1 มิ.ย. 2021 เวลา 23:58 • ปรัชญา
"ระวัง! ผลข้างเคียงจากการคิดบวก"
คิดบวกดีมั้ย ดีมากอยู่แล้ว
แต่ความดีอย่างเดียว
มันไม่พอ สำหรับความพ้นทุกข์
และในชั้นลึก
มันกลับเป็นเครื่องกางกั้น
ปิดบังความจริงแท้เอาไว้
5
ธรรมะมีหลายระดับ
จะเกิดการหักมุม พลิกกันไปมา
ต้องศึกษาแนวทางไว้อย่างรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน
1
สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร
ยังเดินไม่ถึงปลายทาง
อย่าพึ่งมั่นใจอะไรผิด ๆ
Photo by 30daysreplay Germany on Unsplash
ทางสายกลางอยู่ที่ 0 พอดีเป๊ะ
- 0.00...1 ก็ไม่ใช่
+ 0.00...1 ก็ไม่ใช่
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่า 'ทางสายกลาง'
ไม่ใช่ทางสายบวก
ไม่บวก ไม่ลบ
เป็นกลาง เป็นธรรมชาติ ธรรมดา
ธรรมะแท้จริงนั้น เรียบง่าย
แต่เป็นความธรรมดาที่แฝงไปด้วยเทคนิคขั้นสูง
งานละเอียด ปราณีต แยบยล พิถีพิถัน
คล้าย ๆ กับ Makeup no Makeup โดยมืออาชีพ
เมื่อจิตติดลบ
จึงต้องมีการเร่งความเพียร ยกระดับจิต
ให้กลับขึ้นมาอยู่ในแถว ๆ ระดับ 0
หรืออยู่กับฐาน (กาย เวทนา จิต ธรรม)
1
ถ้าบวกมากเกินไปก็ลอยขึ้นไปสู่ความปรุงแต่ง
ต้องลดระดับลงมา ผ่อนลงมา
ผ่อนลงมาเกิน เกิดติดลบ ก็ต้องเร่งความเพียรอีก
ปรับสายพิณกันตามสถานการณ์
เพราะเฉพาะตรงที่จิตตั้งมั่นอยู่กับฐาน
จึงจะสามารถเห็นความจริงตามความเป็นจริง
ฝั่งบวก หรือ ลบ ล้วนตกไปในฝั่งของการปรุงแต่ง
หรือ จิตออกจากฐานไป
เมื่อจิตอยู่กับฐานมาก ๆ เข้า
ศีล สมาธิ ปัญญาลงตัว พอดิบพอดี
ก็จะเกิดการรู้แจ้งแทงตลอดอริยสัจ ๔
ตามความเป็นจริง
อยู่บนความจริงแท้ลงล็อกที่ 0 พอดีเป๊ะ
คือ ทางสายกลาง ไม่พักและไม่เพียร ได้อย่างแท้จริง
ทุกข์มีหลายระดับ
ในระดับที่ลึกที่สุด ที่เราอาจยังมองไม่เห็น
คือ ความทุกข์ที่แฝงมากับความดี ความสุขโลก ๆ
ความอยากให้ตัวเองดี
อยากให้ตัวเองเป็นสุข
อยากเป็นที่รักใคร่เอ็นดู ฯลฯ
ซึ่งมันเป็นความไร้เดียงสาโดนส่วนเดียว
ถูกหลอกกันซึ่ง ๆ หน้า
ยังไม่มีปัญญาเห็นกันเลย
1
ความจริง มันไม่น่าฟัง ไม่น่าพิศมัยอะไร
ทนฟังไม่ได้ ยอมรับไม่ได้
แล้วยังไง
ทำไมถึงมีน่าฟัง ไม่น่าฟัง ขึ้นมาได้
เพราะ หลงยึดถือของที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาเองล้วน ๆ
อ่อนแอ ก็แพ้ไป
หลงนอนจมกับกองทุกข์ กองกิเลสกันต่อไป
พ่ายมาแล้วกี่ชาติ แล้วจะแพ้ไปอีกกี่ชาติ
ถามใจตัวเองกันดู
แพ้อะไรไม่แพ้ ดันยอมแพ้กับความจริง
ไม่ยอมเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
ก็เลยหลงทุกข์กันเองไปเรื่อย ๆ ...
มันเกิดการเทียบเราเทียบเขาขึ้นมา
เพราะความยึดมั่นถือมั่น
ทำอะไรก็เอาเข้าตัวหมด
หลงอยู่ในโลกแห่งการปรุงแต่ง ถือตัวถือตนขึ้นมาเอง
• เลิศกว่าเขา สำคัญว่าเลิศกว่าเขา ๑
• เลิศกว่าเขา สำคัญว่าเสมอเขา ๑
• เลิศกว่าเขา สำคัญว่าเลวกว่าเขา ๑
• เสมอเขา สำคัญว่าเลิศกว่าเขา ๑
• เสมอเขา สำคัญว่าเสมอเขา ๑
• เสมอเขา สำคัญว่าเลวกว่าเขา ๑
• เลวกว่าเขา สำคัญว่าเลิศกว่าเขา ๑
• เลวกว่าเขา สำคัญว่าเสมอเขา ๑
• เลวกว่าเขา สำคัญว่าเลวกว่าเขา ๑
1
กายนี้ ใจนี้ มีแต่ทุกข์ล้วน ๆ ไม่ใช่ของดีของวิเศษ
จะมาแสวงหาความสุขอะไรจากสิ่งที่เป็นทุกข์
จะมาเอาดี เอาอะไร กับสิ่งที่ไม่เที่ยง
แปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ความหลงยึดถือ หลงหวงแหนในกายนี้ ใจนี้
มาจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ถึงความเป็นจริง
มันเป็นทุกข์ เพราะว่ามันไม่เที่ยง
ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
แปรปรวนไปตลอดเวลา ไม่เคยมั่นคงถาวร
มันยอมรับความจริงในข้อนี้ไม่ได้
จึงต้องดิ้นรน ปรุงแต่งหนีความจริงไปเรื่อย ๆ
ในเมื่อมีความตายเป็นเบื้องหน้ากันอยู่แล้ว
ยังจะต้องคิดอะไรกันอีก
ดีก็ไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง ทุกข์ก็ไม่เที่ยง
กุศลก็ไม่เที่ยง อกุศลก็ไม่เที่ยง
ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้เลยในโลกหล้า
ยอมรับความจริงตามความเป็นจริง
คือ ทางออกเดียวที่เหมาะสมที่สุด
ปล่อยความยึดถือ คลายทิฏฐิทั้งหมดลง
ทุกข์เกิดเพราะมีเหตุ ทุกข์ดับเพราะเหตุดับ
ไม่ใช่เพราะความอยาก
อยากให้สุขอยู่นาน ๆ
อยากให้ทุกข์หายไป
ทุกข์จะไม่มีวันดับเพราะ ความอยาก
ในทางกลับกัน
ทุกข์ทั้งหมดดับลง เพราะสิ้นตัณหา สิ้นความอยาก
จึงพบกับ ความสุขที่แท้จริง
ธรรมชาติเดิมแท้ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ก่อนที่จะมีการปรุงแต่งความอยาก ความดิ้นรน
จนกลายเป็นทุกข์ในภายหลัง
ความสุขที่แท้จริง ไม่เคยหายไปไหน
เพียงยอมรับความจริง
เท่านั้นเลย จริง ๆ ...
1
อ้างอิง :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา