปรับให้เร็วเท่ากับคนอื่นก่อให้เกิดความทุกข์
การตามหาอัตราความเร็วและเส้นทางที่เป็นของเราอย่างแท้จริงคือสิ่งสำคัญ
- เราควรใช้ชีวิตโดยคิดเสียว่า ถึงตัวตนเราไม่เป็นดั่งหวังก็ไม่เห็นเป็นไร
การพลาดฝันใช่ว่าชีวิตล้มเหลว ไม่มีหรอกนะชีวิตที่ล้มเหลว
- "การเปรียบเทียบ" เป็นวิธีทำให้ตัวเองไร้สุขได้รวดเร็วที่สุด ชนิดที่ไม่พลาดเลย คนเรามักเปรียบเทียบกับคนที่มีระดับเท่าเทียมกันหรือคนที่เราคิดว่าเขาแย่กว่าตัวเราเอง เราถึงอิจฉาจนแทบบ้าเมื่อเห็นคนเหล่านี้ "มีสิ่งที่เราไม่มี"
ยกตัวอย่างเช่น ที่พ่อแม่ชอบเปรียบเทียบเรากับลูกเพื่อนแม่(พ่อ)อยู่เสมอ
- อย่าตัดสินคนจากผลที่เห็น ให้มองเรื่องราวด้วย ไม่งั้นนิสัยนี้จะย้อนเข้าหาเราเหมือนบูมมาแรงให้เราตัดสินชีวิตตัวเองด้วย
- ได้มาก็ต่อเมื่อเสียไป คุณฮาวันยกตัวอย่าง เพื่อนที่เลิกกับแฟน (การบอกลาคนรักเก่าเท่ากับอนุญาตตัวเราให้เจอใครคนใหม่)
เราอาจจะอิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จ โดยไม่รู้ว่าเขาต้องแลกมาด้วยสุขภาพหรือสายสัมพันธ์ในครอบครัว กว่าจะได้รับความสำเร็จ
ภาพจากหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 하마터면 열심히 살 뻔했다
ผู้เขียน: Ha Wan 하완
ผู้แปล: ตรองสิริ ทองคำใส
สำนักพิมพ์: Springbooks
จำนวนหน้า: 279 หน้า
ราคา: 295 บาท
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
