1 มิ.ย. 2021 เวลา 08:39 • ท่องเที่ยว
🏯เหมือนไปใช้ชีวิตอยู่ในหนังจีนโบราณ นอนในโรงเตี๊ยม คนไทยยังไม่ค่อยได้ไปเมืองนี้🏯
😎สวัสดีครับ ไกด์ปิงกลับมาอีกแล้ว หลังจากไปหาดึงรูปเก่า ๆ สวย ๆ มาแบ่งปันให้ดูกัน EP นี้อาจจะยาวนิดนึง(ซึ่งก็เหมือนทุก EP) แต่อยากเล่าให้ได้เห็นภาพกันเยอะ ๆ ถ้ายังไม่หลับซะก่อน
🌸วันนี้จะพาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนกัน เส้นทางมุ่งหน้าสู่มองโกเลีย แต่เราจะปักหลักกันที่เมืองเล็ก ๆ เมืองนึงของมณฑลซันซี ที่เคยอุดมไปด้วยเหมืองถ่านหิน แต่ตอนนี้ทางการจีนสั่งปิดไปเป็นส่วนมากแล้ว ด้วยปัญหาสภาพหมอกควันพิษ เลยมีการเปลี่ยนช่องทางการหารายได้ มาจากการท่องเที่ยวแทน ซึ่งที่นี่ก็มีสถานที่สวย ๆ ทั้งทางธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมาให้ดูก็หลายแห่ง
🚄แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาในการเดินทาง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้มณฑลนี้ ไม่ค่อยมีกรุ๊ปทัวร์คนไทยให้เห็นนัก แต่สำหรับผม ที่เป็นหัวหน้าทัวร์ให้ชาวฮอลแลนด์ ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้ง มันหลายสัปดาห์ ก็เลยมีเวลาฉีกออกไปยังเมืองโบราณที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งนึงในประเทศจีน
หลังกำแพงยังเป็นบ้านพักอาศัยครับ
🏛พูดถึงเมืองโบราณในจีน คนที่เคยไป ก็คงคุ้นชื่อ ลี่เจียง ต้าหลี่ ในมณฑลยูนนาน ที่อยู่ใกล้บ้านเรามากกว่า แต่วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวเมือง "ผิงเหยา" หนึ่งในเมืองมรดกโลกของจีน ที่หลายคนยังไม่เคยได้ยินชื่อ แม้แต่ผมเอง ครั้งแรกที่ไป ยังตกตะลึงในความงาม ความเก่าแก่ ที่ยังมีชีวิตของเมืองนี้ และเมืองนี้ ยังถือว่าเป็น "วอลล์สตรีท" ศูนย์กลางทางธุรกิจ การเงิน การธนาคาร แห่งแรกของจีน และอันดับต้น ๆ ของโลกด้วย มีอะไรให้ดูบ้าง ในเมืองเก่าผิงเหยา ตามผมมากันครับ
🤟🏻อันดับแรก ขอชื่นชมรัฐบาลจีน ที่อนุรักษ์และมีการจัดการเมืองเก่าที่เข้มแข็งมาก จะเป็นมรดกโลกหรือไม่ เค้าไม่ได้สนใจมากนัก แต่ถ้าขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์โบราณสถานปุ๊บ อาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย ถึงแม้จะเก่า ชำรุดทรุดโทรม เค้าก็จะไม่ทำลายแล้วสร้างเมืองใหม่ เหมือนเช่นที่นี่ หลายเมืองจะมีเขตเมืองเก่า และเมืองใหม่ รอบนอกก็จะมีตึกรามบ้านช่องที่ดูทันสมัยผุดขึ้นมา มีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ถัดไปถ้าเป็นเขตเมืองเก่า บางแห่ง อย่างเช่นที่นี่ ก็จะมีกำแพงเมืองโบราณล้อมรอบ คล้าย ๆ เชียงใหม่ สุโขทัย เป็นต้น แต่ของเราเหลือแค่บางส่วน ของเค้ายังเหลือเต็มรูปแบบเลย และด้านในก็จะเป็นอาคารบ้านพัก แบบโบราณทั้งหมด แม้ว่าจะแปรรูปเป็นร้านค้า โรงแรม แต่ก็ต้องคงรูปแบบโบราณไว้ทั้งหมด
หนึ่งในโรงเตี๊ยม
🌸เมื่อหลายปีก่อน เคยมีบางโรงแรม หรือเราเรียกว่า "โรงเตี๊ยม" เพราะสภาพ บรรยากาศ คือโรงเตี๊ยมที่เราเห็นกันในหนังจีนโบราณ แต่ "เสี่ยวเอ้อ" ก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามยุคสมัย บางแห่งเคยมีการต่อเติมให้สูงขึ้น เพิ่มห้องพักมากขึ้น แต่พอผมไปอีกทีกลายเป็นถูกรื้อ เพราะทางรัฐบาลเห็นว่าความสูงส่วนที่ต่อเติม เกือบจะเทียบเท่าความสูงของกำแพงเมือง ไม่ได้ ต้องรื้อ ไม่มีการอุทธรณ์ ฎีกาใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะทำได้กลมกลืนกับของเก่าก็ตามเลยทำให้เราไม่เห็นทิวทัศน์อุจาด
🌸บางครั้งเป็นที่น่าเสียดาย ที่อาจจะมีกรุ๊ปทัวร์คนไทยไปเที่ยวเมืองนี้ แต่ที่พักกลายเป็นว่าไปอยู่โรงแรมทันสมัย ในเขตเมืองใหม่ และมีโปรแกรมพามาเดินเที่ยวเมืองเก่าให้พอผ่านสายตา ให้ได้ชื่อว่ามาที่เมือง ผิงเหยานี่แล้ว เลยขาดอรรถรสไปนิด แต่บางอารมณ์ผมก็เข้าใจเรื่องระบบระเบียบการเข้าพักในโรงแรมในเขตเมืองเก่า เพราะเป็นเขตอนุรักษ์ เลยไม่สามารถนำรถบัสนำเที่ยวขนาดใหญ่เข้าไปในตัวเมืองได้ เลยอาจจะไม่สะดวกในการจัด และราคาโรงเตี๊ยมในเมืองเก่า จะสูงกว่าโรงแรมทันสมัยข้างนอก
ด้านในของโรงเตี๊ยมเรา
🌸ช่วงเวลากลางวัน ถนนส่วนมาก ไม่อนุญาตให้ขับรถ แม้แต่จักรยาน เค้าจะปิดให้คนเดินเที่ยวกันเกือบทั่วเมือง เพราะมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้เยี่ยมชม เช่น ธนาคารโบราณ ตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์หมิง ถึงราชวงศ์ชิง อาคารศูนย์ราชการโบราณสมัย หมิง-ชิง เช่นกัน ​มีร้านอาหาร ร้านชา ร้านกาแฟให้นั่งชิล มีร้านขายของที่ระลึกโดยเฉพาะร้านขายซีอิ๊ว "ชิกโฉ่ว" ที่กลิ่นตลบอบอวล ให้ชิมให้ซื้อหาเป็นของฝากมากมายหลายร้าน
ร้านขายของที่ระลึก
🚌การเข้าไปในตัวเมืองเก่าจากลานจอดรถใหญ่ ก็จะมีรถไฟฟ้าบริการ อันนี้ก่อนขึ้น ผมก็ต้องบอกลูกทัวร์ว่า คนขับทุกคนมีแซ่เหมือนกันหมด คือ "แซ่ชู" ก็สร้างความสงสัยให้ลูกทัวร์ว่าทำไมเค้ารับแต่คนแซ่เดียวกัน ผมก็บอกว่า นั่งไป เดี๋ยวก็รู้ แต่ระหว่างทาง อย่าทำตัวเป็นมิตรกับผู้คนมากนัก ไม่ต้องมาโบกไม้โบกมือทักทายคนที่ผ่านไปมา เก็บทุกส่วนของร่างกายไว้ในยานพาหนะ มิฉะนั้น อาจจะต้องบอกลา นิ้วมือ หรือแขนขากันไป เพราะบางครั้ง มิสเตอร์ชูจะต้องขับเข้าตรอกที่แคบมาก ๆ และยังมีรถไฟฟ้าวิ่งสวนกันไปมา อาจเกิดอุบัติเหตุกับอวัยวะ แต่ยานพาหนะ ไม่มีปัญหา ทุกมิสเตอร์ชู รู้วิธีหลบหลีกกันเองเป็นอย่างดี
หนึ่งในวิธีการชมเมืองของเรา
🚘จนกระทั่งถึงที่หมาย ลูกทัวร์ก็ถึงบางอ้อ ว่าทำไมคนขับรถ ถึงเป็นมิสเตอร์ชูกันหมด มาจาก "ชูมัคเกอร์" นักขับรถแข่งนั่นเอง ผมก็ขยายความต่อว่า คนเหล่านี้ มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักขับรถแข่ง แต่ตกรอบ เลยต้องมาซิ่งที่นี่แทน จริง ๆ แล้วเค้าไม่ได้ขับเร็วอะไรหรอกครับ แต่เป็นตรอกเล็ก ๆ ผู้คนเดินขวักไขว่ เลยทำให้ดูเหมือนขับเร็วเท่านั้นเอง
🏤ถึงเวลาเช็คอินเข้าห้อง ก็สร้างความอเมซซิ่งให้ลูกทัวร์เหมือนกัน พอเข้าห้องของตัวเองได้ซักพัก เหล่าแมงหวี่ฝรั่งก็จะออกมารวมตัวกันในลานของโรงเตี๊ยม ที่ลักษณธก็คล้าย ๆ กับบ้านในหูท่ง ที่ปักกิ่ง ที่ผมเล่าใน EP ก่อนหน้านี้ ทุกคนตื่นตาตื่นใจในอาคารแบบโบราณ บางแห่งมีอายุร่วมร้อยปี กับเฟอร์นิเจอร์ในห้องแบบโบราณ แต่แฝงด้วยความสะดวกสบาย มีทั้งไวไฟ กาต้มน้ำร้อน ทีวีจอแบน ทุกอย่างผสมปนเปกันได้ดี
บรรยากาศด้านใน ของหนึ่งในโรงเตี๊ยม และห้องพัก
🏦จากที่ผมบอก ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ สมัยโบราณของจีน มีระบบธนาคาร น่าจะเป็นแห่งแรกของโลก มีเคาเตอร์ฝากเงิน มีตู้เซฟ การใช้ระบบ ดราฟท์ ฝากถอนเงิน มีบริษัทรักษาความปลอดภัย มีระบบการใช้พาสเวิร์ดเพื่อเบิกถอน ที่ผมพูดมานี่คือย้อนกลับไปราวสามร้อยปีนะครับ
ตำรวจโบราณแต่ยังมีชีวิตอยู่
🏛มีศูนย์ราชการสมัยหมิง-ชิง ที่ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชม เช่นเดียวกับธนาคารโบราณทั้งหลาย ที่หลายอย่างมีคำอธิบายเป็นภาษาจีน สำหรับคนต่างชาติบางคนอาจจะไม่อินเท่าไหร่ เพราะไม่เข้าใจว่าสถานที่นี้คืออะไร ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังคำอธิบายจากไกด์ เคยมีลูกทัวร์ถามผมว่า ที่นี่คือวัดหรือไง ตอนอยู่ข้างในที่ว่าราชการ เพราะรูปทรงอาคารโบราณของจีน มันคล้าย ๆ กันหมด ต่างกันแค่รายละเอียด ผมเลยต้องพาไปดูจุดที่เป็นไฮไลท์ของอาคาร จะได้ถึงบางอ้อ คือห้องทรมานนักโทษ ที่มีอุปกรณ์ทรมานอยู่ในตู้โชว์หลายแบบเลย อย่างเช่นรองเท้าเหล็ก คือจะให้นักโทษสวมลงไป แล้วไปยืนบนเตาไฟ เพราะเป็นการลงโทษ หรือม้าไม้ ที่อานม้าฝังด้วยตะปูที่เอาด้านแหลมขึ้น ให้นักโทษขึ้นนั่ง สนใจใคร่ลอง จองทัวร์ล่วงหน้ากับไกด์ปิงเลยครับ ฟ้าเปิดเมื่อไหร่ เราไปกัน
1
หอคอยด้านหน้าศูนย์ราชการโบราณ
🏦ทำไมเมืองนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางการเงิน ธนาคาร ทั้ง ๆ ที่เป็นเมืองเล็ก ๆ ก็เพราะว่าทำเลที่ตั้ง อยู่ระหว่างเมืองหลวงปักกิ่ง กับชายแดนมองโกเลีย สมัยก่อนก็จะมีพ่อค้าวานิช ที่ทำการค้าขายสินค้าพวกข้าว เกลือ ซีอิ๊ว เพื่อเป็นเสบียงส่งให้กองทหารที่อยู่รักษาแนวชายแดน(ตอนนั้นไม่มีการค้าชายแดนนะครับ) เสร็จแล้วการจะหอบเงินหอบทอง เดินทางรอนแรมไปบ้านเกิดเมืองนอน จะไม่ปลอดภัย มักจะมีโจรปล้นกันระหว่างทาง เราอาจจะเคยเห็นหนังสมัยก่อน เลยมีการตั้งธนาคารขึ้น และบริษัทรักษาความปลอดภัย ที่จะมีบรรดาจอมยุทธ์คอยคุ้มกันธนาคาร และคาราวานขนทรัพย์สินมีค้า แทนบรรดาพ่อค้ามือเปล่า มันมีที่มาคร่าว ๆ ฉะนี้แล
👨‍👩‍👦‍👦นักท่องเที่ยวก็มักจะเป็นเดินเล่นบนกำแพงเมืองโบราณด้วย ที่ด้านในเป็นดินเหนียวและด้านนอกก่อด้วยอิฐ มีป้อมปราการอยู่รายรอบ เวลาเดินเที่ยวก็สามารถชมวิวเมืองเก่าอยู่ด้านนึง แต่ต้องไม่ชิดขอบกำแพงเกินไปนะ ไม่งั้นถ้าเกิดพลาด แทนที่จะเดินชมเมืองจากด้านบน กลายเป็นร่วงลงไปอยู่ในเมืองในสภาพที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก มองไปไกล ๆ ก็เห็นเมืองใหม่อีกด้านนึง มองเห็นความเก่ากับความใหม่จากจุด ๆ เดียว
เดินเล่นบนกำแพงเมือง
🧓เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ ไม่ได้มีแต่ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก หรือพิพิธภัณฑ์ บางทีผมตื่นตอนเช้า ลงมาจากโรงเตี๊ยม ก็ถือโอกาสจ๊อกกิ้งไปทั่ว ๆ เมืองเก่า ซึ่งจะมีถนนสายหลักอยู่ 3-4 สาย ที่เป็นถนนการค้า แต่พอออกจากโซนนี้เป็นก็ยังเป็นเขตที่คนท้องถิ่นอาศัยอยู่ ดูอาแปะ อาม่า อากง มานั่งผิงแดดจิบน้ำชาคุยกันยามเช้า มาซื้อซาลาเปา หมั่นโถว ปาท่องโก๋ตัวโต ๆ ไปกินเป็นอาหารเช้า บรรยากาศเหมือนย้อนยุคไปหลายสิบหรือนับร้อยปีก่อน วิ่งไปชิลไป
🤟🏻มาถึงตรงนี้ หลายท่านคงได้ไอเดียขึ้นมาเพิ่มเติม ว่าสถานที่เที่ยวของประเทศจีน ยังมีอีกมากมาย ไม่ได้มีแค่ปักกิ่ง ซีอาน เซี่ยงไฮ้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเวลาและงบประมาณของเรา ที่จะมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองโบราณที่น่ารักแห่งนี้รึเปล่า ใครยังสนใจอยากรู้ อยากอ่าน เรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของผม อย่าลืมกดติดตาม กดแชร์ แนะนำเพื่อนฝูงให้มาตามเพจผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ🙏
ท่านขุนนางรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่
ห้องพักผ่อน (มั้ง) ภาษาอังกฤษเขียนไว้ สาธารณะ มีอยู่ทั่วไป สะอาดใช้ได้
โฆษณา