คะแนนพิศวาสนั้นมีอยู่จริง💯
สมัยเรียนหนังสือ หากคุณไม่ใช่นักเรียนคนโปรดของครู
คุณเคยแอบรู้สึกบ้างไหมว่า เพื่อนบางคนมีคะแนนผลการสอบที่ดีเกินความสามารถ
และเพื่อนคนที่ว่า ก็มักจะเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เป็นนักเรียนคนโปรดของคุณครู
เรามักจะแอบซุบซิบกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นว่า เพื่อนคนนี้มันต้องได้คะแนนพิศวาสแน่เลย....
สมมติฐานสมัยเด็ก ที่ติดค้างในใจมานาน บัดนี้ถูกเฉลยออกมาแล้วด้วยผลการวิจัยที่ระบุว่า...
คะแนนพิศวาส มันมีอยู่จริง😬
..
มีรายงานการวิจัยอย่างน้อยจากสองแห่งคือ Queen University Belfast และ Goldsmiths,University of London ที่เผยผลการศึกษาด้านจิตวิทยาการเรียนการสอน พบว่า..
การพิจารณาให้คะแนนของครูจากผลการสอบแบบอัตนัย(ข้อเขียน)มีความโน้มเอียงในทางบวกต่อพฤติกรรมของเด็กนักเรียนที่ว่านอนสอนง่ายอยู่ 10%
เมื่อแปลไทยเป็นไทยก็หมายถึง คุณครูมักจะมีคะแนนพิศวาสให้เด็กดี(ในสายตาครู) 10% อยู่เสมอ
โดยมีการวิเคราะห์ผลคะแนนการสอบข้อเขียนของนักเรียนมัธยมในรัสเซียจำนวน 1,200 คน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับความเห็นต่อลักษณะอุปนิสัย ที่ครูมีต่อเด็กแต่ละคน พบว่า..
คะแนนสอบของเด็กดีในสายตาของครูมีผลคะแนนมากกว่าโดยเฉลี่ย 10%
ทั้งที่คำตอบในข้อสอบไม่ได้เป็นเช่นนั้น
กลับกัน ในเด็กที่มีพฤติกรรมแย่ นิสัยไม่ดีในสายตาครู
ก็จะมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ทั้งที่คำตอบในข้อสอบก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่นกัน
จากผลการวิจัยยังบอกต่อไปอีกว่า นิสัยใจคอ ไม่มีผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำข้อสอบของเด็ก
กล่าวคือ เด็กนิสัยดีไม่ได้แปลว่าจะทำข้อสอบได้ดีและเด็กนิสัยไม่ดีก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะทำข้อสอบได้แย่
ทั้งนี้นอกจากคะแนนพิศวาสจะปรากฏในเด็กที่นิสัยดีในสายตาครูแล้ว ยังปรากฏในเด็กที่มีความน่าสงสารอีกด้วย
เด็กที่มีภาวะเจ็บป่วย ซึมเศร้าหรือประสบปัญหาชีวิตรุนแรงเหล่านี้ มีแนวโน้มที่ครูจะบวกคะแนนเพิ่มให้มากกว่าเด็กปกติทั่วไปเสมอ
..
นักวิจัยได้ให้ความเห็นต่อผลการศึกษาชิ้นนี้ว่า อคติที่ครูมีต่อเด็กนักเรียนไม่ว่าในทางบวกหรือลบ
ไม่ควรถูกนำมาใช้ในการวัดผลทางวิชาการ
เพราะถือว่าไม่ยุติธรรม
..
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น เรื่องนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าครูทุกคนจะเป็นแบบนี้ เพียงแค่ผลการศึกษาชิ้นนี้ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า คะแนนพิศวาสนั้นมีอยู่จริง ๆ เราไม่ได้คิดกันไปเอง
สำหรับผู้เขียนมองว่า การส่งเสริมเด็กดี เป็นสิ่งที่คุณครูควรทำ
แต่วิธีการสนับสนุนด้วยคะแนนพิศวาส มันเหมือนการสนับสนุนในทางลับ ที่ไม่โปร่งใส
อาจสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับเด็กคนอื่น ๆ ได้
ปัญหาที่จะตามมาก็คือ ความศรัทธาของเด็ก ๆ ในตัวครูจะลดลง
ซึ่งจะสร้างปัญหาในการปกครอง ดูแลเด็ก ในระยะยาวต่อไป
คุณครูควรสนับสนุนเด็กดีอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม ด้วยการเปิดเงื่อนไขการให้คะแนนอื่น ๆ นอกเหนือจากผลการสอบทางวิชาการ
เช่นการให้คะแนนจิตพิสัยแบบที่มีรายละเอียด เป็นต้น
..
ตอนเด็ก ๆ ถ้าใครจำได้ ครูจะมีประโยคเตือนใจให้เราท่องกันบ่อย ๆ
"เด็กดีไม่ดื้อ เด็กดื้อไม่ดี
เด็กดื้อถูกตี เด็กดีถูกชม"
มันยังจริงใช่ไหมครับ?
..
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
